กองทุน กับ หุ้น ต่างกันอย่างไร
หลายคนมักจะสับสนระหว่างการลงทุนใน หุ้น กับ กองทุน แม้ทั้งสองอย่างนี้เป็นรูปแบบการลงทุนยอดนิยมแต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งในแง่ของลักษณะการลงทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทน มาดูกันว่าต่างกันอย่างไรบ้าง
1. ลักษณะการลงทุน
หุ้น : เปรียบเสมือนเราเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นเจ้าของบริษัท เมื่อเราซื้อหุ้น เราจะถือว่าเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัทนั้น ๆ และมีสิทธิ์รับผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัท
กองทุน : คือเงินที่รวบรวมมาจากนักลงทุนหลายๆ คน เพื่อนำไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้จัดการกองทุนคอยบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้
2. ความเสี่ยง
หุ้น : มีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุน เนื่องจากผลตอบแทนของหุ้นขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทนั้นๆ หากบริษัทขาดทุน ราคาหุ้นก็จะลดลงตามไปด้วย
กองทุน : ความเสี่ยงจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของกองทุน เช่น กองทุนหุ้น กองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสม โดยทั่วไปแล้ว กองทุนจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นตัวเดียว
3. การบริหารจัดการ
หุ้น: นักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นต้องติดตามสภาพตลาด การปรับเปลี่ยนแนวโน้มทางเศรษฐกิจ และผลประกอบการของบริษัทที่ตนเองลงทุน หากนักลงทุนไม่ศึกษาข้อมูลหรือติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลให้การลงทุนไม่ประสบผลสำเร็จ
กองทุนรวม : กองทุนมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยบริหารจัดการเงินทุนให้ ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการตัดสินใจและการติดตามข้อมูล ทำให้นักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชิงลึกในตลาดการเงิน
4. ผลตอบแทน
หุ้น : ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นอาจสูงมากหากบริษัทมีผลประกอบการที่ดี ราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นทำให้นักลงทุนสามารถขายหุ้นได้ในราคาที่สูงกว่าที่ซื้อ นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังอาจได้รับเงินปันผลเป็นรายได้เพิ่มเติม
กองทุนรวม : ผลตอบแทนจากกองทุนรวมจะขึ้นอยู่กับการบริหารของผู้จัดการกองทุน และผลตอบแทนอาจไม่สูงเท่ากับการลงทุนในหุ้นรายตัว เนื่องจากกองทุนมีการกระจายความเสี่ยงไปยังหลายสินทรัพย์ แต่ก็มีโอกาสที่ได้รับผลตอบแทนที่เสถียรและมีความสม่ำเสมอมากกว่า
5. เงินทุนเริ่มต้น
หุ้น : การลงทุนในหุ้นสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินทุนที่ขั้นต่ำ ขึ้นอยู่กับราคาหุ้นที่นักลงทุนสนใจ แต่การลงทุนในหุ้นรายตัวอาจมีความเสี่ยงสูงหากไม่กระจายการลงทุนไปในหลายบริษัท
กองทุนรวม: กองทุนรวมมักจะมีขั้นต่ำในการลงทุนที่หลากหลาย ซึ่งช่วยให้การเริ่มต้นลงทุนเป็นไปได้ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น
จะเห็นได้ว่า การลงทุนในหุ้น เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงและพร้อมรับความเสี่ยง ในขณะที่กองทุนรวม จะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง มีเวลาหรือต้นทุนไม่มาก และไม่ต้องการติดตามการลงทุนอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับนักลงทุนแล้วล่ะ ว่าต้องการลงทุนในรูปแบบใด
หุ้นปันผล กับ หุ้นไม่ปันผล แตกต่างกันอย่างไร
ในโลกของการลงทุน "หุ้น" เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยม และสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุน หุ้นมีหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือ หุ้นปันผล และ หุ้นไม่ปันผล ซึ่งมีความแตกต่างกันในแง่ของการจ่ายผลตอบแทนและกลยุทธ์การบริหารเงินของบริษัท สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาแนวทางการลงทุน เรามาทำความรู้จัก หุ้นปันผลคืออะไร แตกต่างจาก หุ้นไม่ปันผล อย่างไร
หุ้นปันผลคืออะไร?
หุ้นปันผล เป็นหุ้นของบริษัทที่มีนโยบายแบ่งผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้นในรูปแบบของเงินปันผล โดยบริษัทจะจ่ายเงินปันผลออกมาในรอบระยะเวลาที่กำหนด เช่น ทุกไตรมาส หรือทุกปี ขึ้นอยู่กับผลประกอบการและนโยบายของบริษัท การถือหุ้นปันผลจะมีข้อดีตรงที่ผู้ถือหุ้นสามารถรับรายได้อย่างสม่ำเสมอจากเงินปันผล
หุ้นที่ไม่ปันผลคืออะไร?
หุ้นที่ไม่ปันผล คือหุ้นของบริษัทที่ไม่มีนโยบายจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น แต่จะเน้นไปที่การเก็บกำไร หรือเงินสดเอาไว้ไปลงทุนต่อเพื่อขยายธุรกิจมากกว่าที่จะแบ่งผลกำไรออกมาให้กับผู้ถือหุ้น
ความแตกต่างระหว่างหุ้นปันผลกับหุ้นที่ไม่ปันผล