4. ธนาคารเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลใดบ้าง
ธนาคารอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ที่กล่าวข้างต้นให้กับบุคคลหรือหน่วยงานอื่น ดังต่อไปนี้
- บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร รวมถึงบริษัทอื่นในกลุ่มบริษัทของธนาคาร (ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมตาม https://www.cimbthai.com/th/personal/who-we-are/about-us.html)
- ผู้รับเหมาช่วง ตัวแทน ผู้รับจ้าง นายหน้า ผู้ให้บริการภายนอกเพื่อประกอบธุรกิจแทนธนาคาร หรือเพื่อช่วยสนับสนุนการให้บริการของธนาคารทั้งในไทย และต่างประเทศ รวมถึงพนักงาน ผู้รับเหมาช่วง ผู้ให้บริการ กรรมการ และเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการดังกล่าวนี้ด้วย
- ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการดูแลทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์ใด ๆ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หรือเจ้าพนักงานบังคับคดี
- บุคคลที่ค้ำประกัน หรือวางหลักทรัพย์อื่น ๆ ตามจำนวนที่ท่านมีภาระต้องชำระให้กับธนาคาร
- บุคคลใด ๆ ที่ท่านได้ชำระเงินให้ และ/หรือ ได้รับการชำระเงิน
- ตัวแทน ตัวแทนของธนาคาร ระบบการชำระเงิน พันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า และบริษัท อื่น ๆ ที่ท่านลงทุนผ่านธนาคาร
- สถาบันการเงินอื่น ผู้ให้กู้ และผู้ถือหลักประกัน เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร สมาคมการค้า หน่วยงานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเครดิต ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบการชำระเงิน และตัวแทนเรียกชำระหนี้
- ผู้ให้บริการระบบฐานข้อมูลเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสถาบันการเงิน ซึ่งรวมถึงผู้ให้บริการยืนยันตัวตนบนโลกดิจิทัล (National Digital ID) หน่วยงานภายนอกเพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตน และผู้ให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านชำระเงินและการโอนเงินระหว่างประเทศ (National Interbank Transaction Management and Exchange: NITMX)
- ผู้ให้บริการนำส่งข้อความ (SMS) หรืออีเมล (Email)
- ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การสนับสนุนด้านเทคโนโลยี และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยี
- ผู้จัดการกองทุนใด ๆ ที่ให้บริการด้านการจัดการสินทรัพย์ให้กับท่าน ที่ปรึกษาทางการเงิน และโบรกเกอร์ใด ๆ ที่แนะนำท่านให้กับธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ศูนย์บริการรับฝากหลักทรัพย์ ตัวแทนจำหน่ายหลักทรัพย์ นายทะเบียนที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้จำหน่ายหุ้นกู้
- บุคคล หรือบริษัทใด ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างบริษัท การควบรวม หรือเข้าถือครองกิจการที่เกิดขึ้น หรืออาจเกิดขึ้น โดยรวมถึงการโอนสิทธิ หรือหน้าที่ใด ๆ ซึ่งธนาคาร มีอยู่ภายใต้สัญญาระหว่างธนาคาร และท่าน
- หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย รัฐบาล ศาล กระบวนการทางศาล หน่วยงานระงับข้อพิพาท ผู้กำกับดูแลธนาคาร ผู้ตรวจสอบบัญชี และบุคคลใด ๆ ซึ่งแต่งตั้ง หรือร้องขอโดยผู้กำกับดูแลธนาคารให้ทำการตรวจสอบกิจกรรมการดำเนินงานของธนาคาร
- บุคคลอื่นใดซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม
- หน่วยงานป้องกันการทุจริตซึ่งใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อสืบหา และป้องกันการทุจริต และอาชญากรรมทางการเงินอื่น ๆ และเพื่อยืนยันตัวตนของท่าน
- บุคคลใด ๆ ที่ออกคำสั่ง หรือบริหารจัดการบัญชีของท่าน ผลิตภัณฑ์ หรือบริการในนามของท่าน (เช่น ผู้รับมอบอำนาจ ทนายความ เป็นต้น)
- บุคคลใด ๆ ที่ธนาคาร ได้รับคำสั่งจากท่านให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลดังกล่าว
- ที่ปรึกษา หรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ของธนาคาร
- พันธมิตรทางธุรกิจ หรือคู่ค้าที่ธนาคารเป็นคู่สัญญา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- ผู้ให้บริการติดตามทวงหนี้
- ผู้ให้บริการคลังเก็บเอกสาร ผลิตบัตร สื่อสิ่งพิมพ์ บริการจัดส่งเอกสารหรือพัสดุ
- พันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า ผู้ให้บริการทางการตลาด ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ (social media) ในรูปแบบที่ปลอดภัย หรือบริษัทโฆษณาภายนอกเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดใด ๆ
- บุคคลที่สาม และ/หรือ หน่วยงานอื่นใด เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
ในบางกรณี ธนาคารอาจเปิดเผยข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลของท่านให้กับบุคคลที่สามเพื่อการโฆษณาตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ธนาคารจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ หากธนาคารจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ธนาคารจะแจ้งให้ท่านทราบ และขอความยินยอมจากท่านก่อนการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิให้ความยินยอม หรือปฏิเสธการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้ธนาคารดำเนินการดังกล่าวได้โดยไม่ต้องอาศัยความยินยอมของท่าน
ธนาคารจะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความรับผิดชอบของธนาคารในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องกับลูกค้าตามประกาศความเป็นส่วนตัวนี้อย่างเคร่งครัด
5. การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ และถูกเก็บรวบรวม และ/หรือ ใช้ในต่างประเทศ (เช่น ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่มบริษัทของธนาคาร) รวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud Computing) ซึ่งธนาคารมีการดำเนินธุรกิจอยู่ หรือในกรณีที่ธนาคารจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ หรือเพื่อประโยชน์ของท่าน
ทั้งนี้ ประเทศผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลอาจยังไม่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะได้ประกาศกำหนดภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีดังกล่าว ธนาคารจะทำให้มั่นใจว่าการส่งหรือโอนดังกล่าวมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับที่เหมาะสม และการส่ง หรือโอนข้อมูลดังกล่าวเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งในบางกรณี อาจรวมไปถึงการเข้าทำสัญญามาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง (หรือมาตรการที่มีผลเทียบเท่า) กับคู่สัญญาที่อยู่นอกประเทศไทยด้วย ตัวอย่างเช่น ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเปิดเผยให้กับบริษัทอื่นในกลุ่มบริษัทของธนาคารตามนโยบายหรือกฎเกณฑ์การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในองค์กร (Binding Corporate Rules - BCRs) ข้อสัญญาที่ยอมรับได้ หรือมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสมอื่น ๆ ธนาคารอาจต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย เพื่อปกป้องคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ เพื่อประโยชน์ของท่านตามสัญญาระหว่างธนาคารและผู้รับข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือ ได้รับความยินยอมจากท่านโดยธนาคารได้แจ้งให้ท่านทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางที่รับข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว อย่างไรก็ตาม กฎหมายของบางประเทศอาจกำหนดให้ธนาคารต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภท (เช่น เปิดเผยให้กับหน่วยงานทางภาษี) ในกรณีเช่นว่านั้น ธนาคาร จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่านั้น
6. การใช้งานคุกกี้ และ/หรือ เทคโนโลยีที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน
ธนาคารอาจเก็บรวบรวมและใช้งานคุกกี้ และ/หรือ เทคโนโลยีอื่นใดที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เมื่อท่านมีการใช้งานเว็บไซต์ และ/หรือ แอปพลิเคชันของธนาคาร ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก ประกาศการเก็บข้อมูลคุกกี้บนเว็บไซต์ของธนาคาร
7. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ธนาคารจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่านั้น กล่าวคือ
ธนาคารจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับธนาคาร หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับธนาคาร ธนาคารจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็น หรือตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เช่น เก็บรักษาไว้ 5-10 ปีเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับธนาคาร (ตามแต่กรณี) เพื่อประโยชน์ของธนาคารในการดำเนินข้อพิพาททางสัญญาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นนั้นในระยะเวลาดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่ธนาคารมีความจำเป็นทางกฎหมาย หรือเหตุผลทางเทคนิครองรับ ธนาคารอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่าระยะเวลาที่คาดหมายดังกล่าวได้ หากธนาคารไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลของท่านแล้ว หรือสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ธนาคารจะทำลาย ลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ (เพื่อที่ข้อมูลดังกล่าวจะไม่มีความเชื่อมโยงถึงท่านอีกต่อไป)
ในกรณีที่ท่านได้เข้าถึงเว็บไซต์ และ/หรือ แอปพลิเคชันของบุคคลที่สามจากช่องทางของธนาคาร รวมถึงการได้รับการติดต่อ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการจากบุคคลที่สาม เช่น บริษัทประกันภัยที่ธนาคารแนะนำให้ท่าน บุคคลที่สามดังกล่าว อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามประกาศความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สาม ข้อกำหนด และเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของบุคคลที่สามเหล่านั้น โดยท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบุคคลที่สามเหล่านั้น
8. การดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นปัจจุบัน
ท่านสามารถปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของธนาคารในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และถูกต้อง โดยท่านจะต้องแจ้งธนาคารเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ โดย ผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้
- ติดต่อตัวแทนของธนาคารที่ สาขาของธนาคาร หรือ CIMB Thai Care Center โทร. 0 2626 7777
- ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่/ผ่านทาง สาขาของธนาคาร หรือ CIMB Thai Care Center โทร. 0 2626 7777
นอกจากนี้ ธนาคารอาจติดต่อท่าน เพื่อขอให้ท่านทบทวน และปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันเป็นครั้งคราว เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง และสมบูรณ์
9. ธนาคารคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
ภายใต้สถานการณ์บางประการ ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยธนาคารจะเคารพสิทธิของท่าน และจะดำเนินการตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ หรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างทันท่วงที
รายละเอียดของสิทธิของท่านเป็นไปตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
- สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ในกรณีที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมที่จะให้ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ธนาคารอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหากธนาคารมีฐานอื่นในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิเปลี่ยนแปลงความยินยอมที่ให้ไว้กับธนาคารเมื่อใดก็ได้ตามช่องทางที่ธนาคารกำหนดในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ/หรือประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับอื่นของธนาคารที่ธนาคารได้แจ้งกับท่าน เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย และ/หรือ สัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การเปลี่ยนแปลงความยินยอมของท่านจะมีระยะเวลาดำเนินการภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ธนาคารได้รับแจ้งการเปลี่ยนแปลงความยินยอมผ่านช่องทางที่ธนาคารกำหนด
ในกรณีที่ท่านถอนความยินยอมที่ให้ไว้กับธนาคารเพื่อวัตถุประสงค์ในการเสนอผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการทางการเงินโดยผู้ให้บริการอื่น ๆ ซึ่งได้รับอนุญาตจากทางธนาคาร ธนาคารจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับผู้ให้บริการดังกล่าว
- สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงและขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากธนาคาร
- สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์ ทั้งนี้ โปรดอ่านรายละเอียดการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลในข้อ 8. (การดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นปัจจุบัน)
- สิทธิในการขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิร้องขอให้ธนาคารลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าธนาคารหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยท่านสามารถใช้สิทธิในการขอให้ธนาคารลบข้อมูลส่วนบุคคลนี้ควบคู่ไปกับสิทธิในการคัดค้านได้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะพิจารณาแต่ละคำขออย่างระมัดระวังตามข้อกำหนดในกฎหมายใด ๆ อันเกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- สิทธิในการขอให้มีการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอให้ธนาคารระงับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว เช่น เมื่อท่านต้องการให้ธนาคารแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หรือเมื่อท่านร้องขอให้ธนาคารพิสูจน์เหตุผล หรือฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล: ในบางกรณี ท่านสามารถขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สามารถใช้งานโดยทั่วไปได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งมีสิทธิขอให้ธนาคารส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค สิทธิดังกล่าวนี้จะใช้ได้เฉพาะในกรณีของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านส่งมอบให้แก่ธนาคาร และการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้กระทำโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันภายใต้สัญญาได้
- สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของธนาคาร หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหากธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง และการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
- สิทธิในการร้องเรียน: ท่านสามารถติดต่อธนาคารเพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีการที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ที่ สาขาของธนาคาร หรือ CIMB Thai Care Center โทร. 0 2626 7777 และธนาคารจะพิจารณาคำขอของท่านโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ การร้องเรียนต่อธนาคารนี้ไม่มีผลกระทบต่อสิทธิของท่านในการร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ หรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ในการนี้ ท่านมีสิทธิในการได้รับแจ้งรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากธนาคาร โดยรายละเอียดดังกล่าวเป็นไปตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ นอกจากนี้ ท่านสามารถยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านเห็นว่า ธนาคาร พนักงานของธนาคาร หรือผู้ให้บริการของธนาคารฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือประกาศอื่น ๆ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าว
ท่านอาจใช้สิทธิใด ๆ ของท่านตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตลอดเวลาโดยติดต่อธนาคารผ่านทางช่องทางการติดต่อตามที่ระบุไว้ในข้อ 12. (ช่องทางการติดต่อธนาคาร) ด้านล่าง ธนาคารอาจคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมตามสมควรหากคำขอของท่านไม่มีมูล ซ้ำซ้อน หรือมีมากเกินความจำเป็นอย่างชัดเจน ในอีกทางหนึ่ง ธนาคารอาจปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำขอของท่านในสถานการณ์เหล่านั้นได้
ท่านสามารถใช้สิทธิข้างต้นตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามช่องทาง ดังต่อไปนี้