คุณอยู่ที่

  • บทความ
  • ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
  • ช่องทางบริการธนาคาร
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการช่วยเหลือ
  • ลิงก์ด่วน
ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
เกี่ยวกับเรา
Financial Guru
Business Maker
Lifestyle Tips
ลงทุน
บริการโอนเงินระหว่างประเทศ
CIMB THAI App
ข่าวและกิจกรรม

 

 

ประกาศความเป็นส่วนตัว

ของ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)

 

ฉบับปรับปรุงวันที่ 30 มิถุนายน 2567

เรียน ท่านลูกค้าที่ใช้บริการ

 

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (“ธนาคาร”) ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว และพยายามมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่าน (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)

ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เป็นการประกาศแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของธนาคาร ซึ่งอธิบายถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

  1. ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ใช้กับใครบ้าง
  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย และช่องทางการเก็บรวบรวม
  3. ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไร
  4. ธนาคารเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลใดบ้าง
  5. การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
  6. การใช้งานคุกกี้ และ/หรือ เทคโนโลยีที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน
  7. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  8. การดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นปัจจุบัน
  9. ธนาคารคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
  10. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  11. ข้อแนะนำในการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  12. 1ช่องทางการติดต่อธนาคาร
  13. การแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัว

 

 

1.     ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ใช้กับใครบ้าง

        ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้สำหรับท่าน หากท่านเป็นบุคคลประเภทใดประเภทหนึ่ง หรือหลายประเภท ดังนี้

  • ลูกค้าบุคคลธรรมดาของธนาคาร ซึ่งรวมถึงผู้ซึ่งใช้หรือเคยใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ผู้ติดต่อสอบถามข้อมูลกับธนาคาร ผู้รับทราบข้อมูลผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการผ่านช่องทางต่าง ๆ และผู้ได้รับการเสนอหรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ
  • บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคลของธนาคาร หรือนิติบุคคลที่มีการทำธุรกรรมกับธนาคาร เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หุ้นส่วนตัวแทน พนักงาน เจ้าหน้าที่ และ/หรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นต้น
  • บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมของธนาคาร หรือลูกค้าของธนาคาร เช่น ผู้มาติดต่อ ลูกจ้าง พนักงาน กรรมการ ผู้แทน ผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน ผู้ค้ำประกัน ผู้จำนอง ผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง (Ultimate Beneficial Owner) ผู้ติดต่อฉุกเฉิน และ/หรือ บุคคลธรรมดาอื่นในทำนองเดียวกัน เป็นต้น

 

2.     ข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย และช่องทางการเก็บรวบรวม

2.1.  ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย

        ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารเก็บรวบรวมภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้ แต่ไม่จำกัดเพียง

  • ข้อมูลส่วนตัว:  ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด อายุ สถานภาพการสมรส หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหลังบัตรประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขประกันสังคม หมายเลขใบอนุญาตทำงาน หมายเลขใบอนุญาตขับขี่ หมายเลขอื่น ๆ รวมถึงข้อมูลส่วนตัว และรูปถ่ายที่ปรากฏอยู่บนเอกสารที่รัฐออกให้เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี สัญชาติ ประเทศที่พำนัก รูปปรากฎในหนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ หมายเลขทะเบียนรถยนต์ ลายมือชื่อ ข้อมูลเพื่อใช้ในการพิสูจน์ และ/หรือ การยืนยันตัวตน ข้อมูลการสแกนใบหน้า ข้อมูลที่ธนาคารได้รับจากท่านจากคำถามยืนยันตัวตนของธนาคาร (เช่น รหัสผ่าน คำตอบในกรณีที่ท่านลืมรหัสผ่าน PINs ข้อมูลการจดจำใบหน้า เป็นต้น) ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว ข้อมูลการบันทึกเสียง บันทึกการสื่อสารระหว่างท่านกับธนาคาร และภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV)
  • ข้อมูลครอบครัว: สถานภาพครอบครัว ข้อมูลความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ข้อมูลส่วนตัวของบุคคลในครอบครัวท่านที่เกี่ยวข้อง เช่น ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล อายุ และข้อมูลการติดต่อของสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งคู่สมรส และบุตร เป็นต้น
  • ข้อมูลการติดต่อ: ข้อมูลการติดต่อส่วนบุคคล รวมถึงข้อมูลใด ๆ ที่ท่านให้แก่ธนาคารเพื่อให้ธนาคารสามารถติดต่อท่านได้ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล และรายละเอียดโปรไฟล์ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ (social media)
  • ข้อมูลการศึกษาและข้อมูลการทำงาน: รายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษา และ/หรือการทำงาน คุณสมบัติของท่าน ประเภทธุรกิจ ข้อมูลสถานที่ทำงาน รายละเอียดการติดต่อที่ทำงาน และข้อมูลบนเอกสารอื่นใดเพื่อยืนยันการประกอบธุรกิจ
  • ข้อมูลทางการเงิน: ข้อมูลหลักฐานแสดงรายได้ เอกสารการเดินบัญชี ที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลการลงทุน หมายเลขบัตรเครดิต/เดบิต หมายเลขบัตรกดเงินสด ชื่อผู้ถือบัตรหรือรายละเอียดบัญชี บันทึกคำสั่ง ประวัติการทำธุรกรรม รายละเอียดธุรกรรม และรายละเอียดคู่สัญญา ข้อมูลการเอาประกัน ข้อมูลคะแนนเครดิต ข้อมูลการกู้ยืมเงิน ข้อมูลผู้ถือหน่วยลงทุน เลขทะเบียนผู้ถือหลักทรัพย์ รวมถึงข้อมูลการถือหุ้นหรือข้อมูลการถือกรรมสิทธิ์ ข้อมูลอื่น ๆ ประกอบผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ เช่น วงเงินสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ และสถานะทางบัญชี เป็นต้น
  • ข้อมูลการทำธุรกรรม: ชื่อ-นามสกุลของผู้รับประโยชน์ ที่อยู่ บัญชีผู้ใช้งาน    แอปพลิเคชัน รหัสผ่าน และรายละเอียดอื่น ๆ ในการทำธุรกรรมผ่านธนาคาร รวมถึงการติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับการโอนเงินผ่านธนาคารของธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
  • ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์: ข้อมูลใด ๆ อันเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เทคโนโลยีที่ท่านใช้เพื่อเข้าสู่ระบบช่องทางการให้บริการ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือ สื่อสังคมออนไลน์ (social media) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address หรือ MAC Address) คุกกี้หรือเทคโนโลยีอื่นใดที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน  บันทึกกิจกรรม ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตน หรือติดตามออนไลน์ ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ การใช้งานและประวัติการค้นหา ค่าเอกลักษณ์ประจำอุปกรณ์ (unique device identifiers) และข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ รวมถึงข้อมูลทางเทคนิคอื่นที่เกิดจากการใช้งานบนแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการ
  • ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด (CCTV) และข้อมูลทางภูมิศาสตร์: ข้อมูลที่แสดงถึงตำแหน่งพื้นที่ การทำธุรกรรมเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย หรือเพื่อระบุตำแหน่งของสาขาธนาคาร หรือผู้ให้บริการที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับท่าน
  • ข้อมูลอื่น ๆ: ข้อมูลอื่นที่ประกอบการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ เช่น รหัสลูกค้า ประเภทผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ ข้อมูลในบันทึกช่วยจำของธุรกรรม ข้อมูลเช็ค ข้อมูลตั๋วแลกเงิน ข้อมูลโฉนดที่ดิน ข้อมูลกรมธรรม์ ข้อมูลประกอบการขอสินเชื่อ สัญญาที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดการค้ำประกัน แบบแจ้งสถานะความเป็นบุคคลอเมริกัน / ไม่เป็นบุคคลอเมริกัน (FATCA) ข้อมูลการวิจัยทางการตลาดและข้อติชม ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใดที่ท่านได้นำเข้าสู่ระบบของธนาคาร และ/หรือ ส่งมอบให้แก่ธนาคาร เป็นต้น
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive personal data): ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดเป็นการเฉพาะ ซึ่งรวมถึงข้อมูลของท่านเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพหรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ รวมถึงข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม: ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกรรมของท่าน เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน บุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง คู่ค้า ผู้ค้ำประกัน ผู้จำนอง ผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ ผู้จัดการมรดก ผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ ผู้อนุบาล ผู้ติดต่อฉุกเฉิน และ/หรือ บุคคลอื่นใดตามเอกสารการทำธุรกรรมของท่าน เป็นต้น หากท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่ธนาคาร ขอให้ท่านโปรดแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบเกี่ยวกับรายละเอียดตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ธนาคารสามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามที่ท่านได้ให้ไว้กับธนาคารได้

        ธนาคารไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เว้นแต่ธนาคารจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ของบุคคลดังกล่าว หรือเป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ซึ่งผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถอาจให้ความยินยอมโดยลำพังได้ตามกฎหมาย และ/หรือดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ

        กรณีที่ท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และธนาคารมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ซึ่งท่านไม่อาจให้ความยินยอมได้โดยลำพังได้ตามกฎหมายนั้น ผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ของท่าน สามารถติดต่อธนาคารเพื่อให้ความยินยอม หรือใช้สิทธิอันเกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยติดต่อธนาคารตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

        ธนาคารเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหลากหลายประเภท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารเก็บรวบรวมนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์ และประเภทผลิตภัณฑ์ บริการ และ/หรือธุรกรรมที่ท่านร้องขอ โดยที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านมอบให้แก่ธนาคารโดยตรง ข้อมูลที่ธนาคารทราบจากการที่ท่านเป็นลูกค้าของธนาคาร และข้อมูลที่ธนาคารได้รับมาแหล่งอื่นที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ท่านร้องขอ ซึ่งธนาคารจะดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

2.2.  ช่องทางการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

        ธนาคารเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่ธนาคารโดยตรง หรือให้ผ่านช่องทางของธนาคาร รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งที่มาและสถานการณ์ที่หลากหลายดังต่อไปนี้ แต่ไม่จำกัดเพียง

  • การสมัครหรือใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของธนาคาร
  • การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างท่านกับธนาคาร หรือสำนักงานสาขา รวมถึงการบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ อีเมล บันทึกข้อความ หรือวิธีการอื่นใด
  • การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือใช้แอปพลิเคชันของธนาคารผ่านทางโทรศัพท์มือถือ
  • การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนกรมธรรม์ประกันภัย หรือเอกสารอื่น ๆ
  • การตรวจสอบ และคำชี้แจงใด ๆ มายังธนาคาร
  • การจัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นลูกค้า
  • เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายกับธนาคาร
  • เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฎแก่สาธารณะอย่างชัดแจ้ง รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ (social media) ซึ่งธนาคารจะเลือกเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านเลือกให้ปรากฎต่อสาธารณะเท่านั้น
  • เมื่อธนาคารได้รับหรือเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม หรือแหล่งอื่น (ที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมของท่าน)  เช่น นายจ้างของท่าน ลูกค้าของธนาคาร หน่วยงานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเครดิต ผู้ให้บริการยืนยันตัวตน บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร ผู้ให้บริการทางการเงินและผู้ให้บริการอื่น ๆ ของธนาคาร สถาบันการเงินอื่น พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้มีอำนาจหรือมีสิทธิตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจ หรือหน่วยงานของรัฐอื่นใด หรือบุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ธนาคารมีนิติสัมพันธ์ด้วย เป็นต้น

        ในบางกรณี ธนาคารอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ และออฟไลน์เพิ่มเติม รวมถึงการเก็บรวบรวมจากแหล่งข้อมูลของบุคคลที่สาม เช่น ข้อมูลจากหน่วยงานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเครดิต (รวมถึง บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ) หรือผู้ให้บริการข้อมูล หรือหน่วยงานภายนอกเพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนตามที่ท่านได้ให้ความยินยอม หรือกรณีที่ธนาคารมีความจำเป็นตามที่กฎหมายอนุญาต ในกรณีดังกล่าว ธนาคารอาจรวมข้อมูลนี้เข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ธนาคารเก็บรวบรวมภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

        ในการนี้ ธนาคารอาจว่าจ้างบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่บริษัทในกลุ่มบริษัทของธนาคาร เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับกิจกรรมทางออนไลน์ของท่านเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของธนาคาร นอกจากนี้ ธนาคารอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากเว็บไซต์ที่ไม่ใช่ของบริษัทในกลุ่มบริษัทของธนาคาร เพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์ของท่าน ทั้งนี้ หากธนาคารได้ดำเนินการดังกล่าวนี้ ธนาคารจะแจ้งเตือน และเสนอทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อให้ท่านสามารถปฏิเสธการประมวลผลดังกล่าวได้

 

3.     ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไร

        ธนาคารอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะในกรณีที่ธนาคารมีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการเช่นว่านั้น ทั้งนี้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอกด้วย โดยธนาคารจะพิจารณาใช้ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทางกฎหมายที่เหมาะสมอย่างน้อยหนึ่งฐานต่อไปนี้ เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • ฐานเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา: เมื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาที่ธนาคารทำไว้กับท่าน กล่าวคือ เมื่อธนาคารมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อที่จะให้บริการแก่ท่านตามสัญญา หรือเป็นการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญากับท่าน
  • ฐานเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย: เมื่อเป็นหน้าที่ตามกฎหมายของธนาคาร กล่าวคือ เมื่อธนาคารมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ภาระข้อผูกพันตามกฎหมาย หรือการดำเนินคดีหรือกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • ฐานเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: เมื่อเป็นประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของธนาคาร หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น กล่าวคือ เมื่อธนาคารมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของธนาคาร หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายนั้นมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน และ/หรือ
  • ฐานความยินยอม: เมื่อท่านให้ความยินยอมแก่ธนาคาร กล่าวคือ เมื่อท่านให้ความยินยอมแก่ธนาคารในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง
  • ฐานในการประมวลผลอื่น: ในบางกรณี ธนาคารอาจมีความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานในการประมวลผลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอื่น   เช่น การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล การจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ การดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของธนาคาร หรือการปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ธนาคาร ทั้งนี้ ธนาคารจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความจำเป็นและสอดคล้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

        ธนาคารมีวัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ โปรดพิจารณาลักษณะวัตถุประสงค์ตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านและธนาคาร เป็นรายกรณีไป

3.1    วัตถุประสงค์ที่ธนาคารอาศัยความยินยอม

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน

ในกรณีที่ธนาคารไม่สามารถอาศัยฐานในการประมวลผลอื่นได้ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ธนาคารจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

  • ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา หรือหมู่โลหิต (กรณีที่ท่านส่งมอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารทางราชการของบางประเทศที่ธนาคารจำเป็นต้องใช้เป็นหลักฐานในการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลมายังธนาคาร โดยไม่ได้ปกปิด หรือขีดฆ่าข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนดังกล่าว)
  • ข้อมูลชีวภาพ (biometric) เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ และยืนยันตัวตนของท่าน และ/หรือ ทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล สาขา เว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นใด
  • ข้อมูลประวัติสุขภาพ ข้อมูลความพิการ ประวัติอาชญากรรม หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด เฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการบางประเภทเท่านั้น

กิจกรรมทางการตลาด

  • เพื่อพัฒนา และดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการตลาด
  • เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านทางอีเมล โทรศัพท์ ข้อความ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ (social media) และ/หรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดที่เหมาะสม รวมถึงการติดต่อสื่อสารซึ่งหน้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของธนาคาร กลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร กลุ่มบริษัทของธนาคาร หรือพันธมิตรทางธุรกิจ  ซึ่งท่านอาจสนใจ
  • เพื่อส่งข้อความทางการตลาดเฉพาะบุคคลแก่ท่าน
  • เพื่อให้พันธมิตรทางธุรกิจของธนาคารส่งข้อมูลแก่ท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการที่ท่านอาจสนใจ
  • เพื่อศึกษาวิเคราะห์การใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของท่าน และต่อยอดการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ต้องอาศัยความยินยอมจากท่านตามกฎหมาย
  • เพื่อทดสอบ วิจัย วิเคราะห์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่/รูปแบบใหม่ของผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่ต้องอาศัยความยินยอมจากท่านตามกฎหมาย

3.2. วัตถุประสงค์ที่ธนาคารอาศัยฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอื่นนอกเหนือจากความยินยอม

        ธนาคารจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของธนาคาร สำหรับวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ฐานในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อสมัคร พิจารณา และส่งมอบผลิตภัณฑ์ และบริการ

  • เพื่อดำเนินการก่อนเข้าทำสัญญา เช่น การให้ข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ การวิเคราะห์และประเมินความต้องการของลูกค้า การตรวจสอบคุณสมบัติ การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลหรือเอกสาร เป็นต้น
  •  เพื่อสอบทาน ยืนยันตัวตน และตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเครดิตของท่าน
  • เพื่อพิจารณาผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ รวมถึงการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • เพื่อให้บริการ และ/หรือ ส่งมอบผลิตภัณฑ์
  • เพื่อการตรวจสอบ ยืนยัน และปรับปรุงรายการธุรกรรม
  • เพื่อบริหารความสัมพันธ์ระหว่างธนาคาร และท่าน หรือธุรกิจของท่าน รวมถึงการดำเนินธุรกรรมหลังการขาย การจัดการสินค้าสมนาคุณให้กับลูกค้า รวมถึงการจัดการข้อร้องเรียน และ/หรือ การดำเนินการตามคำขอของลูกค้า
  • เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านทางอีเมล โทรศัพท์ ข้อความ สื่อสังคมออนไลน์ (social media) ไปรษณีย์ หรือติดต่อสื่อสารกันซึ่งหน้าเกี่ยวกับสินค้า และ/หรือ บริการ รวมถึงการแจ้งข้อมูล ข่าวสารใด ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการตลาด เช่น การแจ้งปิดสาขา การแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ท่านมีอยู่หรือใช้บริการกับธนาคาร การติดตามการปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ รวมไปถึงการต่ออายุ หรือการยกเลิกผลิตภัณฑ์และ/หรือ บริการ  เป็นต้น
  • เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือ บริการ
  • เพื่อให้เจ้าหน้าที่ด้านความสัมพันธ์ติดต่อท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นสิทธิประโยชน์/เพื่อความมั่งคั่ง หรือบริการที่ท่านสามารถใช้ประโยชน์ได้ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของบริการเพื่อสิทธิประโยชน์ หรือความมั่งคั่ง
  • เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเครดิต และพฤติกรรมการชำระหนี้ของท่านอันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการให้สินเชื่อ
  • เพื่อปฏิบัติตามคำขอในการทำธุรกรรม ซึ่งรวมถึงคำขอการชำระเงินหรือการโอนเงินของท่าน
  • ฐานเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

  • เพื่อนำส่งรายงานตามระเบียบข้อบังคับแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • เพื่อป้องกัน และตรวจจับการฟอกเงิน หรือการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยผ่านกระบวนการรู้จักลูกค้า (Know Your Customer - KYC) (เพื่อระบุ และพิสูจน์ตัวตนของท่าน ตรวจสอบรายละเอียดของท่านกับรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดและตรวจสอบประวัติของท่าน) และตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Client Due Diligence - CDD) ตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง การตรวจสอบการทำรายการระหว่างกัน การตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับ FATCA รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และคำสั่งจากหน่วยงานทางการ
  • เพื่อสืบหา ตรวจสอบ และป้องกันการทุจริต การหลบหลีกภาษี อาชญากรรมทางการเงิน การฟอกเงิน ภัยคุกคามทางไซเบอร์ หรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อดำเนินคดี ใช้สิทธิตามกฎหมาย หรือปกป้องสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • ฐานเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

 

 

 

 

การสนับสนุนการให้บริการแก่ลูกค้า

  • เพื่อการจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า การดำเนินธุรกรรมหลังการขาย การจัดการสินค้าสมนาคุณให้กับลูกค้า และ/หรือ การดำเนินการตามคำขอของลูกค้า
  • เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ท่าน และให้การสนับสนุนท่านอย่างมืออาชีพ
  • เพื่อติดต่อท่านผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ
  • เพื่อตอบคำถาม และบันทึกการติดต่อ ความคิดเห็น และ/หรือ ข้อร้องเรียน
  • เพื่อดำเนินการตามคำสั่ง หรือคำร้องของท่าน เช่น การขอแก้ไขข้อมูล การร้องขอเอกสาร เป็นต้น
  • ฐานเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา

 

 

 

การปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม

  • เพื่อระบุประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการ
  • เพื่อดำเนินธุรกิจและปรับปรุงกิจกรรมทางธุรกิจ
  • เพื่อจัดทำรายงานทางสถิติ การวิจัยทางการตลาด รายงานวิเคราะห์ที่ไม่เกี่ยวกับการตลาด หรือการส่งเสริมการขาย
  • เพื่อวางแผนการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
  • เพื่อการดำเนินการทางการเงินและการปรับปรุงผลประกอบการ
  • เพื่อการบริหารจัดการข้อมูล และระบบปฏิบัติการในการให้บริการ
  • ฐานเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

   

ความปลอดภัย และการบริหารความเสี่ยง

  • เพื่อสืบสวน รายงาน และเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ฐานเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
  • เพื่อจัดการปัญหาหรือข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับสัญญา รวมถึงการจัดการเรื่องร้องเรียน หรือการจัดการเหตุการณ์กระทำผิดต่อกฎหมาย หรือเหตุการณ์ต้องสงสัย
  • เพื่อป้องกันอาชญากรรม และจัดการความปลอดภัยบริเวณพื้นที่การปฏิบัติงานและให้บริการของธนาคาร พื้นที่สำนักงาน รวมถึงสาขาของธนาคาร (เช่น การใช้กล้องวงจรปิด ซึ่งจะทำการบันทึกภาพเคลื่อนไหว หรือเสียงของท่าน เป็นต้น)
  • เพื่อบริหารความเสี่ยงสำหรับธนาคาร บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร ลูกค้า คู่ค้า และ/หรือ ภายในกลุ่มบริษัทของธนาคาร
  • เพื่อการบริหารจัดการ การตรวจสอบภายในธนาคาร บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร และ/หรือภายในกลุ่มบริษัทของธนาคาร
  • เพื่อติดตามทวงถามหนี้
  • เพื่อรักษาความความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยการเข้ารหัส การทำให้เป็นข้อมูลแฝง และ/หรือ การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลของท่านได้
  •  ฐานเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

การดำเนินการอื่น ๆ ของธนาคาร

  • เพื่อศึกษาวิเคราะห์การใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของท่าน จัดทำข้อมูลทางสถิติ การจัดทำรายงาน สำหรับการใช้ภายในธนาคาร และกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร
  • เพื่อทดสอบ วิจัย วิเคราะห์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ
  • การพิจารณากลุ่มลูกค้าตามความสนใจตามความเหมาะสม
  • เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการประเภทเดียวกันหรือเกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ท่านมีอยู่กับธนาคาร หรือบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารที่ท่านอาจสนใจ หรือเหมาะสมกับท่าน
  • การติดต่อเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ท่านในการสมัครผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ
  • การสำรวจและประเมินความพึงพอใจภายหลังใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ
  • การติดต่อเพื่อทบทวน และปรับปรุงข้อมูลของลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง และสมบูรณ์
  • การโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่ การบริหารกิจการของธนาคารและบริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร
  • ฐานเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

 

        ในกรณีที่ธนาคารอาศัยฐานเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ธนาคารจะพิจารณาว่า ประโยชน์ดังกล่าวนั้น มีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือไม่ และจะต้องสามารถสรุปได้ว่าประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน

        ในกรณีที่ท่านส่งมอบเอกสารระบุตัวตนของท่าน เช่น สำเนาบัตรประชาชน มายังธนาคาร ธนาคารมิได้มีนโยบายในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของท่านบนเอกสารดังกล่าว อย่างไรก็ตาม กรณีที่ท่านมิได้ขีดฆ่า หรือปิดทึบข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนบนเอกสารด้วยตนเองก่อนนำส่งมายังธนาคาร ธนาคารจะดำเนินการขีดฆ่า หรือปิดทึบข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนบนเอกสารดังกล่าวของท่านก่อนเก็บรวมรวมภายใต้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

        ในกรณีที่ธนาคารจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมาย หรือภายใต้ข้อกำหนดในสัญญาระหว่างธนาคารและท่าน และท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ธนาคาร ธนาคารอาจไม่สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันที่ธนาคารมีต่อท่าน หรือตามที่ธนาคารวางแผนว่าจะเข้าทำสัญญากับท่านได้ (เช่น เพื่อให้บริการเปิดบัญชี) ในกรณีดังกล่าว ธนาคารอาจปฏิเสธการให้บริการที่เกี่ยวข้อง แต่ธนาคารจะแจ้งให้ท่านทราบถึงกรณีเช่นว่านั้นในขณะที่ธนาคารเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

4.     ธนาคารเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลใดบ้าง

        ธนาคารอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ที่กล่าวข้างต้นให้กับบุคคลหรือหน่วยงานอื่น ดังต่อไปนี้

  • บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร รวมถึงบริษัทอื่นในกลุ่มบริษัทของธนาคาร (ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมตาม  https://www.cimbthai.com/th/personal/who-we-are/about-us.html)
  • ผู้รับเหมาช่วง ตัวแทน ผู้รับจ้าง นายหน้า ผู้ให้บริการภายนอกเพื่อประกอบธุรกิจแทนธนาคาร หรือเพื่อช่วยสนับสนุนการให้บริการของธนาคารทั้งในไทย และต่างประเทศ รวมถึงพนักงาน ผู้รับเหมาช่วง ผู้ให้บริการ กรรมการ และเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการดังกล่าวนี้ด้วย
  • ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการดูแลทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์ใด ๆ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หรือเจ้าพนักงานบังคับคดี
  • บุคคลที่ค้ำประกัน หรือวางหลักทรัพย์อื่น ๆ ตามจำนวนที่ท่านมีภาระต้องชำระให้กับธนาคาร
  • บุคคลใด ๆ ที่ท่านได้ชำระเงินให้ และ/หรือ ได้รับการชำระเงิน
  • ตัวแทน ตัวแทนของธนาคาร ระบบการชำระเงิน พันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า และบริษัท    อื่น ๆ ที่ท่านลงทุนผ่านธนาคาร
  • สถาบันการเงินอื่น ผู้ให้กู้ และผู้ถือหลักประกัน เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร สมาคมการค้า หน่วยงานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเครดิต ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบการชำระเงิน และตัวแทนเรียกชำระหนี้
  • ผู้ให้บริการระบบฐานข้อมูลเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสถาบันการเงิน ซึ่งรวมถึงผู้ให้บริการยืนยันตัวตนบนโลกดิจิทัล (National Digital ID) หน่วยงานภายนอกเพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตน และผู้ให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านชำระเงินและการโอนเงินระหว่างประเทศ (National Interbank Transaction Management and Exchange: NITMX)
  • ผู้ให้บริการนำส่งข้อความ (SMS) หรืออีเมล (Email)
  • ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การสนับสนุนด้านเทคโนโลยี และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยี
  • ผู้จัดการกองทุนใด ๆ ที่ให้บริการด้านการจัดการสินทรัพย์ให้กับท่าน ที่ปรึกษาทางการเงิน และโบรกเกอร์ใด ๆ ที่แนะนำท่านให้กับธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ศูนย์บริการรับฝากหลักทรัพย์ ตัวแทนจำหน่ายหลักทรัพย์ นายทะเบียนที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้จำหน่ายหุ้นกู้
  • บุคคล หรือบริษัทใด ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างบริษัท การควบรวม หรือเข้าถือครองกิจการที่เกิดขึ้น หรืออาจเกิดขึ้น โดยรวมถึงการโอนสิทธิ หรือหน้าที่ใด ๆ ซึ่งธนาคาร มีอยู่ภายใต้สัญญาระหว่างธนาคาร และท่าน
  • หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย รัฐบาล ศาล กระบวนการทางศาล หน่วยงานระงับข้อพิพาท ผู้กำกับดูแลธนาคาร ผู้ตรวจสอบบัญชี และบุคคลใด ๆ ซึ่งแต่งตั้ง หรือร้องขอโดยผู้กำกับดูแลธนาคารให้ทำการตรวจสอบกิจกรรมการดำเนินงานของธนาคาร
  • บุคคลอื่นใดซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม
  • หน่วยงานป้องกันการทุจริตซึ่งใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อสืบหา และป้องกันการทุจริต และอาชญากรรมทางการเงินอื่น ๆ และเพื่อยืนยันตัวตนของท่าน
  • บุคคลใด ๆ ที่ออกคำสั่ง หรือบริหารจัดการบัญชีของท่าน ผลิตภัณฑ์ หรือบริการในนามของท่าน (เช่น ผู้รับมอบอำนาจ ทนายความ เป็นต้น)
  • บุคคลใด ๆ ที่ธนาคาร ได้รับคำสั่งจากท่านให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลดังกล่าว
  • ที่ปรึกษา หรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ของธนาคาร
  • พันธมิตรทางธุรกิจ หรือคู่ค้าที่ธนาคารเป็นคู่สัญญา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • ผู้ให้บริการติดตามทวงหนี้
  • ผู้ให้บริการคลังเก็บเอกสาร ผลิตบัตร สื่อสิ่งพิมพ์ บริการจัดส่งเอกสารหรือพัสดุ
  • พันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า ผู้ให้บริการทางการตลาด ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ (social media) ในรูปแบบที่ปลอดภัย หรือบริษัทโฆษณาภายนอกเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดใด ๆ
  • บุคคลที่สาม และ/หรือ หน่วยงานอื่นใด เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

        ในบางกรณี ธนาคารอาจเปิดเผยข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลของท่านให้กับบุคคลที่สามเพื่อการโฆษณาตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

        ธนาคารจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ หากธนาคารจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ธนาคารจะแจ้งให้ท่านทราบ และขอความยินยอมจากท่านก่อนการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิให้ความยินยอม หรือปฏิเสธการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้ธนาคารดำเนินการดังกล่าวได้โดยไม่ต้องอาศัยความยินยอมของท่าน

        ธนาคารจะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความรับผิดชอบของธนาคารในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องกับลูกค้าตามประกาศความเป็นส่วนตัวนี้อย่างเคร่งครัด

 

5.     การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

        ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ และถูกเก็บรวบรวม และ/หรือ ใช้ในต่างประเทศ (เช่น ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่มบริษัทของธนาคาร) รวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud Computing) ซึ่งธนาคารมีการดำเนินธุรกิจอยู่ หรือในกรณีที่ธนาคารจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ หรือเพื่อประโยชน์ของท่าน  

        ทั้งนี้ ประเทศผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลอาจยังไม่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะได้ประกาศกำหนดภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีดังกล่าว ธนาคารจะทำให้มั่นใจว่าการส่งหรือโอนดังกล่าวมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับที่เหมาะสม และการส่ง หรือโอนข้อมูลดังกล่าวเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งในบางกรณี อาจรวมไปถึงการเข้าทำสัญญามาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง (หรือมาตรการที่มีผลเทียบเท่า) กับคู่สัญญาที่อยู่นอกประเทศไทยด้วย ตัวอย่างเช่น ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเปิดเผยให้กับบริษัทอื่นในกลุ่มบริษัทของธนาคารตามนโยบายหรือกฎเกณฑ์การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในองค์กร (Binding Corporate Rules - BCRs) ข้อสัญญาที่ยอมรับได้ หรือมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสมอื่น ๆ  ธนาคารอาจต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย เพื่อปกป้องคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ เพื่อประโยชน์ของท่านตามสัญญาระหว่างธนาคารและผู้รับข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือ ได้รับความยินยอมจากท่านโดยธนาคารได้แจ้งให้ท่านทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางที่รับข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว อย่างไรก็ตาม กฎหมายของบางประเทศอาจกำหนดให้ธนาคารต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภท (เช่น เปิดเผยให้กับหน่วยงานทางภาษี) ในกรณีเช่นว่านั้น ธนาคาร จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่านั้น

 

6.     การใช้งานคุกกี้ และ/หรือ เทคโนโลยีที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน

        ธนาคารอาจเก็บรวบรวมและใช้งานคุกกี้ และ/หรือ เทคโนโลยีอื่นใดที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เมื่อท่านมีการใช้งานเว็บไซต์ และ/หรือ แอปพลิเคชันของธนาคาร ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก ประกาศการเก็บข้อมูลคุกกี้บนเว็บไซต์ของธนาคาร

 

7.     การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

        ธนาคารจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่านั้น กล่าวคือ

        ธนาคารจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับธนาคาร หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับธนาคาร ธนาคารจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็น หรือตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เช่น เก็บรักษาไว้ 5-10 ปีเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับธนาคาร (ตามแต่กรณี) เพื่อประโยชน์ของธนาคารในการดำเนินข้อพิพาททางสัญญาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นนั้นในระยะเวลาดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่ธนาคารมีความจำเป็นทางกฎหมาย หรือเหตุผลทางเทคนิครองรับ ธนาคารอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่าระยะเวลาที่คาดหมายดังกล่าวได้ หากธนาคารไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลของท่านแล้ว หรือสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ธนาคารจะทำลาย ลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ (เพื่อที่ข้อมูลดังกล่าวจะไม่มีความเชื่อมโยงถึงท่านอีกต่อไป)

        ในกรณีที่ท่านได้เข้าถึงเว็บไซต์ และ/หรือ แอปพลิเคชันของบุคคลที่สามจากช่องทางของธนาคาร รวมถึงการได้รับการติดต่อ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการจากบุคคลที่สาม เช่น บริษัทประกันภัยที่ธนาคารแนะนำให้ท่าน บุคคลที่สามดังกล่าว อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามประกาศความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สาม ข้อกำหนด และเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของบุคคลที่สามเหล่านั้น โดยท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบุคคลที่สามเหล่านั้น

 

8.     การดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นปัจจุบัน

        ท่านสามารถปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของธนาคารในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และถูกต้อง โดยท่านจะต้องแจ้งธนาคารเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ โดย ผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้

  • ติดต่อตัวแทนของธนาคารที่ สาขาของธนาคาร หรือ CIMB Thai Care Center โทร. 0 2626 7777
  • ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่/ผ่านทาง สาขาของธนาคาร หรือ CIMB Thai Care Center โทร. 0 2626 7777

        นอกจากนี้ ธนาคารอาจติดต่อท่าน เพื่อขอให้ท่านทบทวน และปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันเป็นครั้งคราว เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง และสมบูรณ์

 

9.     ธนาคารคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

        ภายใต้สถานการณ์บางประการ ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยธนาคารจะเคารพสิทธิของท่าน และจะดำเนินการตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ หรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างทันท่วงที

รายละเอียดของสิทธิของท่านเป็นไปตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้

  • สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ในกรณีที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมที่จะให้ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ธนาคารอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหากธนาคารมีฐานอื่นในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

        ท่านมีสิทธิเปลี่ยนแปลงความยินยอมที่ให้ไว้กับธนาคารเมื่อใดก็ได้ตามช่องทางที่ธนาคารกำหนดในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ/หรือประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับอื่นของธนาคารที่ธนาคารได้แจ้งกับท่าน เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย และ/หรือ สัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การเปลี่ยนแปลงความยินยอมของท่านจะมีระยะเวลาดำเนินการภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ธนาคารได้รับแจ้งการเปลี่ยนแปลงความยินยอมผ่านช่องทางที่ธนาคารกำหนด

ในกรณีที่ท่านถอนความยินยอมที่ให้ไว้กับธนาคารเพื่อวัตถุประสงค์ในการเสนอผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการทางการเงินโดยผู้ให้บริการอื่น ๆ ซึ่งได้รับอนุญาตจากทางธนาคาร ธนาคารจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับผู้ให้บริการดังกล่าว

  • สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงและขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากธนาคาร
  • สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์ ทั้งนี้ โปรดอ่านรายละเอียดการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลในข้อ 8. (การดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นปัจจุบัน)
  • สิทธิในการขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิร้องขอให้ธนาคารลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าธนาคารหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยท่านสามารถใช้สิทธิในการขอให้ธนาคารลบข้อมูลส่วนบุคคลนี้ควบคู่ไปกับสิทธิในการคัดค้านได้  อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะพิจารณาแต่ละคำขออย่างระมัดระวังตามข้อกำหนดในกฎหมายใด ๆ อันเกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • สิทธิในการขอให้มีการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอให้ธนาคารระงับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว เช่น เมื่อท่านต้องการให้ธนาคารแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หรือเมื่อท่านร้องขอให้ธนาคารพิสูจน์เหตุผล หรือฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล: ในบางกรณี ท่านสามารถขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สามารถใช้งานโดยทั่วไปได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งมีสิทธิขอให้ธนาคารส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค สิทธิดังกล่าวนี้จะใช้ได้เฉพาะในกรณีของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านส่งมอบให้แก่ธนาคาร และการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้กระทำโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันภายใต้สัญญาได้
  • สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของธนาคาร หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหากธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง และการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
  • สิทธิในการร้องเรียน: ท่านสามารถติดต่อธนาคารเพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีการที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ที่ สาขาของธนาคาร หรือ CIMB Thai Care Center โทร. 0 2626 7777 และธนาคารจะพิจารณาคำขอของท่านโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ การร้องเรียนต่อธนาคารนี้ไม่มีผลกระทบต่อสิทธิของท่านในการร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ หรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

        ในการนี้ ท่านมีสิทธิในการได้รับแจ้งรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากธนาคาร โดยรายละเอียดดังกล่าวเป็นไปตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ นอกจากนี้ ท่านสามารถยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านเห็นว่า ธนาคาร พนักงานของธนาคาร หรือผู้ให้บริการของธนาคารฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือประกาศอื่น ๆ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าว

        ท่านอาจใช้สิทธิใด ๆ ของท่านตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตลอดเวลาโดยติดต่อธนาคารผ่านทางช่องทางการติดต่อตามที่ระบุไว้ในข้อ 12. (ช่องทางการติดต่อธนาคาร) ด้านล่าง ธนาคารอาจคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมตามสมควรหากคำขอของท่านไม่มีมูล ซ้ำซ้อน หรือมีมากเกินความจำเป็นอย่างชัดเจน ในอีกทางหนึ่ง ธนาคารอาจปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำขอของท่านในสถานการณ์เหล่านั้นได้

 

        ท่านสามารถใช้สิทธิข้างต้นตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามช่องทาง ดังต่อไปนี้ 

สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

แอปพลิเคชันของธนาคาร

สาขาของธนาคาร

สำนักงานใหญ่

CIMB THAI Care Center

dpo@cimbthai.com

สิทธิในการขอถอนความยินยอม

สิทธิอื่น ๆ

 

        ธนาคารอาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการพิสูจน์ตัวตนของท่าน และรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) โดยเป็นมาตรการความปลอดภัยที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ ธนาคารอาจติดต่อท่านเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำขอของท่าน เพื่อที่ธนาคารจะได้สามารถดำเนินการตอบกลับได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

        ธนาคารจะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายใน 30 วัน ในบางกรณี ธนาคารอาจใช้เวลามากกว่า 30 วันหากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าว ธนาคารจะแจ้งให้ท่านทราบ และจะแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ

 

10.    ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

        ธนาคารในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง โดยธนาคารจะตรวจสอบ และใช้มาตรการคุ้มครองความปลอดภัยขององค์กรทั้งทางกายภาพ เชิงเทคนิค และเชิงบริหารที่ทันสมัยอยู่เสมอเมื่อเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ธนาคารได้วางนโยบาย และมาตรการควบคุมภายในเพื่อให้ท่านมั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ถูกเปิดเผย และถูกเข้าถึงโดยบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ของธนาคาร โดยพนักงานของธนาคารนั้น ได้รับการอบรม และฝึกฝนให้จัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย หากพนักงานไม่ปฏิบัติตามที่ได้รับการอบรมฝึกฝนดังกล่าว พนักงานจะได้รับโทษทางวินัย นอกจากนี้ ธนาคารกำหนดให้บุคลากร ผู้ให้บริการ และผู้รับข้อมูลจากธนาคารมีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่ธนาคารกำหนดขึ้น

 

11.     ข้อแนะนำในการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

        ท่านสามารถดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ธนาคารมีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ด้วยตนเองได้ เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดการเข้าใจผิด ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยตัวของท่านเอง หรือในนามของท่าน มีความถูกต้อง และเป็นปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอ โดยท่านสามารถแจ้งให้ธนาคารทราบโดยเร็วที่สุดหากข้อมูลดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง หรือไม่เป็นปัจจุบัน

        เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับธนาคารแล้ว ท่านจะมีหน้าที่ตามสัญญาในการส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ธนาคาร เพื่อให้ท่านสามารถใช้สิทธิทางกฎหมายได้ การไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียสิทธิทางกฎหมาย

        ท่านมีความจำเป็นที่จะต้องส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดกับธนาคาร เช่น ข้อมูลการติดต่อ และข้อมูลการจ่ายเงินให้กับธนาคาร เพื่อให้ธนาคารสามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ หากท่านไม่ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว อาจทำให้ธนาคารไม่สามารถใช้สิทธิ และปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันที่เกิดขึ้นจากสัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

12.    ช่องทางการติดต่อธนาคาร

        ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อธนาคาร ตามช่องทางดังต่อไปนี้

  • เจ้าหน้าที่บริการลูกค้าทุกสาขาของธนาคาร
  • CIMB THAI Care Center โทร. 0 2626 7777
  • เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อีเมล dpo@cimbthai.com
  • สำนักงานใหญ่ของธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จํากัด (มหาชน) เลขที่ 44 ถนนหลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
  • CIMB THAI Digital Banking Application (สิทธิในการขอถอนความยินยอมเท่านั้น)
  • ช่องทางอื่นใดตามที่ธนาคารกำหนด โดยธนาคารจะแจ้งให้ท่านทราบเมื่อธนาคารมีการขอความยินยอมจากท่าน

 

13.    การแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัว

        ธนาคารจะตรวจสอบประกาศความเป็นส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ จึงอาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง สำหรับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดนั้น สามารถดูได้จากวันที่ด้านบนของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับคู่ค้าของธนาคาร

หลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล