5 เทคนิคการออมเงิน สร้างความมั่งคั่งในแบบคุณ

     การออมเงิน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่งคั่ง และใคร ๆ ก็ทำได้ ซึ่งแต่ละคนต่างมีเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป บางคนเก็บเงินไว้เพื่อเก็บไว้ใช้ตอนเกษียณ หรือจะเป็น เก็บเงินไว้เพื่อนำไปลงทุน แต่สำหรับบางคนที่จัดอยู่ในประเภท เดือนชนเดือน เงินที่ได้ไม่มีเหลือเก็บ แต่อยากจะวางเป้าหมายใหม่ เงินเดือนที่ได้ต้องมีเก็บไว้ใช้ไม่ว่าจะเป็นเพื่ออนาคต หรือเก็บไว้ยามฉุกเฉิน แล้วเราจะออมเงินแบบไหนดี วันนี้เราจะมาแนะนำรูปแบบการออมเงิน 5 ประเภท ที่จะมาสร้างความมั่งคั่งในแบบคุณเองก็ทำได้

1.จัดการรายจ่ายในแต่ละเดือน

     แน่นอนว่าหลังจากที่เราได้รายรับที่หมายถึง เงินเดือน หรือรายรับอื่น ๆ จะเป็นจากการ Passive Income หรือการรับงานจ็อบต่าง ๆ การตั้งงบประมาณที่จะแบ่งไปชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่างวดต่าง ๆ ค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน บางคนอาจจะมีงบใช้จ่ายเพื่อความสุขส่วนตัว ซื้อเสื้อผ้า ชอปปิง ด้วย ซึ่งการจัดการค่าใช้จ่ายนี้แหละ จะทำให้เราประมาณการได้ว่าในแต่ละเดือนจะต้องจ่ายเท่าไหร่ และจะแบ่งเงินเพื่อใช้ในการออมอีกเท่าไหร่ อีกหนึ่งวิธีในการจัดการรายจ่ายต่าง ๆ นั่นก็คือการตั้งหักบัญชีอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้เราชำระเงินได้อย่างถูกต้องและตรงเวลา และไม่ถูกปรับค่าธรรมเนียมกรณีจ่ายเงินล่าช้าอีกด้วย

2.เก็บก่อนใช้ 10% จากรายได้

     เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการออมเงินที่เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างมาก เพราะหลังจากที่เงินเดือนเข้าแล้ว เราควรหักเงินสำหรับออมสัก 10% หรือจะปรับลดหรือเพิ่มตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคนกันเลย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราหักเงินสำหรับออมแบบเท่ากันทุกเดือน 3,000 บาท ครบปีก็จะได้ 36,000 บาท เป็นต้น แต่อย่างที่บอก คุณสามารถปรับลดได้ อาจจะเปิดบัญชีแยกต่างหากไว้สำหรับเก็บเงินโดยเฉพาะไปเลยก็ได้นะ ซึ่งธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ก็มีผลิตภัณฑ์เงินฝากให้เลือกมากมาย เช่น บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ชิลดี ซีไอเอ็มบี ไทย, บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สปีดดี พลัส ซีไอเอ็มบี ไทย หรือผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากออมทรัพย์อื่นๆ เป็นต้น

3.เปิดบัญชีเงินฝากประจำ

     ใครที่มีรายได้ประจำ แต่ปัญหาคือเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ การเปิดบัญชีเงินฝากประจำ เป็นอีกหนึ่งวิธีออมเงินที่ดี ซึ่งการฝากประจำคือการนำเงินไปฝากในจำนวนที่เท่ากันทุกเดือน โดยขั้นต่ำของการฝากเงินประเภทนี้จะอยู่ที่ 1,000 บาท เลือกระยะเวลาฝากได้ตามความคล่องตัวในการใช้เงินเริ่มต้นที่ 3 เดือน ไปจนถึง 36 เดือน ได้ทั้งเงินก้อน แถมมีของแถมเป็นดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากธรรมดา มีแต่ได้กับได้ และยังช่วยสร้างวินัยในการออมอีกด้วย 

4. ตั้งกติกาการออมเงิน ด้วยหลากหลายวิธีสนุก ๆ

     Challenge กันหน่อย ด้วยหลากหลายกติกาการออมเงิน ด้วยหลากหลายวิธี เริ่มด้วยการนำเหรียญที่อยู่ในกระเป๋ามาหยอดกระปุกออมสิน วิธีสุดคลาสสิก ที่ยังนิยมใช้กันอยู่ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีกระปุกหลากหลายประเภท ทั้งแบบเปิดยาก ต้องใช้ค้อนทุบเท่านั้น ปีนึงทุบที ได้เงินเก็บมากมายไม่น้อย หรืออาจจะไฮเทคขึ้นมาหน่อย นั่นก็คือการหยอดเหรียญด้วยกระปุกอัจฉริยะ ที่จะโชว์ยอดว่าหยอดไปเท่าไหร่ ในออนไลน์ฮิตมาก ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการเก็บเงิน 

     บางคนอาจจะไม่ค่อยชอบเก็บเงินแบบเหรียญ ลองเก็บเงินด้วยแบงก์ 20 หรือแบงก์ 50 กันดูไหม? บางคนก็เก็บแบงก์ 100 อันนี้คือตามกำลังของแต่ละคนเลยนะ เก็บสะสมทุกวันแบบไม่มีการมานับจนครบปีแล้วมาเปิดดู เก็บเรื่อย ๆ เพลิน ๆ ก็ได้เงินร่วมหมื่นเลยทีเดียว

     แต่ถ้าวิธีดังกล่าวยังไม่เร้าใจ ลองเก็บเงินแบบวางเป้าหมายดู ยกตัวอย่าง ถ้าเราอยากเก็บเงิน 3,000 บาท ใน 60 วัน ก็อาจจะกำหนดตารางมาเลยว่า เราจะเก็บเงินอย่างไรตลอด 60 วัน อาจจะตั้งแบบเท่ากันทุกวัน หรือเริ่มจากน้อยไปมาก มากไปน้อย ตามความชอบได้เลย แต่วิธีนี้เตือนไว้นิดนึง ถ้าขี้เกียจปุ๊บ แพลนพังเลยนะ เพราะฉะนั้นกำหนดเป้าหมายแล้ว ต้องทำให้ได้ สู้ๆนะ 

5.ออมเงินด้วยการซื้อกองทุน

     ฝากเงินได้ดอกเบี้ย แต่ถ้าอยากได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น แนะนำให้ซื้อกองทุนรวม ไม่ว่าจะเป็น ตราสารหนี้ หุ้น สินทรัพย์ทางเลือก หรือจะเป็นกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) ฯลฯ ซึ่งเราสามารถกระจายความเสี่ยงได้จากการเลือกกองทุนจากผลประกอบการ หรือลักษณะการลงทุนของกองทุนนั้น ๆ โดยผลตอบแทนก็จะมากน้อย แล้วแต่จำนวนเงินที่เราทำการลงทุน

     สรุปได้ว่า วิธีออมเงินที่เราแนะนำมาทั้งหมดนี้ จะไม่ได้ผลเลยหากไม่ได้ลงมือทำ และถ้าจะให้การออมเงินของคุณมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ก็คือการออมเงินที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่หักโหมเกินไป และอันนี้สำคัญมากคือการมีวินัยต่อตนเอง แล้วเราควรออมเงินแบบไหนดี ? จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นการนำเงินไปฝากในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง นำเงินไปลงทุน หรือเก็บเงินง่าย ๆ จากแบงก์ ได้หมด เนื่องจากการออมเงินคือหนึ่งในวิธีการจัดการเงินที่สำคัญที่จะสร้างความมั่นคง และมั่งคั่งของเราในอนาคต นั่นเอง 

     และนี่คือหลากหลายวิธีการออมเงินที่เราขอแนะนำ ท้ายที่สุดไม่ว่าจะออมเงินด้วยวิธีไหนก็ตาม การบรรลุถึงเป้าหมายในการออมเงินที่ไม่ควรมองข้ามคือ การมีวินัยต่อตัวเอง ไม่ตั้งเป้าหมายที่ดูหักโหมมากจนเกินไป เท่านี้คุณเองก็จะประสบความสำเร็จในการออมเงินได้แล้ว