แนะนำ 5 วิธี ทำเงินให้งอกเงย ด้วยการลงทุนระยะยาว

ถ้าคุณคือมือใหม่เพิ่งเริ่มลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเหล่า First Jobber หรือผู้ที่เริ่มสนใจการลงทุนจริงจัง แต่ยังไม่มีประสบการณ์ ต้องบอกว่า การลงทุนระยะยาว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ให้ผลตอบแทนที่ดี วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการลงทุน มีอะไรบ้าง ที่ช่วยทำเงินให้งอกเงย แล้วลงทุนอะไรดี ที่มีความเสี่ยงน้อย เป็นไอเดียสำหรับใครก็ตามที่สนใจในการเริ่มลงทุน

การลงทุน มีอะไรบ้าง

อย่างที่ทราบกันว่า การลงทุนเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มมูลค่าของเงินที่เรามี ช่วยให้มีเงินออมมากขึ้น มีเงินก้อนสำหรับเป้าหมายในอนาคต รวมถึงมีเงินใช้ยามเกษียณ ซึ่งการลงทุนมีหลายประเภท ที่สามารถให้ผลตอบแทนได้ตามวัตถุประสงค์และระดับความเสี่ยงที่มาก หรือ น้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกลงทุนอะไร ซึ่งประเภทของการลงทุนแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

1. การลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน

อาทิเช่น เช่น หุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวม ซึ่งการลงทุนประเภทนี้มักมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่สูง

2. การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีตัวตน

เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีรูปร่างและสามารถจับต้องได้ เช่น อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ เป็นต้น การลงทุนประเภทนี้มักมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ต่ำกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน

สำหรับคนที่มีงบน้อย หรือเพิ่งเริ่มลงทุน อาจจะเริ่มจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งหนึ่งในการลงทุนที่ได้รับความนิยม นั่นก็คือ การลงทุนระยะยาว ที่ช่วยสร้างโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับคุณได้

แนะนำ 5 วิธีทำเงินให้งอกเงย ด้วยการลงทุนระยะยาว

หลายคนอาจมีคำถามว่า ลงทุนอะไรที่ได้ผลตอบแทนสูง และลงทุนอะไรดีที่มีความเสี่ยงน้อย แต่ ทําเงินให้งอกเงย การลงทุนระยะยาว (Long-Term Investment) เป็นหนึ่งในการลงทุนที่มุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต มีระยะเวลาการลงทุนมากกว่า 3 ปี ขึ้นไป โดยเชื่อว่าหากลงทุนในระยะยาว ความเสี่ยงจะลดลงและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ ดังนั้น สินทรัพย์การลงทุนระยะยาวที่ได้รับความนิยมจึงมักเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มการเติบโต และมีความผันผวนไม่สูงมากนัก และนี่คือ 5 การลงทุนระยะยาวที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับคุณได้

วิธีที่ 1 : ลงทุนกับกองทุน SSF และ RMF

หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อ 2 กองทุนนี้มาบ้างไม่มากก็น้อย กองทุน SSF (Super Savings Fund) และ RMF (Retirement Mutual Fund) เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยากลงทุนให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทน รวมที่มีเป้าหมายในการสะสมเงินเพื่อการเกษียณ โดยมีสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งทั้ง 2 กองทุน จะมีเงื่อนไขดังนี้

1.1 กองทุน SSF

วงเงินลดหย่อนภาษี ไม่เกิน 30 % ของรายได้ (สูงสุด 200,000 บาท) และเมื่อรวมกับค่าลดหย่อนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ระยะเวลาถือครอง 10 ปีนับตั้งแต่วันซื้อ ไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปีก็ได้ ไม่มีกำหนดจำนวนซื้อขั้นต่ำ

1.2 กองทุน RMF

วงเงินลดหย่อนภาษี ไม่เกิน 30 % ของรายได้ (สูงสุด 500,000 บาท) และเมื่อรวมกับค่าลดหย่อนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท RMF ต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปี และถอนเงินออกได้เมื่ออายุครบ 55 ปี หรือมีเหตุจำเป็นอื่น ๆ ไม่มีกำหนดจำนวนซื้อขั้นต่ำ แต่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี (หรือซื้อแบบปีเว้นปีเป็นอย่างน้อย)

วิธีที่ 2 : ลงทุนด้วยการออมทอง

ทองคำ (Gold) เป็นทรัพย์สินที่มีความมั่นคง และมีความต้องการสูง ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของเครื่องประดับ หรือทองคำแท่ง การลงทุนทองคำคือการซื้อทองคำเมื่อราคาต่ำ และขายทองคำเมื่อราคาสูง และในปัจจุบันเราสามารถลงทุนในทองคำได้ง่ายขึ้นด้วยรูปแบบการลงทุนที่ชื่อว่า "ออมทอง"

ข้อดีของการออมทองก็คือ เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย นิยมใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อหรือความผันผวนของตลาด โดยผู้ลงทุนทยอยซื้อทองสะสมได้ด้วยจำนวนเงินตั้งแต่หลักร้อยบาทเป็นต้นไป เมื่อได้เงินครบราคาทองคำแล้ว ก็สามารถแลกออกมาเป็นทองคำแท่งได้

วิธีที่ 3 : ลงทุนด้วยการซื้อประกันสะสมทรัพย์

ลงทุนอะไรดี ความเสี่ยงน้อย การซื้อประกันสะสมทรัพย์ ก็เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำด้วยการซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ซึ่งให้ผลตอบแทนแน่นอน โดยเมื่อครบสัญญาจะได้รับเงินคืนพร้อมดอกเบี้ย ในปัจจุบัน ประกันสะสมทรัพย์ มีหลายแบบให้เลือก สามารถเลือกได้ตามความต้องการ และความสามารถในการส่งเบี้ยประกัน

วิธีที่ 4 : ซื้อสลากออมทรัพย์

การซื้อสลากออมทรัพย์ เป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากบัญชีออมทรัพย์ และอาจได้รับเงินรางวัลจากสลากที่หมายเลขตรงกับเลขรางวัลที่ออก และถ้าเราซื้อสลากมากเท่าไหร่ โอกาสในการถูกรางวัลก็มีมากขึ้นเท่านั้น รวมถึงยังได้รับการยกเว้นภาษีอีกด้วย  

วิธีที่ 5 : ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก

การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Alternative Investment) เป็นสินทรัพย์ที่มีลักษณะที่แตกต่าง และมีความเฉพาะตัว ซึ่งจะมีผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ไม่เหมือนกับสินทรัพย์อื่น ๆ สินทรัพย์ทางเลือกที่นิยมลงทุน อาทิ

5.1 ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate)

เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา นิยมลงทุนเพื่อเก็งกำไรระยะยาวหรือเพื่อปล่อยเช่า

5.2 สินทรัพย์ดิจิทัล

อาทิ NFT (Non-Fungible Token) หมายถึง โทเคนดิจิทัลที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ แต่ละ NFT มีลักษณะเฉพาะตัวและไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือเปลี่ยนเป็นโทเคนอื่นได้ เช่นผลงานศิลปะ ดิจิทัลอาร์ต ซึ่ง NFT มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมูลค่าของ NFT ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความนิยมของสินทรัพย์ดิจิทัล กระแสความนิยม และความผันผวนของตลาด

ทั้งหมดนี้คือ 5 วิธีการลงทุนระยะยาว สำหรับคนที่มีงบน้อย หรือเพิ่งเริ่มลงทุน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการลงทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี และสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลงทุนอะไรดี ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ขอแนะนำตัวเลือกในการลงทุน ที่มีโอกาสผลตอบแทนที่ให้ผลตอบแทนสูง อาทิ กองทุนรวม ที่มีสินทรัพย์ลงทุนหลากหลาย ทั้งตราสารหนี้ หุ้น สินทรัพย์ทางเลือก ทั้งในและต่างประเทศ กองทุนที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้แก่ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) หรือจะเป็นการลงทุน หุ้นกู้ตลาดแรก รับรายได้ที่แน่นอนจากดอกเบี้ยหุ้นกู้ เป็นต้น ดูรายละเอียดการลงทุนเพิ่มเติม คลิกที่นี่ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ CIMB Care Center โทร 02-626-7777

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน