หลังชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการ ในการขอเอกสารใบเสร็จ e-Receipt สิ่งที่ต้องเตรียมให้กับร้านค้า คือเอกสารและข้อมูลดังต่อไปนี้
- เอกสารที่ใช้ยื่นสิทธิ์ : เอกสารที่ใช้ต้องเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่
1. e-Tax Invoice - ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
2. e-Receipt - ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์
- ข้อมูลที่ต้องมีใน e-Tax Invoice :
- ข้อมูลผู้ขาย
- ชื่อ-นามสกุลผู้ซื้อ
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ซื้อ (เลขบัตรประชาชน 13 หลัก)
- วันที่ออกใบภาษี
- รายการสินค้าหรือบริการ และจำนวนเงินให้ครบถ้วน
- ข้อมูลที่ต้องมีใน e-Receipt :
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ขาย
- ชื่อ/ยี่ห้อ/แบรนด์ของผู้ขาย
- เลขเล่มและเลขที่ใบเสร็จ
- ชื่อ-นามสกุล-ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ซื้อ
- วัน/เดือน/ปีที่ออกใบเสร็จ
- ชนิด-ชื่อ-จำนวน-ราคา และยอดเงินรวม
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ e-Receipt
e-Tax กับ e-Receipt ต่างกันอย่างไร?
e-Tax Invoice คือ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ระบุภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งใช้สำหรับภาษีซื้อหรือเครดิตภาษีของผู้ประกอบการ ในขณะที่ e-Receipt คือ ใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ยืนยันการชำระเงิน ที่ใช้เป็นหลักฐานค่าใช้จ่าย/ลดหย่อนตามมาตรการ โดยทั้งสองอยู่ในระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของสรรพากร
e-Receipt ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
e-Receipt ใช้เป็นหลักฐานการซื้อ-ชำระเงิน ซึ่งใช้ยื่นลดหย่อนภาษีตามมาตรการต่าง ๆ เช่น Easy e-Receipt เพื่อช่วยให้ตรวจสอบรายการย้อนหลังได้สะดวก ส่วนฝั่งผู้ประกอบการจะใช้รองรับการออกบิลดิจิทัล เพื่อลดงานเอกสารและต้นทุนจัดเก็บ
e-Receipt 2568 สิ้นสุดวันไหน?
สิทธิ์ Easy e-Receipt 2.0 คำนวณจาก “การใช้จ่าย” ที่เกิดระหว่าง 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568
นำมาใช้หักลดหย่อนตอนยื่นภาษีปีภาษี 2568 ได้ในช่วงต้นปี 2569 ตามกำหนดการยื่นแบบของสรรพากร
e-Receipt ตัวช่วยลดหย่อนภาษี พร้อมตัวช่วยอื่น ๆ ที่จะทำให้คุณลดภาษีได้มากขึ้น
จากที่เราได้แนะนำไปว่า e-Receipt คืออะไร ระยะเวลาโครงการ Easy e-Receipt คือเมื่อใด และข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คงช่วยให้คุณจัดการเรื่องการลดหย่อนภาษีได้ดีขึ้นมาบ้างแล้ว แต่หากคุณต้องการแนวทางลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม เพื่อใช้เป็นวิธีเก็บเงิน หรือเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนเกษียณ ให้ดีขึ้นอีกขั้น เราขอแนะนำให้เลือกใช้วิธีการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ ไปกับผลิตภัณฑ์กองทุนของ CIMB THAI ที่สามารถกระจายความเสี่ยงได้กับกองทุนมากมาย ทั้ง SSF, RMF ไปจนถึงการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ ให้คุณได้รับผลตอบแทนสูงสุด ทั้งยังสามารถเลือกลงทุนได้สะดวก ผ่านทางแอป CIMB THAI บนมือถืออีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CIMB THAI Care Center โทร 02 626 7777 พร้อมติดตามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางออนไลน์ของธนาคารได้ดังต่อไปนี