คุณอยู่ที่

  • บทความ
  • ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
  • ช่องทางบริการธนาคาร
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการช่วยเหลือ
  • ลิงก์ด่วน
ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
เกี่ยวกับเรา
Financial Guru
Business Maker
Lifestyle Tips
ลงทุน
บริการโอนเงินระหว่างประเทศ
CIMB THAI App
ข่าวและกิจกรรม

 

ปัจจุบัน การเงิน การลงทุน ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เราสามารถเข้าถึงซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน หรือที่หลายคนเรียกว่า "การเทรด" ได้สะดวกมากขึ้นผ่านสมาร์ตโฟนเพียงเครื่องเดียว แต่สำหรับใครก็ตามที่เริ่มเทรดครั้งแรก วันนี้ว่ากันด้วยเรื่องของการเทรดคืออะไร แตกต่างจากการลงทุนอย่างไร แล้วเราจะเริ่มต้นเทรดได้อย่างไร

 

การเทรดคืออะไร?

การเทรด (Trading) คือ กระบวนการซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงิน โดยมีเป้าหมายหลักคือการทำกำไรจากความผันผวนของราคาที่เกิดขึ้นในตลาด การเทรดสามารถเกิดขึ้นได้ในตลาดการเงินต่าง ๆ ทั่วโลก โดยนักลงทุนสามารถทำการซื้อขายได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และเป้าหมายการลงทุนของแต่ละบุคคล

 

ทำไมต้องเทรด?

การเทรด ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างรวดเร็วและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นจากการเก็งกำไรในระยะสั้น หรือจากการเพิ่มมูลค่าในระยะยาว การเทรดมีข้อดีหลายประการ เช่น ความยืดหยุ่นในการลงทุน เพราะนักเทรดสามารถเลือกเวลาทำการซื้อขายได้ตามที่ต้องการ อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงตลาดการเงินทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทันสมัย นอกจากนี้ การเทรดยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งในขาขึ้นและขาลงของตลาด ทำให้เป็นวิธีการลงทุนที่มีความน่าสนใจมาก

 

ประเภทของสินทรัพย์ในการเทรดมีอะไรบ้าง

สำหรับสินทรัพย์ที่ใช้ในการเทรดมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะตัวและเหมาะสมกับกลยุทธ์การเทรดที่แตกต่างกันไป อาทิ

 

1. การเทรดหุ้น (Stock Trading)

การเทรดหุ้น ได้รับความนิยมอย่างมาก หากบริษัททำกำไรดี ราคาหุ้นก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น ราคาหุ้นจะขึ้นลงตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ผลประกอบการของบริษัท ข่าวสารเกี่ยวกับอุตสาหกรรม และความเชื่อมั่นของนักลงทุน 

 

 

2. การเทรดเงินตราต่างประเทศ (Forex Trading)

การเทรด forex คืออะไร? คือการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศ เช่น EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ) เป็นตัวอย่างที่นิยมในการเทรด ฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความผันผวนสูงและมีการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้นักเทรดมีโอกาสทำกำไรได้ตลอดเวลา

 

3. กองทุนรวม (Mutual Funds)

กองทุนรวมเป็นการรวมเงินจากนักลงทุนหลาย ๆ คนเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ การเทรดกองทุนรวมเป็นการซื้อขายหน่วยลงทุน ซึ่งจะมีมูลค่าขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของสินทรัพย์ที่กองทุนลงทุนนั้น ๆ

 

4. การเทรดทองคำ (Gold Trading)

เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนรุ่นใหม่ ซึ่งการเทรดทองคำ เป็นการซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้ได้กำไรจากการเทรดแต่ละครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคาทองคำในแต่ละช่วงเวลาด้วยนะ การเทรดทองคำ จะมีความแตกต่างจากการลงทุนทองคำ หรือที่หลายคนเรียกว่า "ออมทอง" ก็คือ การเทรดทองเน้นการซื้อมาขายไป เก็งกำไรส่วนต่างระหว่างวัน ไม่ต้องไปที่หน้าร้าน เทรดผ่านแอปพลิเคชัน ต่างจากการออมทองคือ เน้นลงทุนระยะยาว หากอนาคตราคาทองคำขึ้นค่อยเอาไปขาย

 

การเทรดมีสินทรัพย์ให้เลือกหลากหลาย การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสินทรัพย์แต่ละประเภทจะช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

 

 

การเทรดแตกต่างจากการลงทุนอย่างไร?

แม้ว่าการเทรดและการลงทุน มีเป้าหมายเดียวกันก็คือ "การทำกำไร" แต่ทั้งสองอย่างมีความแตกต่างอย่างชัดเจน ดังนี้

  • การเทรด มักจะเกี่ยวข้องกับการซื้อขายในระยะสั้น โดยนักเทรดจะมุ่งเน้นที่การทำกำไรจากความผันผวนของราคาในตลาด การเทรดต้องใช้เวลามากในการวิเคราะห์และติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว

  • การลงทุน มักเป็นการซื้อสินทรัพย์เพื่อถือครองในระยะยาว โดยคาดหวังว่ามูลค่าของสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา การลงทุนเน้นที่ความมั่นคงและการเจริญเติบโตในระยะยาว มากกว่าการทำกำไรในระยะสั้น

 

เราจะเริ่มต้นเทรดได้อย่างไร

หลังจากที่เราได้ทราบถึงการเทรดคืออะไร รวมไปถึงสินทรัพย์ที่ใช้ในการเทรดแล้ว หลายคนอาจคิดว่า การเทรดเหมือนจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ แค่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

 

1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเทรด

เราสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับการเทรด ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ บทความทางอินเทอร์เน็ต คลิปวิดีโอหรือเข้าร่วมคอร์สเรียนเกี่ยวกับการเทรด เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

2. เลือกแพลตฟอร์มการเทรด

ไม่ว่าจะเป็นการเทรดหุ้น การแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ เทรดทอง ฯลฯ ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มการเทรดออนไลน์หลายแห่งให้เลือก คุณควรเลือกแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ และมีเครื่องมือในการเทรดที่คุณต้องการ

 

3. เปิดบัญชีเทรด 

เมื่อเลือกแพลตฟอร์มที่ต้องการได้แล้ว ให้ทำการเปิดบัญชีการเทรด โดยอาจเริ่มจากบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนโดยยังไม่ต้องใช้เงินจริง เพื่อให้คุณได้ทำความเข้าใจเครื่องมือต่างๆ เช่น กราฟ, ตัวชี้วัดทางเทคนิค 

 

4. เริ่มเทรดด้วยเงินจริง

เมื่อมีความพร้อมและมั่นใจแล้ว สามารถเริ่มต้นเทรดจริงด้วยเงินทุนที่เหมาะสม อาจจะเริ่มจากการลงทุนที่ไม่สูงเกินไป เพื่อป้องกันความเสี่ยงในช่วงเริ่มต้น

 

และนี่คือข้อแนะนำดี ๆ สำหรับใครก็ตามที่เริ่มต้นการเทรด ซึ่งถือเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจพื้นฐานของตลาดการเงินและสินทรัพย์ที่เลือกเทรด และถ้าหากยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มเทรดจริงเลยดีไหม แนะนำให้ลองฝึกใช้แพลตฟอร์มเทรด ทำความเข้าใจเครื่องมือต่างๆ และอย่าลืมว่า การลงทุนมีความเสี่ยง อย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนเริ่มเทรดจริง 

 

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ขอแนะนำ บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ทางเลือกใหม่ในการออมเงิน และตัวช่วยสำหรับการบริหารความเสี่ยงจากธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ รับฝากเงินสกุลเงินต่างประเทศ สูงถึง 7 สกุลเงิน ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (USD), ยูโร (EUR), ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP), ดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD), ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD), เยนญี่ปุ่น (JPY) และ มาเลเซีย ริงกิต (MYR) ฝาก-ถอนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง สามารถโอนเงินได้อย่างสะดวก และ ปลอดภัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง CIMB Thai Care Center 02 626 7777 หรือ คลิกที่นี่

 


คุณอาจสนใจ