คุณอยู่ที่

  • บทความ
  • ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
  • ช่องทางบริการธนาคาร
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการช่วยเหลือ
  • ลิงก์ด่วน
ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
เกี่ยวกับเรา
Financial Guru
Business Maker
Lifestyle Tips
ลงทุน
บริการโอนเงินระหว่างประเทศ
CIMB THAI App
ข่าวและกิจกรรม

 

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำธุรกรรมทางการเงิน ที่แม้การใช้จ่ายจะง่ายแค่ปลายนิ้ว แต่มาพร้อมกับภัยคุกคามจากมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน อีกทั้งยังมีกลโกงต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยตกเป็นเหยื่อ แล้วถ้าเราโดนหลอกโอนเงินทําไงดี นี่คือ 5 วิธีป้องกันการถูกหลอกให้โอนเงินในยุคดิจิทัล

 

ถ้าเราโดนหลอกโอนเงินทําไงดี?

หากใครก็ตามที่โดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้เราลงทุน หลอกให้โอนเงิน สิ่งแรกที่ควรทำคือ อย่าตกใจ เพราะเราสามารถแจ้งความโดนหลอกให้ลงทุนออนไลน์ รวมถึง แจ้งความหลอกโอนเงินได้ อย่างไรก็ตามให้รีบรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา หลักฐานการโอนเงิน ฯลฯ จากนั้นแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ นอกจากนี้ ยังสามารถแจ้งไปยังธนาคารหรือผู้ให้บริการทางการเงินที่โอนไป เพื่อขอระงับการโอนเงิน หรือขอคืนเงินได้ หากเงินยังไม่ถูกโอนออกจากบัญชี

5 วิธีป้องกันมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน

ในยุคที่การใช้จ่ายและการทำธุรกรรมผ่านระบบดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การหลอกลวงทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์กลับเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินด้วยกลวิธี รวมถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อล่อลวงให้เราหลงกล ลองมาดู 5 วิธีต่อไปนี้ 

 1. หมั่นตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลก่อนทำธุรกรรม

ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันธนาคารหรือทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ การตรวจสอบแหล่งที่มาก่อนเสมอเป็นสิ่งสำคัญ เช่น ตรวจสอบชื่อบัญชีหรือหมายเลขโทรศัพท์ว่ามีประวัติการโกงหรือไม่ สามารถใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่เป็นฐานข้อมูลกลาง เช่น ศูนย์รวมข้อมูลผู้กระทำผิดทางการเงินออนไลน์ในการตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย

2. อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวแก่บุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ

มิจฉาชีพมักใช้วิธีการหลอกถามข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขบัญชีธนาคาร หรือรหัส OTP ผ่านทางโทรศัพท์หรือข้อความ อย่าให้ข้อมูลเหล่านี้แก่บุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ หากมีการแจ้งว่าคุณได้รับรางวัลหรือมีการติดต่อจากธนาคาร ให้คุณติดต่อกลับทางช่องทางที่เป็นทางการเท่านั้น

3. ระมัดระวังการคลิกลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

มิจฉาชีพมักส่งลิงก์หรือไฟล์ที่มีไวรัสหรือมัลแวร์แนบมาในอีเมล ข้อความ หรือแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย เมื่อติดตั้งไวรัสหรือมัลแวร์แล้ว มิจฉาชีพจะสามารถเข้าถึงข้อมูลในอุปกรณ์ของคุณได้ หากได้รับลิงก์หรือไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ควรลบออกทันที และหลีกเลี่ยงการคลิกหรือดาวน์โหลด

4. ใช้รหัสผ่านที่ปลอดภัยและเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ

การใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อนและไม่ซ้ำกันในแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น รวมตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก ตัวเลข และสัญลักษณ์ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แนะนำว่าควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ เพื่อป้องกันการถูกแฮ็กหรือถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต หากเป็นไปได้ ควรเปิดใช้การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (Two-Factor Authentication) เป็นวิธีการเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีต่างๆ เช่น บัญชีธนาคาร บัญชีอีเมล บัญชีโซเชียลมีเดีย ฯลฯ โดยนอกจากรหัสผ่านแล้ว ผู้ใช้จะต้องป้อนรหัสยืนยันอีกชุดหนึ่งด้วย รหัสยืนยันชุดที่สองนี้ มักส่งมาทาง SMS หรืออีเมล โดยรหัสจะมีอายุการใช้งานสั้น ๆ ดังนั้น แม้จะมีคนขโมยรหัสผ่านไป ก็ไม่สามารถเข้าถึงบัญชีได้หากไม่มีรหัสยืนยัน

5. ติดตามข่าวสารและเรียนรู้วิธีการหลอกลวงที่เป็นปัจจุบัน

มิจฉาชีพมักปรับเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงอยู่เสมอ การติดตามข่าวสารและเรียนรู้เทคนิคการโกงใหม่ ๆ จะช่วยให้เราระวังตัวได้ดียิ่งขึ้น หลายธนาคารและองค์กรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มักออกประกาศเตือนภัยและให้คำแนะนำในการป้องกันตนเองจากการถูกหลอก

 

 

แจ้งความโดนหลอกให้ลงทุนออนไลน์

ในปัจจุบัน การหลอกลวงให้ลงทุนออนไลน์เป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อย ด้วยการชักชวนให้มาลงทุนในธุรกิจที่ดูน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หุ้น ปันผล หรือโครงการอื่น ๆ ที่ดูเหมือนจะให้ผลตอบแทนสูง ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมักเสียเงินจำนวนมากไปโดยไม่มีโอกาสได้รับเงินคืน ดังนั้น การแจ้งความเมื่อถูกหลอกจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญ

ขั้นตอนการแจ้งความเมื่อถูกหลอกให้ลงทุนออนไลน์

1. รวบรวมหลักฐานทั้งหมด

ไม่ว่าจะเป็น หลักฐานการโอนเงิน สลิป ข้อความหรืออีเมลที่ได้รับจากผู้หลอกลวง รวมถึงรายละเอียดการโอนเงิน เช่น วันที่และเวลาที่โอน หมายเลขบัญชีที่โอนเงินไป ให้ครบถ้วน

2. ติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชีที่โอนเงิน

แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอให้ธนาคารทำการยกเลิก หรือระงับการโอนเงิน โดยเราจะได้รับ Case ID ผ่านทาง SMS เพื่อให้คุณนำไปใช้แจ้งความ

3. แจ้งความกับตำรวจ

หลังจากที่ติดต่อธนาคารแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือนำหลักฐานทั้งหมดที่มีไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในบริเวณใกล้เคียง โดยนำเลข Bank Case ID จากธนาคาร ให้กับเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้คุณสามารถ แจ้งความออนไลน์โดนหลอกโอนเงิน ผ่านเว็บไซต์ thaipoliceonline.com ภายใน 72 ชั่วโมง

 

 

หลังจากที่เราแจ้งความไปแล้ว โอกาสที่จะได้เงินคืน อาจจะขึ้นอยู่กับหลักฐานที่มี ความรวดเร็วในการแจ้งความ รวมถึง ประเภทของการหลอกลวง แน่นอนว่ากรณีที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ โอกาสที่เราจะได้เงินคืนก็มีความเป็นไปได้สูง แต่ถ้ากรณีที่ผู้ต้องหาหลบหนี โอกาสได้เงินคืนจะน้อยลง ขึ้นอยู่กับว่าเงินโอนไปยังบัญชีใคร การป้องกันตัวเองจากการถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรรู้เท่าทัน และถ้าเราโดนหลอกให้โอนเงิน ก็สามารถแจ้งความออนไลน์ได้ และสำหรับ ลูกค้าธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สามารถสอบถามและแจ้งเหตุภัยทางการเงิน ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โทร 02-626-7777 กด 12 หรือ คลิกที่นี่