Search
Back
เกี่ยวกับเรา  
รางวัล  
ข่าวและกิจกรรม  
บริการโอนเงินระหว่างประเทศ  
โปรโมชั่นล่าสุด  
CIMB THAI App  
CIMB THAI Connect  
บริการแจ้งเตือนผ่าน SMS  
พร้อมเพย์  
บริการเปิดบัญชีด้วยการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID)  
การขอและรับส่งข้อมูลรายการเคลื่อนไหวบัญชีเงินฝาก ในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลระหว่างธนาคาร (dStatement)  
บริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID) เพื่อทำธรุกรรมออนไลน์กับกรมสรรพากร  
ติดต่อเรา  
สาขาธนาคาร  
ข้อมูลคุณภาพการให้บริการ  
คำมั่นสัญญาการให้บริการลูกค้าธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย  
อัตราและค่าธรรมเนียม  
Form Download Center  
You're viewing:
ลูกค้าบุคคล
Other Sites
เกี่ยวกับเรา
การกำกับดูแล
ทีมผู้บริหาร
นักลงทุนสัมพันธ์
ความยั่งยืน
ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
เงินฝาก
บัตร
ประกัน
สินเชื่อ
การบริหารความมั่งคั่ง
การลงทุน
TH

 

ทำความรู้จักกับดอกเบี้ยทบต้น คืออะไร เก็บวันนี้ รวยวันหน้า

 

หากคุณฝากเงินหรือออมเงินกับธนาคารมานานแล้ว คุณอาจสงสัยว่าดอกเบี้ยที่ได้รับนั้นมาจากที่ไหนและมีการคำนวณเป็นแบบใด เนื่องจากวิธีการคิดดอกเบี้ยเงินฝากมีขั้นตอนที่ซับซ้อนสำหรับคนทั่วไป และเงินฝากส่วนใหญ่ มักใช้วิธีการทบต้นคิดดอกเบี้ย ทำให้หลายคนไม่รู้ว่าต้องคำนวณอย่างไร ดังนั้นในวันนี้เราจะมีวิธีการคำนวณดอกเบี้ยทบต้นมาฝากกัน ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้ว่าเมื่อครบกำหนดการฝากเงิน คุณจะมีเงินสะสมทั้งหมดเท่าไหร่กัน

 

ดอกเบี้ยทบต้น คืออะไร?

 

 

การคิดดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) คือการคำนวณดอกเบี้ยที่ได้รับโดยใช้เงินต้นรวมกับดอกเบี้ยจากงวดก่อนหน้า ทำให้ดอกเบี้ยในงวดถัดไปเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามจำนวนเงินต้นที่สูงขึ้น

 

การออมเงินดอกเบี้ยทบต้น มีประโยชน์อย่างไร?

 

 

การออมเงินดอกเบี้ยทบต้นได้รับความนิยมจากชาวไทยอย่างมาก เพราะสามารถสร้างทุนและเพิ่มรายได้ในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยวิธีการทบต้น คือการฝากเงินไปยังบัญชีธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ๆ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเก็บเงินไว้ในบัญชีนั้นเป็นเวลานานเท่าใดก็ได้ และจะได้รับดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนด โดยดอกเบี้ยทบต้นนั้นจะคำนวณตามยอดเงินที่คงเหลือในบัญชี ยิ่งยอดเงินมากขึ้นเท่าไหร่ จะได้รับดอกเบี้ยมากขึ้นเท่านั้น

 

การออมเงินด้วยการทบต้นมีความสำคัญอย่างมากในการวางแผนการเงินของบุคคล เนื่องจากเป็นวิธีการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในตลาดทุน และสามารถให้ผลตอบแทนที่มั่นคงและสูงกว่าการออมเงินด้วยการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ปกติ อีกทั้งยังมีประโยชน์ทางภาษี เนื่องจากอาจได้รับยกเว้นภาษีหรือการยกเว้นภาษีบางส่วนสำหรับดอกเบี้ยทบต้น อย่างไรก็ตามการออมเงินด้วยการทบต้น คุณควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนดไว้ด้วย

 

ข้อดีของดอกเบี้ยทบต้น

  1. ให้ผลตอบแทนที่มั่นคงและเสถียร

  2. เป็นแหล่งรายได้แบบ Passive Income ที่สามารถได้รับอย่างต่อเนื่อง

  3. มีประโยชน์ที่สูงกว่าการเก็บเงินไว้โดยไม่นำไปลงทุนใดๆ

  4. เป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มผลตอบแทนอย่างเชื่อถือได้

 

ข้อเสียของดอกเบี้ยทบต้น 

  1. ต้องใช้เวลาและรอนานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

  2. ต้องมีเงินทุนในปริมาณที่เพียงพอเพื่อลงทุนในระบบดอกเบี้ยทบต้น

  3. ต้องมีวินัยสูงในการเก็บเงินและลงทุนเพื่อให้ระบบดอกเบี้ยทบต้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  4. สภาพคล่องต่ำ เนื่องจากไม่สามารถถอนเงินต้นและผลตอบแทนออกมาใช้ได้ในระหว่างระยะเวลาที่กำหนด

 

การลงทุนดอกเบี้ยทบต้นดีอย่างไร?

การลงทุนดอกเบี้ยทบต้นเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่ง ซึ่งนักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยจากเงินลงทุนต้นและดอกเบี้ยนั้นจะนำไปทบกับเงินลงทุนต้น เพื่อที่จะได้รับเงินทุนก้อนใหญ่ในอนาคต

ระบบดอกเบี้ยทบต้นเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สามารถนำมาลงทุนได้ในหลายประเภทของทรัพย์สิน เช่น เงินฝากธนาคาร หุ้น พันธบัตรรัฐบาล หรือกองทุนรวม โดยทุกครั้งที่ได้รับดอกเบี้ยจากการลงทุน ดอกเบี้ยเหล่านั้นถูกนำมาเพิ่มค่าเงินลงทุนต้น เพื่อที่จะสามารถเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นได้

 

ระบบดอกเบี้ยทบต้นเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสะสมทรัพย์สิน โดยสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าของทรัพย์สินในระยะยาวได้ นอกจากนี้การลงทุนในระบบดอกเบี้ยทบต้นยังช่วยให้มีเงินสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำไปใช้ในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินในอนาคตได้อีกด้วย

 

ดอกเบี้ยทบต้นกับดอกเบี้ยไม่ทบต้นต่างกันอย่างไร?

เราเชื่อว่าคงมีหลายคนที่สงสัยว่าระหว่างดอกเบี้ยทบต้นกับดอกเบี้ยไม่ทบต้นมีความแตกต่างกันอย่างไร? โดยในหัวข้อนี้เราจะมาอธิบายให้ทุกคนฟังกัน

ดอกเบี้ยทบต้น คือการเพิ่มกระแสดอกเบี้ยลงในยอดเงินหรือเงินต้นที่ถูกกำหนดไว้เริ่มต้น การทบต้นจะช่วยให้ยอดเงินหรือเงินต้นเพิ่มขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่กำหนด นั่นหมายความว่าทุกครั้งที่มีการชำระเงินต้นเข้ามา จำนวนเงินดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจะถูกคำนวณตามอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับการกำหนดไว้

 

ซึ่งจะส่งผลให้ยอดเงินหรือเงินต้นเพิ่มขึ้นตามที่กำหนดไว้ในแผนการผ่อนชำระหนี้ การทบต้นสามารถช่วยให้ผู้กู้สามารถผ่อนชำระหนี้ในระยะเวลาที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มความสะดวกสบายในการจัดการเงินและการควบคุมการเงินส่วนบุคคลได้ดียิ่งขึ้น

 

ในขณะที่ดอกเบี้ยไม่ทบต้น คือการไม่เพิ่มยอดดอกเบี้ยลงในเงินต้นหรือยอดเงินที่ถูกกำหนดไว้เริ่มต้นของสินเชื่อหรือการกู้ยืม นั่นหมายความว่าในระหว่างช่วงเวลาที่กำหนด จำนวนเงินดอกเบี้ยที่คิดจากอัตราดอกเบี้ยจะไม่ถูกเพิ่มเข้าสู่ยอดเงินหรือเงินต้นที่กำหนดไว้ 

โดยผู้กู้จะต้องชำระเงินต้นเท่านั้นในแต่ละรอบการชำระหนี้ การไม่ทบต้นจะทำให้ยอดหนี้คงเดิมตลอดระยะเวลาการผ่อนชำระและไม่มีการเพิ่มขึ้นเนื่องจากดอกเบี้ย

 

วิธีการคิดดอกเบี้ยทบต้น

วิธีการคิดดอกเบี้ยทบต้นจะใช้การรวมดอกเบี้ยที่ได้รับในงวดนั้นกับเงินต้นเดิม แล้วนำมาใช้เป็นเงินต้นใหม่เพื่อใช้คำนวณดอกเบี้ยสำหรับงวดถัดไป โดยสูตรคำนวณการคิดดอกเบี้ยทบต้นจะเป็นดังนี้

 

เงินรวมดอกเบี้ยในงวดสุดท้าย = เงินต้น x (1 + อัตราดอกเบี้ย%) ยกกำลังจำนวนงวด

เมื่อเรารู้ความสำคัญของการคิดดอกเบี้ยทบต้น เราจะต้องวางแผนการเงินให้มีเงินเหลือ และนำเงินเหลือนั้นไป "ลงทุน" เพื่อให้ได้รับผลตอบแทน และทำให้เงินของเราเติบโตเพื่อรักษาความมั่นคงในอนาคต

 

วิธีการคิดดอกเบี้ยทบต้นเงินฝาก

 

หากเราสมมติว่าธนาคารคิดดอกเบี้ยปีละ 5% และเราฝากเงิน 1,000 บาท ครบ 1 ปี เราจะได้รับดอกเบี้ย 50 บาท และหากไม่มีการถอนดอกเบี้ย เงินดอกเบี้ย 50 บาทที่ได้รับมา ก็จะรวมกับเงินต้นกลายเป็น 1,050 บาท เพื่อนำไปคำนวณดอกเบี้ยในปีถัดไป เมื่อครบ 2 ปี เราจะได้รับดอกเบี้ยทั้งหมด 52.50 บาท โดยใช้การคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 5% ของเงิน 1,050 บาท

 

จากตัวอย่างนี้ เราสามารถเห็นได้ว่า ในปีที่ 2 ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากปีแรก 2.50 บาท ดังนั้นถ้าเราฝากเงินหลาย ๆ ปี หรือฝากเงินในจำนวนที่มากขึ้น เงินออมก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

 

เช่น เราฝากเงิน 100,000 บาท 18 เดือน และธนาคารคิดดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือน ในอัตรา 2% ต่อปี และมีการคิดดอกเบี้ยในทุก ๆ 6 เดือน ดังนั้น 1 ปี จะมี 2 งวด อัตราดอกเบี้ยต่องวดจึงเท่ากับ 2 ÷ 2 = 1% ต่องวด หลังจากนั้นจะคำนวณด้วยสูตร

 

100,000 x (1 + 1%) ยกกำลัง 3 = 103,030.10

 

โดยเมื่อครบ 18 เดือน จะมีเงินทั้งหมด 103,030.10 บาท

 

หมายเหตุ: เงินจำนวนนี้ยังไม่รวมกรณีถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% 

 

 

อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาเป็นสิ่งที่ทำให้ดอกเบี้ยทบต้นยิ่งเติบโตยิ่งขึ้น แค่คุณฝากเงินไว้ในบัญชีและไม่ถอนออกมาใช้ เงินของคุณก็จะยิ่งเพิ่มพูนขึ้น อีกทั้งหลักการดอกเบี้ยทบต้นยังเป็นความรู้พื้นฐานที่สามารถช่วยให้เงินของคุณงอกเงยและมั่นคง