หลายคนอาจสงสัยว่ารายการลดหย่อนภาษี 2568 มีอะไรบ้าง เพื่อวางแผนภาษีปี 2568 อย่างมีประสิทธิภาพ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้รวบรวมรายการค่าลดหย่อนที่ทุกคนควรรู้ไว้ที่นี่แล้ว เพื่อให้สามารถเลือกใช้สิทธิลดหย่อนได้อย่างเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว
รายการลดหย่อนภาษีกลุ่มนี้เป็นค่าลดหย่อนพื้นฐานที่ทุกคนสามารถใช้ได้ เพื่อให้การยื่นภาษีง่ายและไม่พลาดสิทธิ์ที่ควรจะได้
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว ทุกคนที่มีรายได้และยื่นภาษี มีสิทธิ์ลดหย่อนส่วนบุคคลได้ 60,000 บาท โดยอัตโนมัติ สิทธิ์นี้ถือเป็นพื้นฐานที่ช่วยลดจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษีได้ทันที
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส ลดหย่อนได้อีก 60,000 บาท หากคู่สมรสไม่มีรายได้ โดยสิทธิ์ลดหย่อนนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเป็นคู่สมรสที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
- ค่าลดหย่อนบุตร สำหรับผู้มีบุตร และสงสัยว่ามีบุตรลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่นั้น มีรายละเอียดดังนี้
- บุตรคนแรกและคนที่สองขึ้นไป : ลดหย่อนได้ 30,000 บาทต่อคน
- บุตรคนที่สองและต่อ ๆ ไป : ลดหย่อนได้เพิ่มอีก 60,000 บาทต่อคน และหากสงสัยว่าบุตรลดหย่อนภาษีได้ถึงอายุเท่าไร คำตอบคือบุตรต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี และยังไม่ได้สมรส
- ในส่วนของค่าเทอมลดหย่อนภาษีได้ไหม คำตอบคือไม่สามารถใช้ลดหย่อนได้
- ค่าลดหย่อนสำหรับเลี้ยงดูบิดามารดา สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้ 30,000 บาทต่อคน สำหรับบิดามารดาของตนเองหรือของคู่สมรส โดยมีเงื่อนไขคือ บิดามารดาต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท และผู้ยื่นภาษีต้องเป็นผู้ดูแลบิดามารดาอย่างแท้จริง
- ค่าลดหย่อนสำหรับผู้พิการ หรือทุพพลภาพในครอบครัว หากกำลังดูแลบุคคลที่พิการหรือทุพพลภาพในครอบครัว เช่น บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตร สามารถลดหย่อนได้ 60,000 บาทต่อคน โดยมีเงื่อนไขว่าบุคคลนั้นต้องมีบัตรประจำตัวคนพิการ หรือเอกสารรับรองความพิการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และต้องเป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดูแลบุคคลนั้น
- ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร สามารถนำค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรมาลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 60,000 บาทต่อการตั้งครรภ์และคลอดบุตรแต่ละครั้ง
ซึ่งถ้าหากสนใจวางแผนทางการเงินเพิ่มเติมในส่วนของเงินออมระยะยาว สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินฝากประจํา คืออะไร และ DCA คืออะไรได้เลย
ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน
กลุ่มค่าลดหย่อนนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากนอกจากจะช่วยลดภาระภาษีแล้ว ยังเป็นการสร้างวินัยทางการเงินและสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับตัวเองอีกด้วย การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีจึงเปรียบเสมือนการลงทุนในอนาคตไปพร้อมกับการประหยัดภาษี กองทุนลดหย่อนภาษีปี 2568 มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
- เบี้ยประกันชีวิต และเงินฝากแบบมีประกันชีวิต สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตที่จ่ายจริงมาลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท
- เบี้ยประกันสุขภาพ และประกันสุขภาพบิดามารดา เบี้ยประกันสุขภาพสำหรับตนเอง สามารถลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท เบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดา สามารถลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท หากกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกประกันสุขภาพที่ไหนดี ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นประกันแบบ Co-Payment จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนได้
- ลดหย่อนภาษี 2568 กองทุน (RMF/SSF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณวางแผนเกษียณและลดภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา[a]ได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน นอกจากนี้ หากต้องการศึกษาเรื่องการลงทุนกองทุนในภาพรวม สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับ Thai ESG คือกองทุนรวมที่ลงทุนในบริษัทซึ่งมีความโดดเด่นด้านความยั่งยืนได้
- เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ/กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน สามารถนำเงินสะสมเหล่านี้มาลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง
- เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุน RMF/SSF และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
หากสนใจการลงทุนอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้พอร์ตการลงทุน อย่าลืมศึกษาเกี่ยวกับหุ้นกู้ คืออะไร หรือหุ้นต่างประเทศที่น่าสนใจ
ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค
การบริจาคถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่นอกจากจะช่วยสังคมแล้ว ยังช่วยให้สามารถใช้ลดหย่อนได้อีกด้วย
- ลดหย่อนภาษี 2568 บริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา กีฬา และสาธารณประโยชน์ สามารถลดหย่อนภาษี 2568 ได้ถึง 2 เท่าของยอดบริจาคจริงได้ แต่ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน
- ลดหย่อนภาษีด้วยเงินบริจาคทั่วไป เงินบริจาคที่ไม่เข้าข่ายกลุ่มด้านบน สามารถลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน
- เงินบริจาคพรรคการเมือง สามารถนำเงินบริจาคพรรคการเมืองมาลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท
ค่าลดหย่อนกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
รัฐบาลมักจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเป็นระยะ ๆ และมาตรการเหล่านี้ก็สามารถนำมาใช้ลดหย่อนได้เช่นกัน ซื้ออะไรลดหย่อนภาษีได้บ้าง ไปดูกันเลย
- โครงการ Easy e-Receipt เป็นมาตรการล่าสุดจากภาครัฐที่ให้สามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการมาลดหย่อนได้
- ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัย สามารถนำดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัยมาลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 90,000 บาท
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ E-Receipt คืออะไร และ e-Receipt 2568 คํานวณภาษีอย่างไร
วิธีคำนวณภาษีและค่าลดหย่อนภาษี 2568
การคำนวณภาษีไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด มาดูกันทีละขั้นตอนว่าทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้เข้าใจและคำนวณเงินภาษีที่ต้องจ่ายได้เอง
ขั้นตอนที่ 1 : คำนวณรายได้สุทธิ
ก่อนอื่นต้องคำนวณรายได้สุทธิก่อน โดยใช้สูตรดังนี้
รายได้สุทธิ = (รายได้รวมทั้งปี - ค่าใช้จ่าย) - ค่าลดหย่อนทั้งหมด
- รายได้รวมทั้งปี : เงินเดือน โบนัส ค่าคอมมิชชั่น ฯลฯ
- ค่าใช้จ่าย : สามารถหักได้ 50% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
- ค่าลดหย่อนทั้งหมด : คือ รายการสิ่งที่ลดหย่อนภาษีได้ที่อธิบายไปข้างต้น
ขั้นตอนที่ 2 : คำนวณภาษีที่ต้องจ่าย
เมื่อได้รายได้สุทธิแล้ว ให้นำไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบขั้นบันได ซึ่งอัปเดตปี 2568 มีรายละเอียดดังนี้
ตารางอัตราภาษีบุคคลธรรมดาคิดตามขั้นบันได อัปเดตปี 2568