Search
Back
เกี่ยวกับเรา  
รางวัล  
ข่าวและกิจกรรม  
บริการโอนเงินระหว่างประเทศ  
โปรโมชั่นล่าสุด  
CIMB THAI App  
CIMB THAI Connect  
บริการแจ้งเตือนผ่าน SMS  
พร้อมเพย์  
บริการเปิดบัญชีด้วยการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID)  
การขอและรับส่งข้อมูลรายการเคลื่อนไหวบัญชีเงินฝาก ในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลระหว่างธนาคาร (dStatement)  
บริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID) เพื่อทำธรุกรรมออนไลน์กับกรมสรรพากร  
ติดต่อเรา  
สาขาธนาคาร  
ข้อมูลคุณภาพการให้บริการ  
คำมั่นสัญญาการให้บริการลูกค้าธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย  
อัตราและค่าธรรมเนียม  
Form Download Center  
You're viewing:
ลูกค้าบุคคล
Other Sites
เกี่ยวกับเรา
การกำกับดูแล
ทีมผู้บริหาร
นักลงทุนสัมพันธ์
ความยั่งยืน
ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
เงินฝาก
บัตร
ประกัน
สินเชื่อ
การบริหารความมั่งคั่ง
การลงทุน
TH

 

     วันนี้ CIMB Thai ฺBank จะมาลงลึกเกี่ยวกับธุรกิจ E-Commerce ให้คุณได้เข้าใจกันไปอีกขั้น ธุรกิจนี้ทำไมส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกในไทยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แนวทางของธุรกิจแนวนี้เป็นอย่างไร เริ่มจากตรงไหน และมาดูสิว่า E-Commerce ในไทยที่ประสบความสำเร็จมีเคล็ดลับยังไงบ้าง!

 

 

E-Commerce คืออะไรกันนะ?

     อีคอมเมิร์ซ คือธุรกิจที่ทำบนโลกออนไลน์ คือซื้อ-ขายผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ตอนนี้มีออกมาเยอะแยะมากมายให้คุณเลือกซื้อแทบไม่ไหว การแข่งขันของ ธุรกิจแบบ E-Commerce ก็สูงลิบ แพลตฟอร์มต่าง ๆ พากันหากลยุทธ์มาสู้คู่แข่งแบบดุเดือด 

 

     สินค้าและบริการที่ขายบน “E-Commerce” ก็มีตั้งแต่สินค้าปัจจัย 4 ที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ไปถึงการบริการในด้านต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นการค้าขายที่ไร้ขีดจำกัดจริง ๆ ยิ่งในยุคที่อินเทอร์เน็ตมีครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว ก็ส่งผลทำให้ธุรกิจประเภทนี้เติบโตไวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยหรือตลาดการจำหน่ายสินค้าและบริการทั่วโลก

 

 

ประเภทของ E-Commerce มีอะไรบ้าง

     ต่อมาเราก็จะมาดูกันสิว่าประเภทของ  E-Commerce กันว่ามีธุรกิจประเภทไหนบ้าง จัดตามกลุ่มใหญ่ ๆ ให้เห็นภาพง่าย ๆ ประเภท  E-Commerce ที่พูดถึงมีอยู่ 6 ประเภท ด้วยกัน

  1. B2C (Business to Customer)  คือการทำธุรกิจซื้อขายระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภคโดยตรง เช่นการขายสินค้า เสื้อผ้า อาหาร เป็นธุรกิจ E-Commerce ทั่วไปที่เราพบเจอมากที่สุด
  2. B2B (Business to Business) คือการทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างผู้ประกอบการและผู้ประกอบการ เช่น การส่งของจากโรงงานเพื่อไปยังห้างสรรพสินค้า
  3. B2G (Business to Government) คือการทำธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการและภาครัฐ จัดซื้อ จัดจ้าง สินค้าและบริการเพื่อใช้ในหน่วยงาน
  4. C2C (Customer to Customer) คือการทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างผู้บริโภคและผู้บริโภคด้วยกัน เช่นการส่งต่อสินค้ามือ 2 ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมกันมาก
  5. G2C (Government to Customer)  คือการทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างภาครัฐและประชาชน เช่น การดำเนินเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับภาษี การแจ้งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นต้น
  6. G2G (Government to Government) คือการทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างภาครัฐและภาครัฐ อันนี้ค่อนข้างไกลตัว เพราะเป็นการทำธุรกิจของหน่วยงานตรงถึงกันโดยผ่านช่องอินเทอร์เน็ต

 

 

รู้ไว้ไม่เสียหายข้อดี ข้อเสีย ของ E-Commerce

     แน่นอนว่าทุกวิธีการในโลกย่อมมี 2 ด้าน คือด้านดีและด้านไม่ดี ธุรกิจ E-Commerce ก็เช่นเดียวกัน วันนี้เราก็เลยเอามาบอกต่อกันอีกสักที เพื่อให้ทั้งผู้ประกอบการและลูกค้าจะได้รู้เท่าทันว่าดีอย่างไร เสียอย่างไร จะได้นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ถูกต้อง

 

ข้อดีธุรกิจ  E-Commerce

     มาดูกันก่อน ว่าธุรกิจแบบ  E-Commerce มีข้อดียังไงบ้าง ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ดันในธุรกิจรูปแบบนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว นักลงทุนทั้งธุรกิจขนาดใหญ่หรือการค้าปลีกก็สนใจ ข้อดีที่เราพูดถึงกันอยู่นี้ คือ

 

สะดวกเพียงมีอินเทอร์เน็ต

     อย่างแรกของธุรกิจ E-Commerce คือความสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อการติดต่อ หรือการชำระเงิน แล้วยิ่งสะดวกสบายมากเท่าไหร่ การค้าขายก็จะมีโอกาสสำเร็จตามเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องเดินทางออกไปซื้อ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถซื้อขายได้แล้ว

 

 

ความหลากหลายของสินค้าและบริการ

     ธุรกิจ E-Commerce มีสินค้าและบริการที่หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกซื้อเลือกใช้บริการได้แบบไม่จำกัด ดีกว่าร้านค้าออฟไลน์ที่บางครั้งสินค้าไม่หลากหลายเท่า นี่ก็เป็นอีกข้อดีที่ธุรกิจ E-Commerce มี

 

ง่ายมากสำหรับการเปรียบเทียบราคา

     เมื่อต้องการซื้อของผ่านช่องทางโลกออนไลน์ สิ่งที่คุณจะได้อีกอย่างคือ การเปรียบเทียบราคา เพราะทุกร้านค้าที่ขายสินค้าและบริการแบบ E-Commerce จะสามารถเข้าไปดูราคาแล้วเปรียบเทียบกันได้ทันที นี่ยังไม่นับโปรโมชันต่าง ๆ ที่แต่ละร้านจัดขึ้นเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าสนใจในธุรกิจมากขึ้น ไม่ต้องเดินดูทุกร้านค้าเพื่อเปรียบเทียบราคาก่อนซื้ออีกต่อไป

 

 

ลงทุนน้อย เติบโตง่าย

     ธุรกิจ E-Commerce มีต้นทุนในการเปิดร้านน้อยมาก บางร้านไม่เสียเงินเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่มีสินค้าหรือบริการที่ต้องการจะขาย โพสต์ลงโลกออนไลน์ ตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้แล้ว และยังมีการเติบโตง่าย หากมีการวางแผนการตลาดอย่างรอบคอบรับรองว่าร้านต้องขยายออเดอร์มากขึ้นได้อย่างแน่นอน

 

ช่องทางการค้าขายหลากหลาย

     การขายสินค้าออนไลน์มีช่องทางการกระจายสินค้าเยอะมากกว่าออฟไลน์ ร้านค้าไม่จำเป็นต้องวิ่งส่งของเองทุกที่ แล้วยังสามารถรับโปรโมชันจากแพลตฟอร์มที่ไปเปิดร้านได้อีก กิจกรรมต่าง ๆ ที่ตลาด E-Commerce นั้นจัดให้จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มาก เป็นการทำการตลาดที่ไม่ต้องลงทุนเลยด้วยซ้ำไป

 

ข้อเสียธุรกิจ  E-Commerce ที่คุณต้องยอมรับ

     ธุรกิจ E-Commerce ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง ซึ่งแต่ละข้อร้านค้าต่าง ๆ ก็จะมีวิธีแก้ไขแตกต่างกันไป ซึ่งถ้าหากต้องการทำธุรกิจแบบออนไลน์แล้ว ต้องรับข้อเสียเหล่านี้ให้ได้ 

 

 

ลูกค้าไม่ได้สัมผัสสินค้าโดยตรง

     ด้วยธุรกิจ E-Commerce เป็นธุรกิจออนไลน์ที่ผ่านอินเทอร์เน็ต ลูกค้าจะเข้าถึงสินค้าได้จากการดูรูปภาพ วิดีโอและรับข้อมูลที่ผู้ขายใส่ไว้เท่านั้น สำหรับสินค้าบางอย่างที่ลูกค้าจำเป็นต้องสัมผัสจริงก่อนที่จะซื้อ ทางร้านต้องใส่ข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อช่วยให้การตัดสินใจของลูกค้าไวขึ้น สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ามั่นใจและกดสั่งซื้อเข้ามา

 

การบริการลูกค้าค่อนข้างจำกัด

     เมื่อมีลูกค้าติดต่อเข้ามาการปิดการขายก็จะเริ่มทำงานทันที แต่ด้วยเป็นการค้าขายออนไลน์ การบริการลูกค้าจึงจำกัด ไม่เหมือนกับร้านค้าทั่วไปที่สามารถแนะนำลูกค้าอย่างใกล้ชิด ดังนั้นการอาศัยเทคนิคในการโน้มน้าวใจเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ให้มาก ยิ่งเป็นการบริการออนไลน์ผ่านแชตยิ่งต้องมีวิธีการที่จะสามารถปิดการขายให้สำเร็จ

 

 

ข้อจำกัดของบางแพลตฟอร์ม

     การค้าขายในโลกออนไลน์ถึงจะสะดวก ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก แต่จำเป็นมากที่ร้านค้าต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานของแพลตฟอร์มที่จะลงขายของ เรียนรู้เครื่องมือออนไลน์ต่าง ๆ ว่าทำงานอย่างไร อะไรที่จะช่วยให้ยอดขายพุ่งทะลุฟ้าได้ บางแพลตฟอร์มมีการปิดกั้นไม่ให้สินค้ามีคนพบเห็น แต่ก็จะมีวิธีการแก้ไข นักธุรกิจ E-Commerce จึงจำเป็นต้องเรียนรู้ให้มาก

 

เสี่ยงต่อการฉ้อโกง

     แน่นอนว่าการซื้อขายสินค้าและบนร้านค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหรือการขายมีโอกาสที่จะโดนฉ้อโกง หากต้องการซื้อสินค้าควรเลือกแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ ร้านค้าที่สามารถตรวจสอบได้ เพื่อลดโอกาสในการถูกโกง ส่วนร้านค้าก็ต้องมีมาตรการในการป้องกันเช่นเดียวกัน

 

 

E-Commerce เจ้าดังในไทย

     สำหรับธุรกิจ E-Commerce ในไทยนั้นที่เราเห็นกันเยอะมาก ๆ จะเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถซื้อขายสินค้าได้ บางแอปมีเว็บไซต์รองรับเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าชมได้ทั้งในคอมพิวเตอร์และสมาร์ตโฟน ธุรกิจ E-Commerce ใน ไทยที่เราคุ้นดี เช่น Shopee และ Lazada แอปพลิเคชันที่ใช้ซื้อขายสินค้าออนไลน์มีชื่อติดลมบนเป็นที่เรียบร้อย ด้วยนโยบายเชิงรุกเต็มที่ การทำการตลาดของ Shopee มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด เพิ่มยอดขายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นทุกปี การทำโฆษณาลงทุนกับสื่อต่าง ๆ ทุกช่องทาง

 

     ธุรกิจ E-Commerce คือธุรกิจซื้อขายออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ เรียกได้เติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยข้อดีที่ปฏิเสธไม่ได้ ความสะดวกสบายของการจับจ่ายใช้สอยมีส่วนผลักดันให้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นในไทยหรือต่างประเทศ 

 

 

ลูกค้าธุรกิจ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

 

Ref.

Blog.cariber.co

Fillgoods.co


คุณอาจสนใจ