แพ็คกระเป๋าตะลุยเมืองโอซาก้ากับ 15 ที่เที่ยวที่ต้องเช็กอิน

โอซาก้าเมืองท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์ เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันน่าหลงใหล และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ สำหรับใครที่มีแผนจะไปโอซาก้าเราได้รวมที่เที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดมาไว้ให้แล้วในบทความนี้! ไม่ว่าจะเป็นปราสาทโอซาก้าที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ย่านช็อปปิงโดทงบุริที่คึกคัก หรือสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง Universal Studios Japan ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ

นอกจากนี้เพื่อให้ทริปของคุณราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น อย่าลืมทำประกันเดินทางก่อนออกเดินทางและเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวได้อย่างไร้กังวล และพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้

ควรเที่ยวโอซาก้าช่วงเดือนไหนดี

เมืองโอซาก้ามีที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่น หากคุณกำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นโอซาก้า การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้ทริปของคุณน่าประทับใจยิ่งขึ้น เรามาดูกันว่าควรเที่ยวโอซาก้าเดือนไหนดี

• เดือนมีนาคม - เมษายน : ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะอากาศเย็นสบาย และเป็นช่วงที่ดอกซากุระบาน โดยเฉพาะที่ปราสาทโอซาก้าและสวนสาธารณะต่าง ๆ มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10-20 องศาเซลเซียส ทำให้เหมาะแก่การเดินชมเมืองและถ่ายรูป
• เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน : ฤดูใบไม้ร่วงก็เป็นอีกช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว จะได้เห็นใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสี อากาศเย็นสบายคล้ายฤดูใบไม้ผลิ และยังมีเทศกาลต่าง ๆ อีกมากมาย รวมถึงการประดับไฟฤดูหนาวที่เริ่มต้นในช่วงปลายพฤศจิกายนอีกด้วย
• เดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ : แม้จะเป็นฤดูหนาว แต่ก็เป็นช่วงที่น่าสนใจ มีการประดับไฟสวยงามทั่วเมือง และเทศกาลปีใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ อุณหภูมิอาจลดต่ำถึง 5 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบอากาศเย็นและต้องการหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
• เดือนพฤษภาคม - กันยายน : เป็นช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน ทำให้อากาศค่อนข้างร้อนและชื้น โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ที่อุณหภูมิอาจสูงถึง 35 องศาเซลเซียส แต่ก็มีเทศกาลดอกไม้ไฟและเทศกาลฤดูร้อนที่น่าสนใจ

รวม 15 ที่เที่ยวโอซาก้าที่ต้องมาเช็กอิน

สำหรับการท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้า ที่เที่ยวที่เราอยากมาแนะนำนั้นมีตั้งแต่แหล่งช็อปปิง สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ ไปจนถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เรามาดูกันว่าสถานที่ท่องที่เที่ยวโอซาก้า (Osaka) ที่ไม่ควรพลาดมีที่ไหนบ้าง

1. ย่านโดทงบุริ (Dotonbori)

ย่านบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวาที่สุดของโอซาก้า ที่เที่ยวแห่งนี้โดดเด่นด้วยแสงสีจากป้ายโฆษณานีออนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะป้ายกูลิโกะที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของย่านนี้ ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารข้างทางแนว Street food และร้านอาหารมากมาย โดยเฉพาะทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ

ที่ตั้ง: 1 Chome Dotonbori, Chuo Ward, Osaka, 542-0071

เวลาทำการ: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง (เวลาเปิด-ปิดของร้านค้าแต่ละร้านอาจแตกต่างกัน)

ค่าเข้าชมสถานที่: ไม่มีค่าเข้าชม

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Midosuji ลงที่สถานี Namba หรือสาย Sakaisuji ลงที่สถานี Nipponbashi

2. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

มาถึงโอซาก้า ที่เที่ยวนี้ไม่ควรพลาด! หนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 โดยโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ภายในปราสาทได้จัดแสดงประวัติศาสตร์และวัตถุโบราณ ส่วนรอบ ๆ ปราสาทเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สวยงามมาก โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิที่จะดอกซากุระบานสะพรั่ง

ที่ตั้ง: 1-1 Osakajo, Chuo Ward, Osaka, 540-0002

เวลาทำการ: 9:00-17:00 น. (เข้าชมได้ถึง 16:30 น.)

ค่าเข้าชมสถานที่: ผู้ใหญ่ 600 เยน, เด็ก 200 เยน

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Loop Line ลงที่สถานี Osakajokoen

3. Universal Studios Japan

อีกหนึ่งที่เที่ยวโอซาก้าที่ไม่ควรพลาดกับสวนสนุกระดับโลกอย่าง Universal Studios Japan ที่มีเครื่องเล่นและธีมพาร์คที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดดเด่นด้วย The Wizarding World of Harry Potter, Super Nintendo World และ Universal Wonderland นอกจากนี้ยังมีโซนอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมการแสดงและพาเหรดที่น่าประทับใจตลอดทั้งวัน

ที่ตั้ง: 2-1-33 Sakurajima, Konohana Ward, Osaka, 554-0031

เวลาทำการ: 8:30-21:00 น. (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)

ค่าเข้าชมสถานที่: ผู้ใหญ่ 8,400 เยน, เด็ก 5,400 เยน

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Yumesaki Line ลงที่สถานี Universal City

4. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan)

หนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดแสดงสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลกว่า 620 สายพันธุ์ ไฮไลท์สำคัญคือฉลามวาฬยักษ์และแมนตาเรย์ในแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ การจัดแสดงแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ตามระบบนิเวศของมหาสมุทรแปซิฟิก สำหรับเมืองโอซาก้านับเป็นที่เที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ

ที่ตั้ง: 1-1-10 Kaigandori, Minato Ward, Osaka, 552-0022

เวลาทำการ: 10:00-20:00 น. (เข้าชมได้ถึง 19:00 น.)

ค่าเข้าชมสถานที่: ผู้ใหญ่ 2,700 เยน, เด็ก 1,400 เยน

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Chuo Line ลงที่สถานี Osakako

5. พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (Momofuku Ando Instant Ramen Museum)

พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติความเป็นมาของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และผู้คิดค้นอย่าง Momofuku Ando ไฮไลท์อยู่ที่กิจกรรมการทำบะหมี่ถ้วยในแบบฉบับของคุณเอง ตั้งแต่การเลือกส่วนผสม ออกแบบถ้วยบะหมี่ จนถึงการห่อบรรจุภัณฑ์ บอกเลยว่าใครที่มาโอซาก้า ที่เที่ยวนี้เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ไม่ควรพลาดเชียว

ที่ตั้ง: 8-25 Masumi-cho, Ikeda City, Osaka, 563-0041

เวลาทำการ: 9:30-16:00 น. (ปิดวันอังคารที่ 4 ของเดือน)

ค่าเข้าชมสถานที่: ไม่มีค่าเข้าชม (กิจกรรมทำบะหมี่ถ้วย 300 เยน)

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟ Hankyu Line ลงที่สถานี Ikeda เดิน 5 นาที

6. ตึกอุเมดะ (Umeda Sky Building)

หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของโอซาก้า เป็นตึกคู่แฝดสูง 40 ชั้นที่เชื่อมต่อกันด้วยสะพานลอยฟ้า มีจุดชมวิวบนชั้น 39-40 "Floating Garden Observatory" สามารถมองเห็นภาพบรรยากาศที่สวยงามของเมืองโอซาก้าได้แบบ 360 องศา โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน

ที่ตั้ง: 1-1-88 Oyodonaka, Kita Ward, Osaka, 531-6023

เวลาทำการ: 9:30-22:30 น. (เข้าชมได้ถึง 22:00 น.)

ค่าเข้าชมสถานที่: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน, เด็ก 750 เยน

วิธีเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานี Osaka หรือ Umeda

7. ย่านชินเซไก (Shinsekai)

ย่านชินเซไกของโอซาก้า เป็นที่เที่ยวย่านเก่าแก่ที่ยังคงกลิ่นอายของโอซาก้าในยุค 50s โดดเด่นด้วยหอคอยสึเทนคาคุที่เป็นสัญลักษณ์ของย่าน ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องคุชิคัตสึและอาหารพื้นเมือง บรรยากาศยามค่ำคืนจะคึกคักไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และร้านค้าท้องถิ่นมากมาย

ที่ตั้ง: 2 Ebisuhigashi, Naniwa Ward, Osaka, 556-0002

เวลาทำการ: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง (เวลาร้านค้าแต่ละร้านแตกต่างกัน)

ค่าเข้าชมสถานที่: ไม่มีค่าเข้าชม

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Sakaisuji Line ลงที่สถานี Ebisucho

8. ตลาดคุโรมง (Kuromon Market)

ตลาดคุโรมงเป็นตลาดอาหารสดที่มีประวัติยาวนานกว่า 190 ปี ได้รับฉายาว่า "ครัวของโอซาก้า" เพราะเป็นแหล่งวัตถุดิบคุณภาพดีที่เชฟชื่อดังมักเลือกใช้ มีร้านค้ากว่า 150 ร้านขายทั้งอาหารทะเลสด ผัก ผลไม้ และอาหารปรุงสุก

ที่ตั้ง: 2-4-1 Nipponbashi, Chuo Ward, Osaka, 542-0073

เวลาทำการ: 9:00-17:00 น. (บางร้านอาจปิดวันอาทิตย์)

ค่าเข้าชมสถานที่: ไม่มีค่าเข้าชม

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Sakaisuji Line ลงที่สถานี Nipponbashi

9. อเมริกัน วิลเลจ (Amerika mura)

ย่านวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านแผ่นเสียง และร้านค้าสไตล์สตรีท เป็นจุดนัดพบของวัยรุ่นที่ชื่นชอบวัฒนธรรมฝั่งตะวันตก เป็นที่เที่ยวโอซาก้าที่มีสตรีทอาร์ตและกราฟฟิตี้สวย ๆ ให้ถ่ายรูป รวมถึงคาเฟ่และร้านอาหารสไตล์อเมริกันมากมาย

ที่ตั้ง: 2 Chome Nishishinsaibashi, Chuo Ward, Osaka, 542-0086

เวลาทำการ: 11:00-20:00 น. (เวลาแต่ละร้านอาจแตกต่างกัน)

ค่าเข้าชมสถานที่: ไม่มีค่าเข้าชม

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line ลงที่สถานี Shinsaibashi

10. ทีมแล็บ โอซาก้า (teamLab Botanical Garden Osaka)

ไม่ว่าใครมาโอซาก้า ที่เที่ยวแห่งนี้จะต้องอยู่ในลิสต์แพลนเที่ยวอย่างแน่นอนกับ นิทรรศการศิลปะดิจิทัลอินเทอร์แอคทีฟที่ผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ภายในจัดแสดงงานศิลปะแสงสีที่เปลี่ยนแปลงตามการเคลื่อนไหวของผู้ชม สร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจภายในสวนพฤกษศาสตร์

ที่ตั้ง: 1-23 Nagaikoen, Osaka, 546-0034

เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 10:00-22:00 น. (เข้าชมได้ถึง 21:00 น.)

ค่าเข้าชมสถานที่: ผู้ใหญ่ 2,800 เยน, เด็ก 1,000 เยน

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Midosuji Line ลงที่สถานี Nagai แล้วเดิน 5 นาที

11. ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Ferris Wheel)

โอซาก้ามีที่เที่ยวแลนด์มาร์กใหญ่ที่น่าสนใจอย่างชิงช้าสวรรค์ที่ตั้งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง ด้วยความสูง 112.5 เมตร ใช้เวลาหมุนหนึ่งรอบ 15 นาที ให้วิวแบบพาโนรามาของอ่าวโอซาก้า สะพานเท็มโปซาน และตัวเมือง ในยามค่ำคืนมีการประดับไฟสวยงาม โดยสีของไฟจะเปลี่ยนไปตามพยากรณ์อากาศวันถัดไป

ที่ตั้ง: 1-1-10 Kaigandori, Minato Ward, Osaka, 552-0022

เวลาทำการ: 10:00-22:00 น. (เข้าได้ถึง 21:30 น.)

ค่าเข้าชมสถานที่: ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก 400 เยน

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Chuo Line ลงที่สถานี Osakako

12. วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple)

“วัดชิเทนโนจิ” วัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 593 โดยเจ้าชายโชโตกุ ภายในมีสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม เจดีย์ห้าชั้น สวนญี่ปุ่น และพิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุทางพุทธศาสนา เป็นที่เที่ยวโอซาก้าที่ให้บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การเดินชมบรรยากาศและถ่ายภาพ

ที่ตั้ง: 1-11-18 Shitennoji, Tennoji Ward, Osaka, 543-0051

เวลาทำการ: 8:30-16:30 น.

ค่าเข้าชมสถานที่: ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็ก 200 เยน (ค่าเข้าสวน 300 เยน)

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Loop Line ลงที่สถานี Tennoji เดิน 10 นาที

13. สวนสัตว์เท็นโนจิ (Tennoji Zoo)

โอซาก้ามีที่เที่ยวสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1915 มีสัตว์รวมกว่า 1,000 ชนิด รวมถึงสัตว์หายากอย่างแพนด้ายักษ์และโคอาล่า มีโซนจัดแสดงที่น่าสนใจมากมายเช่น โซนแอฟริกา โซนออสเตรเลีย และรังนกขนาดใหญ่

ที่ตั้ง: 1-108 Chausuyamacho, Tennoji Ward, Osaka, 543-0063

เวลาทำการ: 9:30-17:00 น. (ปิดวันจันทร์)

ค่าเข้าชมสถานที่: ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 200 เยน

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟสาย JR Loop Line หรือรถไฟใต้ดินลงที่สถานี Tennoji

14. ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ (Namba Yasaka Shrine)

ที่เที่ยวโอซาก้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่าง “ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ” ศาลเจ้าที่โดดเด่นด้วยศาลาทรงหัวสิงโตขนาดใหญ่ สูง 12 เมตร กว้าง 11 เมตร เชื่อกันว่าหัวสิงโตจะกลืนกินสิ่งชั่วร้ายและนำโชคลาภมาให้ โดยเฉพาะด้านการค้าและด้านการเรียน เป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาดของโอซาก้า

ที่ตั้ง: 2-9-19 Motomachi, Naniwa Ward, Osaka, 556-0016

เวลาทำการ: เปิดตลอดวัน

ค่าเข้าชมสถานที่: ไม่มีค่าเข้าชม

วิธีเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี Namba หรือ Daikokucho

15. สวนเท็นโนจิ (Tennoji Park)

ที่เที่ยวโอซาก้าไม่ซ้ำใครอย่าง ”สวนเท็นโนจิ” สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมือง มีพื้นที่กว่า 250,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยสวนดอกไม้ สวนญี่ปุ่น และสนามหญ้าขนาดใหญ่ เป็นจุดชมซากุระยอดนิยมในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะโอซาก้าตั้งอยู่ภายในสวนอีกด้วย

ที่ตั้ง: 5-55 Chausuyamacho, Tennoji Ward, Osaka, 543-0063

เวลาทำการ: 9:30-17:00 น.

ค่าเข้าชมสถานที่: ผู้ใหญ่ 150 เยน, เด็ก 80 เยน

วิธีเดินทาง: ลงที่สถานี Tennoji ทางออก Tennoji Park

เที่ยวโอซาก้าแบบสบายใจ ด้วยการทำประกันเดินทางจาก CIMB THAI

โอซาก้าเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยว ด้วยเอกลักษณ์ของเมืองโอซาก้ามีที่เที่ยวหลากหลายแบบตั้งแต่ย่านโดทงบุริอันคึกคัก ปราสาทโอซาก้าอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ไปจนถึง Universal Studios Japan และพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมากมาย

และเพื่อให้ทริปของคุณราบรื่นหมดห่วงเรื่องต่าง ๆ ที่อาจเกิดระหว่างเดินทาง แนะนำให้ทำประกันเดินทาง “ซีไอเอ็มบี ไทย ทราเวล แคร์” ของ CIMB THAI ที่มีจุดเด่นด้านความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงถึง 5 ล้านบาท พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง คุ้มครองการยกเลิกการเดินทาง และการล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง

สามารถสมัครได้ง่าย ๆ ผ่านทางแอป CIMB THAI หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CIMB THAI Care Center โทร 02 626 7777 และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางออนไลน์ของธนาคารได้ดังต่อไปนี้

• Facebook
• Instagram
• X
• LINE
• Tiktok