คุณอยู่ที่

  • บทความ
  • ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
  • ช่องทางบริการธนาคาร
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการช่วยเหลือ
  • ลิงก์ด่วน
ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
เกี่ยวกับเรา
Financial Guru
Business Maker
Lifestyle Tips
ลงทุน
บริการโอนเงินระหว่างประเทศ
CIMB THAI App
ข่าวและกิจกรรม

เมื่อพูดถึงการออมเงิน หลายคนมักจะคิดว่าการเปิดบัญชีเงินฝากประจำ คือ ตัวช่วยให้สามารถเก็บออมเงินได้อย่างยั่งยืน แต่รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วการทำบัญชีรายรับรายจ่ายก็นับเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ทั้งพนักงานบริษัท ฟรีแลนซ์ และธุรกิจสามารถเห็นภาพรวมของเงินออม และสามารถวางแผนการออมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสมุดรายรับรายจ่ายทําเองสมัยเด็ก ๆ ก็อาจเป็นการทำรายรับรายจ่ายในภาพจำของหลายคน แต่ปัจจุบันมีวิธีทํารายรับรายจ่ายที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

ไม่ว่าคุณจะเป็นมนุษย์เงินเดือน ร้านค้า หรือธุรกิจที่ต้องการวางแผนควบคุมการเงิน บทความนี้รวบรวมมาให้ทั้งตัวอย่างบัญชีรายรับรายจ่ายบริษัท ข้อดีของการบันทึกรายรับรายจ่าย และวิธีทํารายรับรายจ่ายแบบง่าย ๆ มาให้แล้ว!

 

บัญชีรายรับรายจ่าย คืออะไร ทำไมควรทำ?

 

บัญชีรายรับรายจ่าย คือ การจดบันทึกรายการทางการเงินทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ รายรับ (เงินที่ได้รับ) และรายจ่าย (เงินที่ใช้จ่าย) การทำบัญชีรายรับรายจ่ายจะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมทางการเงินของตัวเองได้อย่างชัดเจน ว่ามีเงินเข้า-ออกยังไง เหลือเงินเท่าไหร่ และใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง ซึ่งผลต่างระหว่างรายรับและรายจ่ายจะแสดงให้เห็นถึงสถานะทางการเงินของคุณ ไม่ว่าจะเป็น "ส่วนเกิน" หรือ "ส่วนขาด" ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่สะท้อนถึงสถานะทางการเงินของคุณนั่นเอง

การทำรายรับรายจ่ายจึงเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีบัญชีเงินฝากต่าง ๆ เช่น บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และ บัญชีเงินฝากประจำ เนื่องจากช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้ได้

 

ทำไมต้องทำบัญชีรายรับรายจ่าย? ประตูสู่ความมั่นคงทางการเงิน

 

เคยสงสัยไหมว่าเงินของคุณหายไปไหน ทั้ง ๆ ที่เพิ่งได้รับมา? หรือร้านค้าของคุณมีรายได้ดี แต่กลับไม่มีกำไรเหลือเก็บ? ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากการขาดความเข้าใจในกระแสเงินสดเข้า-ออก การทำบัญชีรายรับรายจ่ายจึงเป็นเสมือนกระจกสะท้อนสถานะทางการเงิน ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของรายรับและรายจ่ายได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้นและป้องกันปัญหาทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเหตุผลที่ทำให้การบันทึกรายรับรายจ่ายเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เช่น

  • ควบคุมการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น : เมื่อเห็นข้อมูลค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากบัญชีรายรับรายจ่ายครัวเรือน เราสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และจัดลำดับความสำคัญของการใช้เงินได้ดียิ่งขึ้น
  • วางแผนทางการเงินในระยะยาว : ไม่ว่าจะเป็นการออมเงิน การลงทุน หรือการตั้งงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายสำคัญ การทำบัญชีจะช่วยให้สามารถจัดการเงินได้อย่างเป็นระบบ
  • ลดความเสี่ยงทางการเงิน : สำหรับผู้ที่มีธุรกิจ การบันทึกข้อมูลทางการเงินจะช่วยให้วิเคราะห์แนวโน้มรายรับรายจ่ายได้ และปรับกลยุทธ์ทางการเงินให้เหมาะสม
  • พื้นฐานของการออมและการลงทุน : การมีข้อมูลทางการเงินที่แม่นยำจะช่วยให้สามารถกำหนดเป้าหมายการออมและเลือกช่องทางเก็บเงินได้ดีขึ้น เช่น การฝากเงินในบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน หรือบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มั่นคง

 

ข้อดีของการทำบัญชีรายรับรายจ่ายมีอะไรบ้าง?

 

ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไปหรือเจ้าของธุรกิจ การทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างสม่ำเสมอช่วยให้มองเห็นภาพรวมทางการเงินและนำไปใช้ประโยชน์ในหลายด้าน เช่น

 

ตรวจสอบสถานะการเงิน

 

การทำบัญชีรายรับรายจ่ายช่วยให้รู้ว่ามีรายรับเข้ามาเท่าไร และใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง ทำให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มการเงินของตนเองหรือธุรกิจ และปรับปรุงการใช้เงินให้สมดุลมากขึ้น

 

เตรียมพร้อมยื่นภาษี

 

ในกรณีที่มีรายได้จากงานเสริมหรือทำธุรกิจ การบันทึกบัญชีรายรับรายจ่ายช่วยให้สามารถคำนวณภาษีได้ถูกต้อง และใช้เป็นหลักฐานสำหรับการยื่นภาษี จึงช่วยลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดหรือปัญหากับหน่วยงานภาษี

 

วางแผนการเงินทางธุรกิจ

 

สำหรับผู้ประกอบการ บัญชีรายรับรายจ่ายร้านค้าหรือธุรกิจจะช่วยให้มองเห็นต้นทุน ค่าใช้จ่าย และกำไรอย่างชัดเจน ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์ทางการเงิน วางแผนขยายธุรกิจ และลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

ใช้สำหรับขอสินเชื่อหรือเงินทุน

 

ธนาคารหรือสถาบันการเงินมักต้องการข้อมูลทางการเงินที่ชัดเจนเมื่อคุณต้องการขอสินเชื่อ การมีบัญชีรายรับรายจ่ายที่เป็นระบบจึงช่วยเพิ่มโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อ หรือเงินทุนสำหรับขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้น

 

ใครบ้างที่ควรทำบัญชีรายรับรายจ่าย? พร้อมเหตุผล

 

การทำบัญชีรายรับรายจ่ายไม่ได้จำกัดแค่เจ้าของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องสำคัญสำหรับหลายอาชีพ เพราะช่วยให้เข้าใจสถานะทางการเงิน ควบคุมค่าใช้จ่าย และวางแผนอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่าใครบ้างที่ควรให้ความสำคัญกับการทำบัญชีรายรับรายจ่าย

  • ผู้ประกอบการทุกระดับ : ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ การบันทึกรายรับรายจ่ายเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการเงินทุน ช่วยให้เห็นภาพรวมของกำไรและขาดทุน และวางแผนการเติบโตของธุรกิจได้อย่างแม่นยำ
  • พนักงานประจำ : การมีรายได้ประจำไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องวางแผนการเงิน บัญชีรายรับรายจ่ายช่วยให้คุณจัดการเงินเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระหนี้สิน และสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
  • ผู้ประกอบอาชีพอิสระ (Freelancer) : ด้วยลักษณะงานที่มีรายได้ไม่แน่นอน การทำบัญชีรายรับรายจ่ายจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการกระแสเงินสด ช่วยให้คุณวางแผนการใช้จ่ายและออมเงินได้อย่างเหมาะสม
  • ผู้ค้าปลีกและพนักงานขาย : การบันทึกรายรับรายจ่ายร้านค้า รวมถึงรายการซื้อขายสินค้าเป็นประจำช่วยให้คุณทราบถึงผลกำไรขาดทุนได้อย่างชัดเจน และสามารถจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • บุคคลทั่วไปที่ต้องการจัดการการเงิน : ผู้ที่ต้องการวางแผนการออมเงินเพื่อเป้าหมายต่าง ๆ สามารถทำบัญชีรายรับรายจ่ายง่าย ๆ เพื่อบันทึกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน สำหรับวางแผนการใช้จ่ายและออมเงิน

 

หลักการทำบัญชีรายรับรายจ่ายตามเกณฑ์สรรพากร มีอะไรบ้าง?

 

การทำบัญชีรายรับรายจ่ายตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากรเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการทุกประเภท เพื่อให้การบันทึกข้อมูลการเงินมีความถูกต้อง ครบถ้วน และสามารถใช้เป็นหลักฐานทางภาษีได้ โดยหลักเกณฑ์เบื้องต้นมีดังนี้

  1. รูปแบบบัญชีต้องเป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด

รายการบัญชีต้องมีข้อมูลครบถ้วนตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มช่องรายการให้เหมาะสมกับลักษณะธุรกิจได้ เช่น รายการโอนเงินระหว่างบัญชี หรือรายการเงินเดือนพนักงาน

    2.  ต้องใช้ภาษาไทย หรือมีภาษาไทยกำกับ

การทำบัญชีต้องใช้ภาษาไทยเป็นหลัก หากมีการใช้ภาษาต่างประเทศต้องมีคำแปลภาษาไทยกำกับ เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ง่าย

    3.  บันทึกรายการภายใน 3 วันทำการ

ทุกรายรับและรายจ่ายต้องถูกบันทึกภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่เกิดรายการ เพื่อป้องกันการตกหล่นของข้อมูล

    4. รายละเอียดที่อยู่ในบัญชีรายรับรายจ่าย

  • ต้องมีเอกสารประกอบทุกธุรกรรม : การลงบัญชีต้องมีหลักฐาน เช่น ใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษี เพื่อใช้เป็นเอกสารอ้างอิง
  • ลงรายการเป็นยอดรวมรายวัน : การบันทึกข้อมูลบัญชีต้องสรุปเป็นยอดรวมของแต่ละวัน ไม่ต้องลงรายการแยกเป็นรายธุรกรรม
  • บันทึกเฉพาะรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ : รายจ่ายที่นำมาลงบัญชีต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการเท่านั้น
  • นำภาษีซื้อมาคำนวณเป็นต้นทุน : กรณีผู้ประกอบการไม่ได้จดทะเบียน VAT สามารถนำภาษีซื้อมาคิดรวมเป็นต้นทุนของสินค้าได้
  • บันทึกธุรกรรมเงินเชื่อตามวันที่รับหรือจ่ายจริง : กรณีขายสินค้าแบบเงินเชื่อ หรือซื้อสินค้าแบบเงินเชื่อ ต้องบันทึกบัญชีในวันที่มีการรับชำระหรือจ่ายชำระ พร้อมระบุรายละเอียดในช่องหมายเหตุ
    5.  สรุปยอดรายรับรายจ่ายเป็นรายเดือน

ผู้ประกอบการต้องสรุปยอดบัญชีทุกเดือน โดยระบุรายละเอียด เช่น วันที่รับเงิน วันที่จ่ายเงิน จำนวนเงิน และรายละเอียดของรายการ เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

 

ขั้นตอนการทำบัญชีรายรับรายจ่าย เริ่มต้นยังไงดี?

 

การทำบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานประจำ ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของธุรกิจ บัญชีรายรับรายจ่ายจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ดีขึ้น โดยวิธีเขียนรายรับรายจ่ายมีดังต่อไปนี้

 

บันทึกรายการทางการเงิน

 

ขั้นตอนแรก คือการบันทึกรายการทางการเงิน ทั้งรายรับและรายจ่ายลงในระบบบัญชี โดยต้องระบุวันที่ รายละเอียดของรายการ และจำนวนเงินที่รับหรือจ่ายอย่างชัดเจน สิ่งสำคัญคือการบันทึกข้อมูลภายใน 3 วันนับจากวันที่มีรายได้หรือรายจ่าย และต้องบันทึกเฉพาะรายการที่เกี่ยวข้องกับกิจการเท่านั้น

 

เตรียมหลักฐานรายรับ-รายจ่าย

 

ทุกครั้งที่มีการรับหรือจ่ายเงิน อย่าลืมเก็บหลักฐานไว้เสมอ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี หรือเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง หลักฐานเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการยืนยันความถูกต้องของข้อมูล และใช้สำหรับการตรวจสอบในอนาคต ควรจัดเก็บหลักฐานให้เป็นหมวดหมู่และเรียงตามลำดับวันที่ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา

 

สรุปบัญชีทุกสิ้นเดือน

 

ทุกสิ้นเดือน ให้ทำการสรุปยอดรายรับและรายจ่ายทั้งหมด เพื่อดูว่าธุรกิจมีกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ โดยการสรุปยอดรายเดือนจะช่วยให้เห็นภาพรวมของการดำเนินงาน และสามารถวางแผนการเงินสำหรับเดือนถัดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งใช้ในการคำนวณเงินได้สุทธิสำหรับการชำระภาษีส่วนบุคคลอีกด้วย

 

ตัวอย่างทำบัญชีรายรับรายจ่าย ต้องกรอกข้อมูลอะไรบ้าง ตามมาตรฐานของกรมสรรพากร

 

การกรอกข้อมูลในบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างถูกต้องและครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ข้อมูลทางการเงินที่แม่นยำและเป็นประโยชน์ในการวางแผนการเงินในอนาคต ตัวอย่างข้อมูลในบัญชีรายรับรายจ่ายตามมาตรฐานของกรมสรรพากร มีดังต่อไปนี้

  • วัน/เดือน/ปี : ระบุวันที่ เดือน และปี พ.ศ. ที่เกิดรายการทางการเงินนั้น ๆ อย่างชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบและติดตาม
  • รายการ : อธิบายรายละเอียดของรายการรับ-จ่ายเงินให้ชัดเจน เช่น "รายได้จากการขายสินค้า A", "ค่าเช่าสำนักงาน", "ค่าน้ำประปา", "เงินเดือนพนักงาน" เป็นต้น โดยบันทึกรายการภายใน 3 วันทำการ นับจากวันที่เกิดรายการ เพื่อป้องกันการตกหล่นของข้อมูล
  • จำนวนเงินของรายรับ-รายจ่าย : กรอกจำนวนเงินที่ได้รับเข้ามาและรายจ่ายตามที่ระบุไว้ในช่อง "รายการ"
  • ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ : กรอกจำนวนเงินที่จ่ายออกไปสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ นอกเหนือจากการซื้อสินค้า เช่น ค่าเช่า ค่าไฟฟ้า ค่าเดินทาง เป็นต้น
  • หน่วยเงิน : ใช้หน่วยเงิน "บาท" เป็นหน่วยมาตรฐานในการบันทึกข้อมูลในบัญชีรายรับรายจ่าย

 

เปิดบัญชีเงินฝาก CIMB THAI วางแผนจัดการบัญชีรายรับรายจ่ายให้เป็นเรื่องง่าย พร้อมคุมรายจ่ายได้อยู่หมัด

 

การทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนการเงินให้มีความชัดเจนและง่ายต่อการบริหารจัดการ โดยการบันทึกข้อมูลให้ครบถ้วนและเป็นระเบียบสามารถช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบสถานะการเงินของธุรกิจได้ถูกต้อง รวดเร็ว และช่วยให้การคำนวณภาษีหรือการวางแผนทางการเงินเป็นไปได้อย่างราบรื่น

หากคุณต้องการวางแผนการเงินที่ดีและบริหารจัดการรายรับ-รายจ่ายและการออมเงินอย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ CIMB Preferred Account หรือบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ Speed Savings จะช่วยให้การทำธุรกรรมทางการเงินของคุณเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้น!

 

โดยสามารถอ่านรายละเอียดการเปิดบัญชีเงินฝากและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.cimbthai.com/th/personal/promotions/latest-promotions/specialcampaign-y2025.html

หรือติดต่อ CIMB Thai Care Center โทร 02 626 7777 และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางออนไลน์ของธนาคารได้ดังต่อไปนี้