Search
Back
เกี่ยวกับเรา  
รางวัล  
ข่าวและกิจกรรม  
บริการโอนเงินระหว่างประเทศ  
โปรโมชั่นล่าสุด  
CIMB THAI App  
CIMB THAI Connect  
บริการแจ้งเตือนผ่าน SMS  
พร้อมเพย์  
บริการเปิดบัญชีด้วยการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID)  
การขอและรับส่งข้อมูลรายการเคลื่อนไหวบัญชีเงินฝาก ในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลระหว่างธนาคาร (dStatement)  
บริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID) เพื่อทำธรุกรรมออนไลน์กับกรมสรรพากร  
ติดต่อเรา  
สาขาธนาคาร  
ข้อมูลคุณภาพการให้บริการ  
คำมั่นสัญญาการให้บริการลูกค้าธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย  
อัตราและค่าธรรมเนียม  
Form Download Center  
You're viewing:
ลูกค้าบุคคล
Other Sites
เกี่ยวกับเรา
การกำกับดูแล
ทีมผู้บริหาร
นักลงทุนสัมพันธ์
ความยั่งยืน
ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
เงินฝาก
บัตร
ประกัน
สินเชื่อ
การบริหารความมั่งคั่ง
การลงทุน
TH - ไทย

 

ข้อบังคับ

 

หมวด 1 บททั่วไป

 

ข้อ 1. ในข้อบังคับนี้

"บริษัท" หมายความว่า ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)

"นายทะเบียน" หมายความว่า นายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด

"นายทะเบียนหุ้น" หมายความว่า นายทะเบียนหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ข้อ 2. ข้อความอื่นใดที่มิได้กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้ให้ถือและบังคับตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

 

หมวด 2 การออกหุ้น

 

ข้อ 3. หุ้นทั้งหลายของบริษัทเป็น หุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิชนิดไม่สะสมเงินปันผล มีมูลค่าหุ้นละเท่ากันโดยหุ้นทุกหุ้นต้องใช้เงินครั้งเดียวจนเต็มมูลค่า และ/ หรือเป็นหุ้นที่ชำระค่าหุ้นด้วยทรัพย์สินอื่นนอกจากตัวเงิน บริษัทอาจออกหุ้นบุริมสิทธิ หุ้นกู้ ใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือหลักทรัพย์อื่นตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชน หรือกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และอาจแปลงสภาพหลักทรัพย์ดังกล่าวข้างต้นเป็นหุ้นสามัญได้ โดยให้เป็นไปตามเงื่อนไขและวิธีการที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นจะกำหนด

ข้อ 4. ใบหุ้นของบริษัทเป็นชนิดระบุ ชื่อผู้ถือหุ้นและต้องมีกรรมการอย่างน้อยหนึ่งคนลงหรือพิมพ์ลายมือชื่อไว้ แต่กรรมการจะมอบหมายให้นายทะเบียนหุ้นลงหรือพิมพ์ลายมือชื่อแทนก็ได้

ข้อ 5. ถ้าบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป จองหุ้นหรือถือหุ้น หุ้นเดียวหรือหลายหุ้นร่วมกัน บุคคลเหล่านั้นต้องรับผิดร่วมกันในการส่งใช้เงินค่าหุ้นและเงินที่สูงกว่า มูลค่าหุ้น และต้องแต่งตั้งให้บุคคลในจำนวนนั้นแต่เพียงคนเดียวเป็นผู้ใช้สิทธิในฐานะ เป็นผู้จองหุ้นหรือผู้ถือหุ้นแล้วแต่กรณีโดยต้องทำเป็นหนังสือมอบให้แก่ บริษัทหรือนายทะเบียนหุ้น ในกรณีที่ไม่ปรากฏหลักฐานการแต่งตั้งดังกล่าวโดยชัดแจ้งให้สันนิษฐานไว้ก่อน ว่าบุคคลที่มีชื่อปรากฏอยู่ในใบจองหุ้นหรือใบหุ้นในลำดับแรกเป็นผู้ที่ได้ รับแต่งตั้งจากผู้จองหุ้นหรือผู้ถือหุ้นให้เป็นผู้ใช้สิทธิดังกล่าวแต่ผู้ เดียวจนกว่าจะได้ส่งหลักฐานการแต่งตั้งให้กับบริษัท

ข้อ 6. ใบหุ้นฉบับใดสูญหาย ถูกทำลาย ลบเลือน หรือชำรุดในสาระสำคัญ ผู้ถือหุ้นอาจขอให้บริษัทออกใบหุ้นใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นโดยบริษัทจะออกใบ หุ้นใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

ในกรณีใบหุ้นสูญหายหรือถูกทำลายผู้ถือหุ้นจะต้องนำหลักฐานการ แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนมาแสดงต่อบริษัท กรณีใบหุ้นลบเลือนหรือชำรุด ผู้ถือหุ้นต้องเวนคืนใบหุ้นเดิมให้แก่บริษัท

ข้อ 7. บริษัทอาจเรียกเก็บค่า ธรรมเนียมในการออกใบหุ้นใหม่แทนใบหุ้นที่สูญหาย ถูกทำลาย ลบเลือน หรือชำรุด หรือในการออกสำเนาทะเบียนผู้ถือหุ้นได้ในอัตราที่คณะกรรมการกำหนด แต่ต้องไม่เกินกว่าอัตราขั้นสูงที่กฎหมายกำหนด

ในการออกใบหุ้นใหม่เพื่อแทนหรือเปลี่ยนใบหุ้นเดิมที่บริษัทได้ เคยออกให้ผู้ถือหุ้นนั้นไปแล้วบริษัทอาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายได้ตามที่คณะ กรรมการกำหนด แต่ต้องไม่เกินกว่าอัตราขั้นสูงที่กฎหมายกำหนดไว้

ข้อ 8.ห้ามมิให้บริษัทเป็นเจ้า ของหุ้นหรือรับจำนำหุ้นของบริษัทเอง โดยในส่วนที่เกี่ยวกับการที่บริษัทเป็นเจ้าของหุ้นของตนเองมิให้นำมาใช้ บังคับในกรณีดังต่อไปนี้

        (1) บริษัทอาจซื้อหุ้นคืนจากผู้ ถือหุ้นที่ออกเสียงไม่เห็นด้วยกับมติของที่ประชุม ผู้ถือหุ้นซึ่งแก้ไขข้อบังคับของบริษัทเกี่ยวกับสิทธิในการออกเสียงลงคะแนน และสิทธิในการรับเงินปันผลซึ่งผู้ถือหุ้นเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม

        (2) บริษัทอาจซื้อหุ้นคืนเพื่อ บริหารทางการเงินเมื่อบริษัทมีกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกิน และการซื้อหุ้นคืนนั้นไม่เป็นเหตุให้บริษัทประสบปัญหาทางการเงิน

หุ้นที่บริษัทถืออยู่นั้นจะไม่นับเป็นองค์ประชุมในการประชุมผู้ ถือหุ้น รวมทั้งไม่มีสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนและสิทธิในการรับเงินปันผลด้วย หุ้นที่ซื้อคืนตามวรรคหนึ่งบริษัทจะต้องจำหน่ายออกไปภายในเวลา ที่กำหนดในกฎกระทรวง ถ้าไม่จำหน่ายหรือจำหน่ายไม่หมดภายในเวลาที่กำหนด ให้บริษัทลดทุนที่ชำระแล้วโดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนส่วนที่จำหน่ายไม่ได้

การซื้อหุ้นคืนตามวรรคหนึ่ง การจำหน่ายหุ้น และการตัดหุ้นตามวรรคสาม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดในกฎกระทรวง

 

หมวด 3 การโอนหุ้น

 

ข้อ 9. หุ้นของบริษัทโอนได้โดยไม่มีข้อจำกัด เว้นแต่ในกรณีดังจะกล่าวต่อไปนี้

        (1) การโอนหุ้นจะทำให้บริษัทเสียสิทธิและผลประโยชน์ที่บริษัทจะพึงได้รับตามกฎหมาย หรือ

        (2) การโอนหุ้นใดๆ ซึ่งจะมีผลทำให้คนต่างด้าวถือหุ้นเกินกว่าร้อยละสี่สิบเก้าของหุ้นที่ จำหน่ายได้ แล้วทั้งหมดของบริษัท เว้นแต่มีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งจากกระทรวงการคลัง และหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดหรืออนุญาตไว้เป็นอย่างอื่น

ข้อ 10. ในระหว่างยี่สิบเอ็ดวันก่อน วันประชุมผู้ถือหุ้นแต่ละครั้ง บริษัทจะงดรับลงทะเบียนการโอนหุ้นก็ได้ โดยประกาศให้ผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้า ณ สำนักงานใหญ่และสำนักงานสาขาของบริษัททุกแห่งไม่น้อยกว่าสิบสี่วัน ก่อนวันเริ่มงดรับการลงทะเบียนการโอนหุ้น

ข้อ 11. การโอนหุ้นย่อมสมบูรณ์ เมื่อผู้โอนได้สลักหลังใบหุ้น โดยระบุชื่อผู้รับโอนและลงลายมือชื่อของผู้โอนกับผู้รับโอนและส่งมอบใบหุ้น ให้แก่ผู้รับโอน การโอนหุ้นจะใช้ยันบริษัทได้ต่อเมื่อบริษัทได้รับคำร้องขอให้ลงทะเบียนการ โอนหุ้นแล้ว และจะใช้ยันบุคคลภายนอกได้ต่อเมื่อบริษัทได้ลงทะเบียนการโอนหุ้นแล้ว

เมื่อบริษัทเห็นว่าการโอนหุ้นถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย บริษัทจะลงทะเบียนการโอนหุ้นภายในสิบสี่วันนับแต่วันได้รับคำร้องขอ หากเห็นว่าการโอนหุ้นไม่ถูกต้องสมบูรณ์ บริษัทจะแจ้งแก่ผู้ยื่นคำร้องภายในเจ็ดวัน

หากหุ้นของบริษัทได้รับการจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การโอนหุ้นให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนและกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์

ข้อ 12. กรณีผู้รับโอนหุ้นประสงค์จะ ให้บริษัทออกใบหุ้นใหม่ในนามของตนเอง ให้ร้องขอต่อบริษัทโดยทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของผู้รับโอนหุ้น และมีพยานหนึ่งคนลงลายมือชื่อรับรองพร้อมกับคืนใบหุ้นเดิม หรือหลักฐานอื่นให้แก่บริษัทเมื่อบริษัทพิจารณาว่าถูกต้องตามกฎหมายแล้ว บริษัทจะลงทะเบียนการโอนหุ้นและออกใบหุ้นให้ใหม่ภายในระยะเวลาที่กฎหมาย กำหนด

ข้อ 13. ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นของ บริษัท ตาย หรือล้มละลาย หากบุคคลใดมีสิทธิในหุ้นนั้นด้วยประการใดๆ ให้นำหลักฐานที่ชอบด้วยกฎหมายมาแสดงต่อบริษัทจนครบถ้วน เมื่อบริษัทพิจารณาเห็นว่าถูกต้องแล้ว บริษัทจะลงทะเบียนการโอนหุ้นและออกใบหุ้นให้ใหม่ภายในระยะเวลาที่กฎหมาย กำหนด

 

หมวด 4 คณะกรรมการ

 

ข้อ 14. คณะกรรมการของบริษัทให้ มีจำนวนไม่น้อยกว่าห้าคน และไม่เกินกว่าสิบสองคน โดยกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดต้องมีถิ่นที่อยู่ใน ราชอาณาจักร

ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการคนหนึ่งขึ้นเป็นประธานกรรมการ และถ้าเห็นสมควรจะเลือกกรรมการคนหนึ่ง หรือหลายคนตั้งเป็นรองประธานกรรมการก็ได้

ข้อ 15. กรรมการของบริษัทต้องเป็นบุคคลธรรมดา และ

        (1) บรรลุนิติภาวะ

        (2) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

        (3) ไม่เคยรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่ได้กระทำโดยทุจริต

        (4) ไม่เคยถูกลงโทษไล่ออก หรือปลดออกจากราชการ หรือองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ ฐานทุจริตต่อหน้าที่

ข้อ 16. กรรมการของบริษัทให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเลือกตั้งตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังต่อไปนี้

        (1) ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งมีคะแนนเสียงเท่ากับจำนวนหุ้นที่ตนถือ โดยถือว่าหุ้นหนึ่งมีหนึ่งเสียง

        (2) การลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง กรรมการจะลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเป็นรายบุคคลหรือหลายคน ตามจำนวนกรรมการที่จะต้องเลือกตั้งในคราวนั้นก็ได้ ทั้งนี้ ตามแต่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นจะเห็นสมควรโดยในการออกเสียงลงคะแนนไม่ว่าจะเป็น การเลือกตั้งเป็นรายบุคคลหรือหลาย   คน ให้แต่ละคนที่ผู้ถือหุ้นออกเสียงเลือกตั้งได้รับคะแนนเสียงจากผู้ถือหุ้นตาม จำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นนั้นมีอยู่ทั้งหมดตาม (1) โดยผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะแบ่งคะแนนเสียงให้แก่ผู้หนึ่งผู้ใดมากหรือน้อยเพียง ใดไม่ได้

        (3) บุคคลซึ่งได้รับคะแนนเสียงสูง สุดตามลำดับลงมา เป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นกรรมการ ตามจำนวนกรรมการที่จะพึงมีหรือพึงเลือกตั้งในครั้งนั้น ในกรณีที่บุคคลซึ่งได้รับการเลือกตั้งในลำดับถัดลงมามีคะแนนเสียงเท่ากัน เกินจำนวนกรรมการที่จะพึงมีหรือจะพึงเลือกตั้งในครั้งนั้นให้ใช้การจับสลาก ตามวิธีที่ประธานในที่ประชุมจะเป็นผู้กำหนด

ข้อ 17. ผู้ที่จะเป็นกรรมการของบริษัท ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท

ข้อ 18. ในการประชุมผู้ถือหุ้น สามัญประจำปีทุกครั้ง ให้กรรมการจำนวนหนึ่งในสามของของจำนวนกรรมการที่จะพึงมีออกจากตำแหน่ง และในปีต่อๆ ไป ให้กรรมกรรมการคนที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดเป็นผู้ออกจากตำแหน่ง กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามข้อนี้ อาจได้รับเลือกเข้ารับตำแหน่งอีกก็ได้

ข้อ 19. นอกจากพ้นตำแหน่งตามวาระ ตามข้อ 18 กรรมการพ้นจากตำแหน่งเมื่อ

    (1) ตาย

    (2) ลาออก

    (3) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย

    (4) ที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติให้ ออกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนผู้ถือหุ้น ซึ่งมาประชุมและ            มีสิทธิออกเสียง และมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนหุ้นที่ถือ โดยผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุม                และมีสิทธิออกเสียง

    (5) ศาลมีคำสั่งให้ออก

ข้อ 20. กรรมการคนใดจะลาออกจากตำแหน่งให้ยื่นใบลาออกต่อบริษัท การลาออกมีผลนับแต่วันที่ใบลาออกไปถึงบริษัท

         ข้อ 21. ในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการว่างลงเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ ให้คณะกรรมการเลือก               บุคคลหนึ่งบุคคลใด ซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย เข้าเป็นกรรมการแทนในการประชุม             คณะกรรมการคราวถัดไป เว้นแต่วาระของกรรมการที่ว่างลงจะเหลือน้อยกว่าสองเดือน

         มติของคณะกรรมการตามวรรคหนึ่งต้องประกอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการที่ยัง             เหลืออยู่

         บุคคลซึ่งเข้าเป็นกรรมการแทนตามวรรคหนึ่งอยู่ในตำแหน่งกรรมการได้เพียงเท่าวาระที่ยังเหลืออยู่ของ                       กรรมการซึ่งตนแทน

 ข้อ 22. ในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการ ว่างลงจนเหลือน้อยกว่าจำนวนที่จะเป็นองค์ประชุม ให้กรรมการที่เหลืออยู่   กระทำการในนามของคณะกรรมการได้แต่เฉพาะการจัดให้มี การประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกตั้งกรรมการแทน   ตำแหน่งที่ว่าง ทั้งหมดเท่านั้น

 การประชุมให้กระทำภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่จำนวนกรรมการว่างลงเหลือน้อยกว่าจำนวนที่จะเป็นองค์     ประชุม

 ข้อ 23.ห้ามมิให้กรรมการประกอบ กิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันกับกิจการของบริษัท หรือ   เข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญหรือเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับ ผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือเป็น   กรรมการของบริษัทเอกชน หรือบริษัทอื่นที่ประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกัน และเป็นการแข่งขันกับ   กิจการของบริษัท ไม่ว่าจะทำเพื่อประโยชน์ตน หรือประโยชน์ผู้อื่น เว้นแต่จะได้แจ้งให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบ   ก่อนที่จะมีมติแต่งตั้ง

          ข้อ 24.  คณะกรรมการต้องประชุมอย่างน้อยหนึ่งครั้งทุกสามเดือน สำหรับสถานที่ประชุมคณะกรรมการจะจัดให้            ประชุม ณ สถานที่อื่นใดก็ได้ สุดแต่จะเห็นสมควร

          ในการประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็น              องค์ประชุม ในกรณีที่ประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุม หรือ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ถ้ามีรองประธาน                    กรรมการให้รองประธานกรรมการเป็นประธาน ถ้าไม่มีรองประธานกรรมการหรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้              ให้กรรมการซึ่งมาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม

           การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมคณะกรรมการให้ชี้ขาดตัดสินด้วยเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งใน               การลงคะแนน แต่กรรมการซึ่งมีส่วนได้เสียในเรื่องใดย่อมไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในเรื่องนั้น ถ้าคะแนน                 เสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขา

           ข้อ 25. ประธานกรรมการเป็นผู้เรียกประชุมคณะกรรมการ และในการเรียกประชุมคณะกรรมการให้ประธาน                   กรรมการหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายส่งหนังสือนัดประชุมไปยังกรรมการไม่น้อยกว่าสามวันก่อนวันประชุม เว้นแต่             ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของบริษัท จะแจ้งการนัดประชุมโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์               หรือวิธีการอื่นใดและกำหนดวันประชุมให้เร็วกว่านั้นก็ได้

           เมื่อมีเหตุอันสมควรหรือเพื่อรักษาสิทธิหรือประโยชน์ของบริษัท กรรมการตั้งแต่สองคนขึ้นไป จะร่วมกันร้องขอ             ให้ประธานกรรมการเรียกประชุมคณะกรรมการได้ โดยต้องระบุเรื่องและเหตุผลที่จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา               ไปด้วย ในกรณีเช่นนี้ให้ประธานกรรมการเรียกและกำหนดวันประชุมภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ

   ในกรณีที่ประธานกรรมการไม่ดำเนินการตามวรรคสอง กรรมการซึ่งร้องขออาจร่วมกันเรียกและกำหนดวัน             ประชุม  คณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องที่ร้องขอได้ภายในสิบสี่วันนับแต่วันครบกำหนดระยะเวลาตามวรรค         สอง

   ในกรณีที่ไม่มีประธานกรรมการ ให้รองประธานกรรมการเป็นผู้เรียกประชุมคณะกรรมการ ในกรณีที่ไม่มีรอง           ประธานกรรมการ กรรมการตั้งแต่สองคนขึ้นไปอาจร่วมกันเรียกประชุมคณะกรรมการได้

   ประธานกรรมการ หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากประธานกรรมการ อาจกำหนดให้จัดการประชุมคณะ                 กรรมการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ ตามแบบ วิธีการ แนวทาง เงื่อนไข และมาตรฐาน ที่กำหนดโดยกฎหมาย         กฎเกณฑ์ ระเบียบ และ/หรือคำสั่งใด ๆ ที่บังคับใช้และ/หรือเกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ             และ/ หรือคำสั่งใด ๆ ดังกล่าวที่อาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมในภายหลัง ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการผ่านสื่อ       อิเล็กทรอนิกส์ ให้ถือว่าที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทเป็นสถานที่จัดการประชุม

           ข้อ 26. คณะกรรมการบริษัทมีอำนาจและหน้าที่จัดการบริษัทให้เป็นตามวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ และมติของที่               ประชุมผู้ถือหุ้น รวมทั้ง

              (1)  กำกับควบคุมสอดส่องดูแลการดำเนินกิจการทั้งหลายของบริษัท

              (2)  แต่งตั้งและถอดถอนพนักงานและลูกจ้างของบริษัท

              (3)  กำหนดจ่ายเงินบำเหน็จรางวัลและเงินชดเชยแก่พนักงาน หรือลูกจ้างของบริษัทหรือบุคคลใดที่ทำ                              กิจการให้กับบริษัท โดยจะเป็นผู้ทำการประจำหรือไม่ประจำก็ได้

              (4)  กำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้น

           คณะกรรมการอาจมอบหมายให้กรรมการคนใดคนหนึ่งหรือหลายคน หรือบุคคลอื่นไปปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง             แทนคณะกรรมการก็ได้

           การกระทำการใด ๆ จะมีผลผูกพันต่อบริษัทเมื่อกรรมการผู้บริหารคนใดคนหนึ่ง ลงลายมือชื่อแต่เพียงผู้เดียว                 และประทับตราบริษัท หรือกรรมการคนอื่นสองคนลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท ตามที่             คณะกรรมการกำหนดและมอบหมาย

           คณะกรรมการมีอำนาจกำหนดเปลี่ยนแปลงแก้ไขชื่อและจำนวนกรรมการซึ่งมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทได้

  ข้อ 27. กรรมการมีสิทธิได้รับค่า ตอบแทนจากบริษัทในรูปของเงินรางวัล เบี้ยประชุม บำเหน็จ โบนัส หรือ ผล      ประโยชน์ตอบแทนในลักษณะอื่น ตามข้อบังคับหรือตามที่ประชุมผู้ถือหุ้นจะพิจารณา ซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นอาจ      กำหนดเป็นจำนวนแน่นอนหรือวางเป็นหลักเกณฑ์ และจะกำหนดไว้เป็นคราวๆ ไป หรือจะให้มีผลตลอดไป          จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้

  ความในวรรคหนึ่งไม่กระทบกระเทือนสิทธิของพนักงานหรือลูกจ้างของ บริษัทซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นกรรมการ      ในอันที่จะได้รับค่าตอบแทนและผลประโยชน์ในฐานะที่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของ บริษัท

  ข้อ 28. คณะกรรมการมีอำนาจตั้ง กรรมการจำนวนหนึ่งเป็นคณะกรรมการบริหารหรือคณะกรรมการอื่นเพื่อ            ดำเนินกิจการ อย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างโดยจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดก็ได้ กรรมการบริหารหรือ            กรรมการอื่น มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนและบำเหน็จตามที่ประชุมคณะกรรมการกำหนด แต่ทั้งนี้ไม่กระทบ              กระเทือนสิทธิของกรรมการบริหารหรือกรรมการอื่นนั้นในอัน ที่จะได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์อย่างอื่น      ตามข้อบังคับนี้ในฐานะกรรมการ

  ข้อ 29. คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้ง บุคคลใดมาเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการเพื่อช่วยเหลือให้ความคิดเห็นใน    กิจการงาน ของบริษัทและกำหนดค่าจ้างและบำเหน็จรางวัลได้ตามที่คณะกรรมการจะเห็นสมควร

 

หมวด 5 การประชุมผู้ถือหุ้น

 

         ข้อ 30. คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมสามัญประจำปีภายในสี่เดือนนับแต่วันสิ้น               สุดของรอบปีบัญชีของบริษัท

         การประชุมผู้ถือหุ้นคราวอื่นให้เรียกว่าการประชุมวิสามัญ คณะกรรมการจะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุม               วิสามัญเมื่อใดก็ได้สุดแต่จะเห็นสมควร

         คณะกรรมการอาจจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ตามแบบ วิธีการ แนวทาง เงื่อนไข และ             มาตรฐาน ที่กำหนดโดยกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ และ/หรือคำสั่งใด ๆ ที่บังคับใช้และ/หรือเกี่ยวข้อง รวมถึง             กฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ และ/หรือคำสั่งใด ๆ ดังกล่าวที่อาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมในภายหลัง ทั้งนี้ ในการ                 ประชุมผู้ถือหุ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้ถือว่าที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทเป็นสถานที่จัดการประชุม

ข้อ 31. ในกรณีที่มีผู้ถือหุ้นคนหนึ่งหรือหลายคนซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าร้อยละสิบ(10)ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดจะเข้าชื่อกันทำหนังสือขอให้คณะกรรมการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมวิสามัญเมื่อใดก็ได้ โดยในหนังสือขอให้เรียกประชุมต้องระบุเรื่องและเหตุผลในการที่ขอให้เรียกประชุมไว้ให้ชัดเจนด้วย  ในกรณีเช่นนี้คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นภายในสี่สิบห้า(45)วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือจากผู้ถือหุ้น 

ในกรณีที่คณะกรรมการไม่จัดให้มีการประชุมภายในกำหนดระยะเวลาตามวรรคแรก ผู้ถือหุ้นทั้งหลายซึ่งเข้าชื่อกัน หรือผู้ถือหุ้นคนอื่น ๆ รวมกันได้จำนวนหุ้นตามที่บังคับไว้นั้นจะเรียกประชุมเองก็ได้ภายในสี่สิบห้า(45)วัน นับแต่วันครบกำหนดระยะเวลาตามวรรคแรก ในกรณีเช่นนี้ให้ถือว่าเป็นการประชุมผู้ถือหุ้นที่คณะกรรมการเรียกประชุมโดยบริษัทต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอันจำเป็นที่เกิดจากการจัดให้มีการประชุมและอำนวยความสะดวกตามสมควร  

การประชุมผู้ถือหุ้นที่เรียกประชุมโดยผู้ถือหุ้นตามวรรคสองนั้น ผู้ถือหุ้นอาจจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามแบบ วิธีการ แนวทาง เงื่อนไข และมาตรฐาน ที่กำหนดโดยกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ และ/หรือคำสั่งใด ๆ ที่บังคับใช้และ/หรือเกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ และ/หรือคำสั่งใด ๆ ดังกล่าวที่อาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมในภายหลัง และอาจจัดส่งหนังสือนัดประชุมไปยังผู้ถือหุ้น โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ หากผู้ถือหุ้นนั้นได้แจ้งความประสงค์หรือให้ความยินยอมให้ส่งหนังสือโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ไว้กับบริษัทหรือคณะกรรมการตามข้อ 52 แล้ว ทั้งนี้ ในการประชุมผู้ถือหุ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้ถือว่าที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทเป็นสถานที่จัดการประชุม

ในกรณีที่ปรากฏว่าการประชุมผู้ถือหุ้นที่เป็นการเรียกประชุมเพราะผู้ถือหุ้นตามวรรคสองครั้งใด จำนวน     ผู้ถือหุ้นซึ่งมาร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุมตามที่กำหนดไว้ในข้อ 33 ผู้ถือหุ้นตามวรรคสองต้องร่วมกันรับผิดชอบชดใช้ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการจัดให้มีการประชุมในครั้งนั้นให้แก่บริษัท

ข้อ 32. ในการเรียกประชุมผู้ถือหุ้น ให้คณะกรรมการจัดทำหนังสือนัดประชุมระบุสถานที่ วัน เวลา ระเบียบ วาระการประชุม และเรื่องที่จะเสนอต่อที่ประชุม พร้อมด้วยรายละเอียดตามสมควร โดยระบุให้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่จะเสนอเพื่อทราบ เพื่ออนุมัติ หรือเพื่อพิจารณา แล้วแต่กรณี รวมทั้งความเห็นของคณะกรรมการในเรื่องดังกล่าว และจัดส่งให้ผู้ถือหุ้นและนายทะเบียนทราบไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันประชุม และให้โฆษณาคำบอกกล่าวนัดประชุมติดต่อกันสามวันและก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่าสามวันในหนังสือพิมพ์ หรือใช้วิธีการโฆษณาทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามหลักเกณฑ์ที่นายทะเบียนกำหนดแทนก็ได้

ข้อ 33. ในการประชุมผู้ถือหุ้น ต้องมีผู้ถือหุ้นและหรือผู้รับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้น (ถ้ามี) มาประชุมไม่น้อยกว่ายี่สิบห้าคน หรือไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด และต้องมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ ทั้งหมด จึงจะครบเป็นองค์ประชุม เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

ในกรณีที่ปรากฏว่าการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งใดเมื่อล่วงเวลานัด ไปแล้วถึงหนึ่งชั่วโมงจำนวนผู้ถือหุ้นซึ่งมาเข้าร่วมประชุมไม่ครบเป็นองค์ ประชุมตามที่กำหนดไว้ หากว่าการประชุมผู้ถือหุ้นนั้นได้เรียกนัดเพราะผู้ถือหุ้นร้องขอ การประชุมเป็นอันระงับไป ถ้าการประชุมผู้ถือหุ้นนั้นมิใช่เป็นการเรียกประชุมเพราะผู้ถือหุ้นร้องขอ ให้นัดประชุมใหม่และให้ส่งหนังสือนัดประชุมไปยังผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าเจ็ด วันก่อนวันประชุม ในการประชุมครั้งหลังนี้ไม่บังคับว่าจะต้องครบองค์ประชุม

         ข้อ 34.  ผู้ถือหุ้นจะมอบฉันทะให้บุคคลอื่นเข้าประชุมและออกเสียงลงคะแนนแทนตนก็ได้ โดยต้องยื่น                         หนังสือมอบฉันทะต่อประธานกรรมการหรือผู้ที่ประธานกรรมการกำหนด ณ สถานที่ประชุมก่อนผู้รับมอบฉันทะ             เข้าประชุม หนังสือมอบฉันทะให้ทำตามแบบที่นายทะเบียนกำหนด

         การมอบฉันทะตามวรรคหนึ่ง อาจดำเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แทนได้ โดยต้องใช้วิธีการที่มีความ             ปลอดภัยและเชื่อถือได้ว่าการมอบฉันทะนั้นได้ดำเนินการโดยผู้ถือหุ้น ตามหลักเกณฑ์ที่นายทะเบียนกำหนด

ข้อ 35. การออกเสียงลงคะแนนให้ ผู้ถือหุ้นมีคะแนนเสียงเท่าจำนวนหุ้นที่ตนถือ โดยให้นับหนึ่งหุ้นเป็นหนึ่งเสียง ผู้ถือหุ้นคนใดมีส่วนได้เสียเป็นพิเศษในเรื่องใด ซึ่งที่ประชุมจะได้ลงมติ ผู้นั้นไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนด้วยในข้อนั้น นอกจากออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการ

การออกเสียงลงคะแนนในวรรคหนึ่งในส่วนที่ถือว่าหุ้นหนึ่งมีเสียง หนึ่งนั้น มิให้ใช้บังคับกับกรณีที่บริษัทได้ออกหุ้นบุริมสิทธิและกำหนดให้มีสิทธิออก เสียงลงคะแนนน้อยกว่าหุ้นสามัญ

เว้นแต่ในข้อบังคับนี้หรือกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น การวินิจฉัยชี้ขาดหรือการลงมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงคะแนนโดยเปิดเผยหรือโดยลับ ให้ประกอบด้วยคะแนนเสียงดังต่อไปนี้

    (1) ในกรณีปกติ ให้ถือเสียงข้างมากของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ผู้เป็นประธานในที่ประชุมมีคะแนนเสียงอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

    (2) ในกรณีตกลงเข้าทำรายการที่ เกี่ยวโยงกัน และ/ หรือการตกลงเข้าทำรายการเพื่อก่อให้เกิดการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ ที่สำคัญและ/ หรือสิทธิในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่สำคัญของบริษัท ทั้งนี้ การตกลงเข้าทำรายการดังกล่าวเป็นกรณีที่ต้องขอความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ ถือหุ้นของบริษัทตามข้อกำหนด กฎ หรือประกาศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและ/ หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง ให้ถือเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมา ประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน

ในกรณีบริษัทมีการตกลงเข้าทำรายการซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการที่ เกี่ยวโยงกัน และ/ หรือรายการเพื่อก่อให้เกิดการได้มาหรือการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่สำคัญ และ/ หรือสิทธิในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่สำคัญของบริษัทตามประกาศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และการเปิดเผยรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจดทะเบียน และหลักเกณฑ์ วิธีการ และการเปิดเผยเกี่ยวกับการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจด ทะเบียน

ข้อ 36. กิจการอันที่ประชุมสามัญประจำปีพึงกระทำมีดังนี้

    (1) พิจารณารับทราบรายงานประจำปีของคณะกรรมการเกี่ยวกับกิจการของบริษัทที่ได้ดำเนินมาในรอบปี

    (2) พิจารณาอนุมัติงบดุล และบัญชีกำไรขาดทุน

    (3) พิจารณาอนุมัติจัดสรรเงินกำไร

    (4) พิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทน กรรมการที่ออกตามข้อ 18 หรือออกเพราะสาเหตุอื่นซึ่งทำให้ตำแหน่ง                ว่างลงหรือเลือกตั้งกรรมการเพิ่มใน กรณีที่มีการเพิ่มจำนวนกรรมการ

    (5) พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดจำนวนเงินค่าสอบบัญชี

ข้อ 37. ประธานกรรมการเป็นประธานของ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ในกรณีที่ประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ถ้ามีรองประธานกรรมการ ให้รองประธานกรรมการเป็นประธาน ถ้าไม่มีรองประธานกรรมการหรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งมาประชุมเลือกผู้ถือหุ้นคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม

ข้อ 38. ประธานในที่ประชุมผู้ถือ หุ้นมีหน้าที่ควบคุมการประชุมให้เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัท ในการนี้ต้องดำเนินการประชุมให้เป็นไปตามลำดับระเบียบวาระที่กำหนดไว้ใน หนังสือนัดประชุม เว้นแต่ที่ประชุมจะมีมติให้เปลี่ยนลำดับระเบียบวาระด้วยคะแนนเสียงไม่น้อย กว่าสองในสามของจำนวนผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุม

เมื่อที่ประชุมพิจารณาเสร็จตามวรรคหนึ่งแล้ว ผู้ถือหุ้นซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหุ้นที่ จำหน่ายได้ทั้งหมดจะขอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ใน หนังสือนัดประชุมอีกก็ได้

 

หมวด 6 การบัญชี การเงิน และการสอบบัญชี

 

ข้อ 39. รอบปีบัญชีของบริษัท เริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคม และสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี

ข้อ 40. บริษัทต้องจัดให้มีการทำและเก็บรักษาบัญชีตลอดจนการสอบบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น

ข้อ 41. ให้ทำบัญชีงบดุลและบัญชี กำไรขาดทุนของบริษัทปีละสองครั้งคือสำหรับระยะหกเดือนแรกของปีสิ้นสุดเพียง เดือนมิถุนายนครั้งหนึ่ง และสำหรับระยะหกเดือนหลังสิ้นสุดเพียงเดือนธันวาคมอีกครั้งหนึ่ง

งบดุลและบัญชีกำไรขาดทุนนี้ คณะกรรมการต้องจัดให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบให้เสร็จก่อนนำเสนอต่อที่ประชุม ผู้ถือหุ้น

ข้อ 42. คณะกรรมการต้องจัดส่งเอกสารดังต่อไปนี้ให้ผู้ถือหุ้น พร้อมส่งหนังสือนัดประชุมสามัญประจำปี

    (1)  สำเนางบดุลและบัญชีกำไรขาดทุนที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบแล้ว พร้อมทั้งรายงานการตรวจสอบบัญชีของ            ผู้สอบบัญชี

    (2)  รายงานประจำปีของคณะกรรมการ

         ข้อ 43.     ห้ามจ่ายเงินปันผลจากเงินประเภทอื่นนอกจากเงินกำไร ในกรณีที่บริษัทยังมียอดขาดทุนสะสมอยู่               ห้ามมิให้จ่ายเงินปันผล

         คณะกรรมการอาจจัดสรรเงินกำไรสุทธิที่เหลือจากการจ่ายเงินปันผลตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือจากการจ่าย               เงินปันผลระหว่างกาล (ถ้ามี) หรือ นำเงินกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นตามบัญชีงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน งบการเงิน               ของบริษัทที่ผ่านการสอบทานหรือตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแล้ว เป็นเงินสำรองต่าง ๆ หรือเป็นทุนสำรองเพื่อ             เป็นเงินกองทุนของบริษัทได้ ตามแต่คณะกรรมการจะเห็นสมควร และให้คณะกรรมการมีอำนาจในการ                         เปลี่ยนแปลงเงินสำรองที่เป็นเงินกองทุนหรือเงินสำรองต่าง ๆ ที่ได้จัดสรรไว้แล้วได้ตามที่เห็นสมควร ยกเว้น               ทุนสำรองตามข้อ 44

         คณะกรรมการอาจจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งคราวเมื่อเห็นว่าบริษัทมีกำไรสมควรพอที่             จะทำเช่นนั้นและเมื่อได้จ่ายเงินปันผลแล้วให้รายงานให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมคราวต่อไป

         การจ่ายเงินปันผลให้กระทำภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยให้แจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้ถือหุ้นและให้                 โฆษณาคำบอกกล่าวการจ่ายเงินปันผลในหนังสือพิมพ์ หรือใช้วิธีการโฆษณาทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามหลัก               เกณฑ์ที่นายทะเบียนกำหนดไว้แทนก็ได้ 

ข้อ 44. บริษัทจะจัดสรรกำไรสุทธิ ประจำปีส่วนหนึ่งไว้เป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของกำไรสุทธิประจำปี หักด้วยยอดเงินขาดทุนสะสมยกมา (ถ้ามี) จนกว่าทุนสำรองนี้จะมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของทุนจดทะเบียน

ข้อ 45. ในกรณีที่บริษัทยังจำหน่าย หุ้นไม่ครบตามจำนวนที่จดทะเบียนไว้ หรือบริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนแล้วบริษัทอาจจ่ายเงินปันผลทั้งหมด หรือบางส่วนโดยออกเป็นหุ้นสามัญใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นโดยได้รับความเห็นชอบ จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นก็ได้

ข้อ 46. ผู้สอบบัญชีต้องไม่เป็นกรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ดำรงตำแหน่งใดๆ ของบริษัท

ข้อ 47. ให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น สามัญประจำปีแต่งตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดจำนวนเงินค่าสอบบัญชีของบริษัททุก ปี ในการแต่งตั้งผู้สอบบัญชี จะแต่งตั้งผู้สอบบัญชีคนเดิมอีกก็ได้

ข้อ 48. ผู้สอบบัญชีมีหน้าที่เข้า ร่วมประชุมในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัททุกครั้งที่มีการพิจารณางบดุล บัญชีกำไรขาดทุน และปัญหาเกี่ยวกับบัญชีของบริษัท เพื่อชี้แจงการตรวจสอบบัญชีต่อผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ ให้บริษัทจัดส่งรายงานและเอกสารของบริษัทที่ผู้ถือหุ้นจะพึงได้รับในการ ประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนั้นแก่ผู้สอบบัญชีด้วย

ข้อ 49. ผู้สอบบัญชีมีอำนาจตรวจสอบ บัญชี เอกสารและหลักฐานอื่นใดที่เกี่ยวกับรายได้รายจ่ายตลอดจนทรัพย์สินและหนี้สิน ของบริษัทได้ในระหว่างเวลาทำการของบริษัท ในการนี้ให้มีอำนาจสอบถามกรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ผู้ดำรงตำแหน่งหน้าที่ใดๆ ของบริษัท และตัวแทนของบริษัทรวมทั้งให้ชี้แจงข้อเท็จจริงหรือส่งเอกสารหลักฐานเกี่ยว กับการดำเนินกิจการของบริษัทได้

ข้อ 50.  บริษัทต้องจัดส่งรายงานประจำปีพร้อมกับสำเนางบดุลและบัญชีกำไรขาดทุนที่ผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบและที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแล้วและสำเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นเฉพาะที่เกี่ยวกับการอนุมัติ   งบดุล การจัดสรรกำไร และการแบ่งเงินปันผล โดยผู้มีอำนาจลงนามแทนบริษัทลงลายมือชื่อรับรองว่าถูกต้องไปยังนายทะเบียน สำหรับงบดุลต้องโฆษณาให้ประชาชนทราบทางหนังสือพิมพ์ มีกำหนดเวลาอย่างน้อยหนึ่งวันและภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติ ทั้งนี้ การโฆษณาดังกล่าวอาจใช้วิธีการทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามหลักเกณฑ์ที่นายทะเบียนกำหนดไว้แทนก็ได้

 

หมวด 7 บทเพิ่มเติม

 

ข้อ 51. เมื่อได้รับอนุมัติจาก ที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว บริษัทอาจโอนทุนสำรองตามมาตรา 51 ทุนสำรองตามมาตรา 116 หรือเงินสำรองอื่นเพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัทได้

การชดเชยผลขาดทุนตามวรรคหนึ่ง ให้หักชดเชยจากเงินสำรองอื่นก่อนแล้วจึงหักจากทุนสำรองตามมาตรา 116 และทุนสำรองตามมาตรา 51 ตามลำดับ ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด

ข้อ 52. ในกรณีที่บริษัทหรือคณะกรรมการมีหน้าที่ต้องส่งหนังสือหรือเอกสารตามข้อบังคับนี้ให้แก่กรรมการหรือผู้ถือหุ้นของบริษัท หากบุคคลดังกล่าวได้แจ้งความประสงค์หรือยินยอมให้ส่งหนังสือหรือเอกสารโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทหรือคณะกรรมการอาจส่งหนังสือหรือเอกสารนั้นโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่นายทะเบียนได้กำหนดไว้ 

ข้อ 53.  กรณีที่บริษัทมีหน้าที่บอกกล่าว แจ้งความ หรือโฆษณาข้อความใด ๆ ให้บุคคลอื่นหรือประชาชนทราบโดยทางหนังสือพิมพ์ ตามข้อกำหนดในกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด บริษัทอาจใช้วิธีการโฆษณาทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์แทนก็ได้

ข้อ 54. ตราประทับของบริษัทให้ใช้ดังที่ประทับไว้นี้