1. ลงทุนกองทุนรวม
กองทุนรวม คือ การระดมเงินลงทุนจากนักลงทุน ซึ่งมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เป็นผู้ดูแล จุดเด่นของกองทุนรวมคือมีเงินน้อยก็ลงทุนได้ ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเอาไปฝากในธนาคาร มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็น หุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ เลือกลงทุนได้ตามระดับความเสี่ยงที่เรารับไหว
2. ลงทุนในหุ้น
การลงทุนในหุ้น หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า "เล่นหุ้น" นั่นแหละ เป็นการซื้อหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ความเสี่ยงสูง และผลตอบแทนก็สูงเช่นกัน ซึ่งเราจะได้ผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผลจากกำไรการดำเนินการของบริษัท รวมถึงส่วนต่างที่ได้จากการซื้อขายหุ้น เราจะสามารถเทรดหุ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการเปิดบัญชีหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์กับโบรกเกอร์ หรือที่หลายคนเรียกว่า "เปิดพอร์ต"
3. ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ปล่อยเช่าบ้าน - คอนโดมิเนียม
การปล่อยเช่า คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม อาคารสำนักงาน ถือเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากในยุคนี้ เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง ในรูปแบบการปล่อยเช่ารายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน ซื้อไว้สร้างรายได้ในระยะยาว มีการผันผวนต่ำ
4. ลงทุนในทองคำ
ทองคำ ถือเป็นของมีค่าที่ยิ่งอยู่นานยิ่งได้กำไร เป็นทรัพย์สินที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอยู่ตลอด เหมาะแก่การวางแผนทางการเงินในระยะยาว โดยการลงทุนในทองคำจะได้ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับราคาทองคำในแต่ละปีทั้งจากตลาดในประเทศ รวมถึง ตลาดโลก ไม่เพียงเท่านี้ การลงทุนในทองคำ ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่มีเงินลงทุนน้อย แต่ต้องการผลตอบแทนสูงก็สามารถลงทุนได้ในกองทุนรวมทองคำ
5. ลงทุนในของสะสม
สิ่งของที่สื่อถึงความชื่นชอบของผู้ลงทุน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์, นาฬิกา, เครื่องประดับ, พระเครื่อง, หุ่นยนต์ โมเดล รุ่นที่หายาก, ของเก่า, งานศิลปะ ผลตอบแทนที่ได้อยู่ที่ความพอใจล้วน ๆ เนื่องจากสิ่งของเหล่านี้ไม่มีราคากลางที่แน่นอน ทำให้ผลตอบแทนที่ได้อาจจะมาจากส่วนต่างของราคาที่เราซื้อ จนมาถึงตอนที่ถูกขายออกไป ยิ่งเป็นของหายาก Rare Item ราคาก็จะยิ่งพุ่งทะยานไปอีก