คุณอยู่ที่

  • บทความ
  • ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
  • ช่องทางบริการธนาคาร
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการช่วยเหลือ
  • ลิงก์ด่วน
ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
เกี่ยวกับเรา
Financial Guru
Business Maker
Lifestyle Tips
ลงทุน
บริการโอนเงินระหว่างประเทศ
CIMB THAI App
ข่าวและกิจกรรม

 

การออมเงิน ถือเป็นก้าวแรกในการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต การเก็บออมสำหรับการลงทุน หรือเพียงแค่การมีเงินสำรองเพื่อใช้ยามฉุกเฉิน ไม่ว่าคุณจะมีเป้าหมายทางการเงินในรูปแบบใดก็ตาม บัญชีออมทรัพย์ที่เหมาะสมจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้ การเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่ตรงกับความต้องการของคุณไม่เพียงช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากเงินออม แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการการเงินของคุณให้ดีขึ้นอีกด้วย แล้วบัญชีออมทรัพย์ คืออะไร บัญชีธนาคารมีกี่ประเภท หาคำตอบได้จากบทความนี้

 

บัญชีธนาคารมีกี่ประเภท มีอะไรบ้าง

โดยส่วนใหญ่ธนาคารจะมี ประเภทบัญชีเงินฝาก อยู่ 3 รูปแบบ นั่นก็คือ บัญชีออมทรัพย์ บัญชีเงินฝากประจำ และ บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน โดยแต่ละประเภทบัญชีเงินฝากจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปดังนี้

1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (Savings Account)

บัญชีออมทรัพย์ คือ บัญชีธนาคารประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถฝากเงินเข้าไปเก็บไว้ได้อย่างปลอดภัย และสามารถถอนเงินออกมาใช้ได้ตลอดเวลา โดยบัญชีประเภทนี้มักจะมีอัตราดอกเบี้ยให้กับเงินฝาก ซึ่งแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจจะไม่สูงมากนัก แต่ก็เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับเงินออมของเราได้ในระดับหนึ่ง 

2. บัญชีเงินฝากประจำ (fixed deposit account)​

fixed deposit คือ บัญชีเงินฝากที่มีระยะเวลากำหนดแน่นอน เช่น 3 เดือน, 6 เดือน หรือ 1 ปี โดยอัตราดอกเบี้ยของบัญชีเงินฝากประจำ จะสูงกว่าการฝากเงินแบบออมทรัพย์ และกรณีที่ถอนก่อนกำหนดคุณอาจจะได้รับดอกเบี้ยน้อยกว่าอัตราที่ทางธนาคารประกาศไว้

3. บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน (current account)

เป็นประเภทของบัญชีเงินฝากที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงิน รับเงิน โอนเงิน ชำระบิล หรือใช้ในการดำเนินธุรกิจ โดยทั่วไปบัญชีนี้จะไม่ให้ดอกเบี้ยหรือให้ดอกเบี้ยน้อยกว่าบัญชีออมทรัพย์

 

 

ประเภทของบัญชีออมทรัพย์ มีอะไรบ้าง

บทความนี้ ขอเน้นไปที่บัญชีออมทรัพย์ เป็นหลัก หากจะพูดถึงประเภทบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ในปัจจุบันมีหลากหลายประเภทที่ตอบสนองต่อความต้องการทางการเงินที่แตกต่างกัน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

 1.บัญชีออมทรัพย์ทั่วไป (Saving Account)

บัญชีออมทรัพย์ทั่วไป เป็นบัญชีที่ให้ความยืดหยุ่นในการฝากและถอนเงินได้ทุกเมื่อ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นออมเงินและยังคงใช้เงินในชีวิตประจำวัน 

2. บัญชีออมทรัพย์พิเศษ (Special Saving Account)

บัญชีออมทรัพย์พิเศษ มีหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละรูปแบบจะมีเงื่อนไขและผลตอบแทนที่แตกต่างกันไป เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น หรือมีรูปแบบการออมที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างของบัญชีออมทรัพย์พิเศษ เช่น

2.1 บัญชีออมทรัพย์แบบฝากประจำ

บัญชีออมทรัพย์ประเภทนี้กำหนดให้ผู้ฝากเงินต้องฝากเป็นจำนวนเงินคงที่ทุกเดือนในระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 6 เดือน, 12 เดือน หรือมากกว่านั้น) โดยจะได้รับดอกเบี้ยที่สูงกว่าเมื่อครบกำหนดระยะเวลา แต่การถอนเงินก่อนกำหนดอาจทำให้เสียสิทธิ์ในการรับดอกเบี้ยหรือถูกหักค่าธรรมเนียม

2.2 บัญชีออมทรัพย์แบบมีดอกเบี้ยสูง

เป็นบัญชีเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป โดยมีเงื่อนไขว่าต้องมียอดเงินฝากขั้นต่ำหรือจำกัดการถอนเงินต่อเดือน บัญชีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินระยะยาวและไม่ต้องการใช้เงินบ่อยครั้ง

2.3 บัญชีออมทรัพย์ออนไลน์

เป็นอีกหนึ่งประเภทบัญชีเงินฝากที่สามารถทำรายการได้ผ่านช่องทางออนไลน์ อัตราดอกเบี้ยสูงและสะดวกในการทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ ไม่ต้องไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร

 

 

ทำไมบัญชีออมทรัพย์จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการออมเงิน?

สำหรับผู้ที่เริ่มต้นออมเงิน บัญชีออมทรัพย์ถือเป็นตัวเลือกที่ดี ที่คุณสามารถเริ่มต้นได้เลยทันที และนี่คือเหตุผลที่ทำไมบัญชีออมทรัพย์ถึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการออมเงิน

ความปลอดภัย

เงินที่ฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์จะได้รับความคุ้มครองภายใต้ พ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝากในวงเงิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝากเงิน ต่อ 1 สถาบันการเงิน

สะดวกต่อการฝาก-ถอนเงิน

ข้อดีของการมีบัญชีออมทรัพย์ก็คือ คุณสามารถฝากและถอนเงินได้สะดวกและรวดเร็วผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ATM, Internet Banking, Mobile Banking หรือสาขาธนาคาร

ได้รับผลตอบแทนที่ดี

ถึงแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยในบัญชีออมทรัพย์จะไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการลงทุนอื่น ๆ แต่ก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีการรับประกันว่าคุณจะได้รับผลตอบแทนจากการออมเงิน นอกจากนี้ดอกเบี้ยที่ได้รับสามารถสะสมไปเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่เงินถูกฝากไว้ในบัญชี

 

วิธีการเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่เหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละคน

การเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะบัญชีแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน ดังนั้นการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกบัญชีที่เหมาะสมและตรงกับเป้าหมายการออมได้ดีที่สุด นี่คือแนวทางในการเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่เหมาะสม

1.เป้าหมายการออมของคุณเป็นอย่างไร?

  • เป้าหมายระยะสั้น : สำหรับออมเงินเพื่อใช้สำรองฉุกเฉิน หรือมีเป้าหมายระยะสั้น เช่น ซื้อโทรศัพท์ใหม่ แนะนำให้เลือกบัญชีที่เน้นความสะดวกในการถอนเงิน เช่น บัญชีออมทรัพย์ทั่วไป หรือบัญชีที่เชื่อมต่อกับบัตรเดบิต 

  • เป้าหมายระยะกลาง : ออมเงินเพื่อซื้อรถ หรือไปเที่ยวต่างประเทศ ควรเลือกบัญชีที่ให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น เช่น บัญชีออมทรัพย์ประจำที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นตามระยะเวลาการฝาก

  • เป้าหมายระยะยาว: หากต้องการออมเงินเพื่อเกษียณ หรือมีเป้าหมายทางการเงินระยะยาว ควรพิจารณาบัญชีที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด เช่น บัญชีเงินฝากประจำ หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น

2.ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ

เลือกธนาคารที่มีความมั่นคงทางการเงิน และได้รับการกำกับดูแลจากธนาคารแห่งประเทศไทย

3.ความสะดวกในการใช้งาน

เลือกบัญชีที่มีช่องทางการทำธุรกรรมที่หลากหลาย เช่น Internet Banking, Mobile Banking, ATM หรือสาขาธนาคาร 

4.เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย

ผลตอบแทนที่คุณจะได้รับจากการฝากเงิน ยิ่งอัตราดอกเบี้ยสูง เงินของคุณก็จะงอกเงยเร็วขึ้น

การเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่เหมาะสมอาจต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น อัตราดอกเบี้ย ความสะดวกในการใช้งาน ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ เลือกบัญชีที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณเพื่อให้การออมเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

เริ่มต้นออมเงินวันนี้ ด้วยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สปีดดี พลัส ซีไอเอ็มบี ไทย  เงินฝากดอกเบี้ยสูง ฝาก-ถอนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง เปิดบัญชีได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องไปที่สาขา สมัครผ่านแอป CIMB THAI ได้ทันที ให้ทุกไลฟ์สไตล์ของคุณติดสปีดง่ายกว่าที่เคย คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ติดต่อ CIMB Thai Care Center 02-626-7777 และทางเว็บไซต์ CIMB Thai

 


คุณอาจสนใจ