คุณอยู่ที่

  • บทความ
  • ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
  • ช่องทางบริการธนาคาร
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการช่วยเหลือ
  • ลิงก์ด่วน
ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
เกี่ยวกับเรา
Financial Guru
Business Maker
Lifestyle Tips
ลงทุน
บริการโอนเงินระหว่างประเทศ
CIMB THAI App
ข่าวและกิจกรรม
อัตราและค่าธรรมเนียม

 

“ประกันสังคมมาตรา 33” ประกันที่มนุษย์เงินเดือนต้องจ่ายทุกเดือนเพื่อเป็นหลักประกันชีวิตในยามคับขันได้ แต่ก็มีหลายคนที่ไม่รู้ว่าประกันสังคมที่จ่ายไปนั้นมีประโยชน์อะไรบ้าง เลยไม่ได้ใช้สิทธิประโยชน์ที่ตัวเองมีอยู่ ถ้าไม่อยากพลาดอะไรดี ๆ มาเช็กกันว่าประกันสังคมมาตรา 33 ล่าสุดให้ความคุ้มครองด้านไหนบ้าง เพื่อไม่ให้พลาดใช้สิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับเมื่อถึงเวลา

 

สารบัญบทความ

 

  • ประกันสังคมมาตรา 33 สำคัญอย่างไรในกลุ่มมนุษย์เงินเดือน
  • ประกันสังคมมาตรา 33 และมาตรา 39 ต่างกันอย่างไร?
  • เงินสมทบประกันสังคมมาตรา 33 เอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง?
  • สิทธิประโยชน์ของประกันสังคมมาตรา 33
  • ประกันสังคมมาตรา 33 สวัสดิการช่วยชีวิตในยามคับขัน

 

ประกันสังคมมาตรา 33 สำคัญอย่างไรในกลุ่มมนุษย์เงินเดือน


 

ประกันสังคมมาตรา 33 เป็นประกันสำหรับลูกจ้างที่มีอายุ 15-60 ปีบริบูรณ์ ณ วันเริ่มเข้าทำงานในบริษัท ร้านค้า หรือสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 1 คนขึ้นไป ซึ่งประกันสังคมมาตรา 33 มอบผลประโยชน์ให้กับผู้ที่สมัคร ดังนี้

 

    1. หลักประกันชีวิตในระหว่างการทำงาน

ม.33 ประกันสังคมให้ความคุ้มครองกับลูกจ้างที่ทำประกันไว้ทั้งหมด 7 กรณี ได้แก่ การเจ็บป่วย การว่างงาน ลาคลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ ทุพพลภาพ และการเสียชีวิต

 

    2. ตรวจสุขภาพประจำปี และการทำหัตถกรรม

ลูกจ้างจะได้รับสิทธิตรวจสุขภาพประจำปีฟรีปีละ 1 ครั้ง โดยสามารถตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการตรวจสุขภาพประจำปี และได้รับสิทธิทำทันตกรรมสูงสุด 900 บาท/ปี

 

    3. สิทธิด้านภาษี 

ประกันสังคมที่จ่ายทุก ๆ เดือนสามารถนำไปใช้ขอลดหย่อนภาษีประจำปีได้สูงสุด 9,000 บาท

 

ประกันสังคมมาตรา 33 และมาตรา 39 ต่างกันอย่างไร? 

 

เมื่อพูดถึงประกันสังคม หลายคนมักสับสนว่าระหว่างม.33 กับ ม.39 ต่างกันอย่างไรบ้าง เราจะมาเจาะลึกถึงความแตกต่างประกันสังคมทั้ง 2 รูปแบบนี้กัน

 

ประกันสังคมมาตรา 33

ประกันรูปแบบบังคับ สำหรับลูกจ้างภาคเอกชนที่ทำงานภายใต้สัญญาจ้าง ลูกจ้างจะต้องส่งเงินสมทบร่วมกับนายจ้างและภาครัฐ ผ่านการหักเงินเดือนที่ได้รับเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ประกัน

 

ประกันสังคมมาตรา 39

ประกันรูปแบบสมัครใจ สำหรับผู้เคยเป็นลูกจ้างที่มีประกันมาตรา 33 แต่ต้องการคงสิทธิประกันสังคมไว้ โดยผู้ประกันตนจะต้องเป็นผู้ส่งเงินสมทบแต่ละเดือนทั้งหมดให้กองทุนประกันสังคมเอง

 

ทั้งนี้ ผู้ที่มีประกันสังคมมาตรา 39 จะได้สิทธิประโยชน์ และความคุ้มครองเทียบเท่าประกันสังคมมาตรา 33 เกือบทั้งหมด แต่จะไม่ได้สิทธิกรณีว่างงาน

 

เงินสมทบประกันสังคมมาตรา 33 เอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง?

 

ทางกองทุนประกันสังคมมีเงินสมทบได้มาจาก 3 ทาง คือ ลูกจ้าง (5% ของเงินเดือน ไม่เกิน 750 บาท/เดือน), นายจ้าง (5% ของเงินเดือน ไม่เกิน 750 บาท/เดือน) และรัฐบาล (2.75% ของเงินเดือน ไม่เกิน 412.50 บาท/เดือน) ซึ่งกองทุนจะนำเงินที่ได้รับมาจากประกันสังคมมาตรา 33 ในแต่ละเดือนมาแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่

 

  • ส่วนที่ 1 : คุ้มครองกรณีเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ และเสียชีวิต (1.5% = 225 บาท)
  • ส่วนที่ 2 : คุ้มครองกรณีว่างงาน (0.5% = 75 บาท)
  • ส่วนที่ 3 : คุ้มครองสิทธิสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ (3% = 450 บาท)

 

สิทธิประโยชน์ของประกันสังคมมาตรา 33


 

สวัสดิการที่ผู้ประกันตนจะได้รับจากประกันสังคมมาตรา 33 แบ่งออกเป็น 7 กรณีด้วยกัน เพื่อเป็นตัวช่วยชีวิตในยามที่เจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มาดูกันว่าประกันสังคมให้ความคุ้มครองกรณีไหนบ้าง

 

กรณีเจ็บป่วย

 

ผู้มีประกันสังคมมาตรา 33 จะได้รับสิทธิการรักษาก็ต่อเมื่อจ่ายเงินสมทบ 3 เดือนขึ้นไปภายใน 15 เดือนก่อนที่จะเข้ารับการรักษา โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้

 

  • สิทธิรักษาในโรงพยาบาลที่ลงทะเบียนกับประกันสังคม

สิทธิประกันสังคมมาตรา 33 รักษาพยาบาลอาการเจ็บป่วยฟรี ทั้งแบบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ครอบคลุมถึงการตรวจสุขภาพและการฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังเจ็บป่วย

 

  • สิทธิรักษากรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือประสบอุบัติเหตุ

ถ้าประสบอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาทันที ผู้เอาประกันสามารถเดินทางไปรักษาได้ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนแบบไม่ แต่จะมีเงื่อนไขเพิ่มเติม ดังนี้

 

โรงพยาบาลรัฐ

- ผู้ป่วยนอก : จ่ายค่ารักษาตามจริง

- ผู้ป่วยใน : จ่ายค่ารักษาตามจริงภายใน 72 ชั่วโมงแรก ไม่รวมวันหยุดราชการ และจ่ายค่าห้อง ค่าอาหารไม่เกิน 700 บาท/วัน

 

โรงพยาบาลเอกชน

- ผู้ป่วยนอก : จ่ายค่ารักษาตามจริงไม่เกิน 1,000 บาท

- ผู้ป่วยใน : ประกันสังคมมาตรา 33 นอนโรง พยาบาลจ่ายตามเงื่อนไขดังนี้

- ห้อง ICU : จ่ายค่ารักษาตามจริงไม่เกิน 4,500 บาท/วัน รวมค่าห้อง ค่ารักษาพยาบาล ค่าอาหาร

- ห้องปกติ : จ่ายค่ารักษาตามจริงภายใน 72 ชั่วโมงแรก ไม่รวมวันหยุดราชการ ไม่เกิน 2,000 บาท ค่าห้อง ค่าอาหารไม่เกิน 700 บาท/วัน

 

  • สิทธิรักษาทันตกรรม

ผู้เอาประกันจะได้สิทธิทำทันตกรรมต่าง ๆ เช่น 

- ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ได้ไม่เกิน 900 บาท/ปี

- ใส่ฟันเทียมแบบถอดได้บางส่วน เบิกได้ไม่เกิน 1,500 บาทในระยะเวลา 5 ปีตั้งแต่ใส่ฟันเทียม

- ใส่ฟันเทียมแบบถอดได้ทั้งปาก เบิกได้ไม่เกิน 4,500 บาทในระยะเวลา 5 ปีตั้งแต่ใส่ฟันเทียม

 

  • สิทธิเงินทดแทนรายได้

ถ้าแพทย์วินิจฉัยแล้วให้หยุดพักงานจนกว่าร่างกายหายเป็นปกติ ประกันสังคมจะให้เงินทดแทนรายได้ 50% ของค่าจ้าง หนึ่งครั้งได้รับเงินทดแทนไม่เกิน 90 วัน รวมกันไม่เกิน 180 วัน/ปี

 

กรณีว่างงาน

 

กรณีว่างงานสามารถเบิกประกันสังคมมาตรา 33 ได้ แต่จะต้องลงทะเบียนว่างงานกับสำนักงานประกันสังคมหรือกรมการจัดหางาน โดยมีข้อแม้ว่าจะจ่ายเงินสมทบ 6 เดือนขึ้นไปภายใน 15 เดือนก่อนว่างงาน และต้องว่างงาน 8 วันขึ้นไปถึงจะรับเงินได้ 

 

ในที่นี้ประกันสังคมแบ่งกรณีว่างงานไว้ 2 แบบ ได้แก่

  • ลาออก/สิ้นสุดสัญญาจ้าง : รับเงิน 30% จากค่าจ้างเฉลี่ย ไม่เกิน 90 วัน/ปี
  • ถูกเลิกจ้าง : รับเงิน 50% จากค่าจ้างเฉลี่ย ไม่เกิน 180 วัน/ปี

 

กรณีลาคลอดบุตร

 

ผู้มีประกันสังคมมาตรา 33 จะได้สิทธิกรณีลาคลอดบุตรเมื่อจ่ายเงินสมทบ 5 เดือนขึ้นไปภายใน 15 เดือนก่อนคลอดบุตร โดยมีรายละเอียด ดังนี้

 

  • ค่าคลอดบุตรแบบเหมาจ่าย : 15,000 บาท/ครั้ง ไม่จำกัดจำนวน
  • เงินสงเคราะห์ (กรณีหยุดงาน) : จ่าย 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย ระยะเวลา 90 วัน สามารถใช้สิทธิสูงสุด 2 ครั้ง
  • ค่าตรวจและค่าฝากครรภ์ : สูงสุด 1,500 บาท

 

หมายเหตุ

  • กรณีฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ทั้งคู่ จะเลือกใช้สิทธิคลอดบุตรได้แค่ฝ่ายเดียวเท่านั้น
  • กรณีฝ่ายชายเบิกสิทธิคลอดบุตร จะได้เฉพาะค่าคลอดบุตรแบบเหมาจ่าย 15,000 บาทเท่านั้น

 

กรณีทุพพลภาพ

 

ผู้ทำประกันสังคมมาตรา 33 ที่จ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนเกิดเหตุที่ทำให้ทุพพลภาพ จะได้รับสวัสดิการ ดังนี้

เงินทดแทนรายได้

 

  • กรณีทุพพลภาพไม่รุนแรง (ระดับความสูญเสีย 35% - 50%) : ได้รับเงินทดแทน 30% ของค่าจ้างรายเดือน ไม่เกิน 180 เดือน
  • กรณีทุพพลภาพรุนแรง (ระดับความสูญเสีย 50% ขึ้นไป) : ได้รับเงินทดแทน 50% ของค่าจ้างรายเดือนตลอดชีวิต

 

ค่ารักษาพยาบาล

  • โรงพยาบาลรัฐ : จ่ายค่ารักษาตามจริงทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน
  • โรงพยาบาลเอกชน 
    • ผู้ป่วยนอก : จ่ายค่ารักษาตามจริง ไม่เกิน 2,000 บาท/เดือน
    • ผู้ป่วยใน : จ่ายค่ารักษาตามจริง ไม่เกิน 4,000 บาท/เดือน
  • กรณีอื่น ๆ เช่น ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางกาย ทางจิตใจ ผู้ทุพพลภาพจะได้รับในอัตราที่ประกาศฯ กำหนดไว้

 

กรณีเสียชีวิต

 

เมื่อผู้มีประกันสังคมมาตรา 33 เสียชีวิต จะได้รับเงินสงเคราะห์และเงินค่าทำศพตามระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบ ดังนี้

 

  • จ่ายเงินสมทบ 1 เดือนภายใน 6 เดือนก่อนเสียชีวิต : ไม่ได้เงินสงเคราะห์ แต่ได้ค่าทำศพ 50,000 บาท
  • จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 120 เดือน : รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ย 2 เดือน และได้ค่าทำศพ 50,000 บาท
  • จ่ายเงินสมทบ 120 เดือนขึ้นไป : รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ย 6 เดือน และได้ค่าทำศพ 50,000 บาท

 

กรณีสงเคราะห์บุตร

 

ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 800 บาท/บุตร 1 คน โดยมีเงื่อนไขดังนี้

  • จ่ายเงินสมทบไม่ต่ำกว่า 12 เดือนขึ้นไปภายใน 36 เดือนก่อนขอรับเงินสงเคราะห์บุตร
  • บุตรจะต้องเป็นบุตรชอบตามกฎหมาย ตั้งแต่อายุแรกเกิด - 6 ปีบริบูรณ์
  • ขอเงินสมทบสงเคราะห์บุตรได้ไม่เกิน 3 คน/ครั้ง

 

กรณีชราภาพ

 

สำหรับผู้มีประกันสังคมมาตรา 33 ที่อยู่ในเกณฑ์ชราภาพ ทางกองทุนจะจ่ายเงินให้ตามระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบ แล้วประกันสังคม ม.33 จ่ายเท่าไหร่ สามารถเช็กรายละเอียดเพิ่มเติมตามนี้

 

  • เงินบำเน็จชราภาพ : จ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 180 เดือน ณ ช่วงอายุที่ถึงเกณฑ์ (จ่ายเงินก้อนเดียว)
    • จ่ายเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน (1-11 เดือน) : ได้รับเงินเฉพาะส่วนที่ผู้ประกันตนจ่าย
    • จ่ายเงินสมทบมากกว่า 12 เดือน (12-179 เดือน) : ได้รับเงินทั้งส่วนที่ผู้ประกันตนจ่ายและส่วนที่นายจ้างจ่ายสมทบ
  • เงินบำนาญชราภาพ : จ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน ณ ช่วงอายุที่ถึงเกณฑ์ (จ่ายรายเดือนตลอดชีวิต)
    • จ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน : รับเงินบำนาญ 20% ของค่าจ้างรายเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดทัาย (คำนวณด้วยอัตราสูงสุด 15,000 บาท)
    • จ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน : รับเงินบำนาญเพิ่ม 1.5% ของทุก ๆ 1 ปี (คำนวณจาก 20% ของค่าจ้างรายเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย) 
    • กรณีผู้เอาประกันเสียชีวิตหลังรับสิทธิใน 60 เดือน ทายาทจะได้รับเงินบำเน็จ 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพในเดือนสุดท้ายก่อนผู้ประกันตนเสียชีวิต

 

หมายเหตุ

อายุที่ถึงเกณฑ์รับเงินบำเน็จ/บำนาญ คือ 55 ปีบริบูรณ์ รวมถึงกรณีความเป็นผู้ประกันสิ้นสุด และกรณีเป็นทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต

 

ประกันสังคมมาตรา 33 สวัสดิการช่วยชีวิตในยามคับขัน

 

ประกันสังคมมาตรา 33 เป็นสวัสดิการที่คอยคุ้มครองชีวิตและการเงินในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โดยเงื่อนไขให้สิทธิประโยชน์จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ส่งเงินสมทบ ซึ่งสิทธิต่าง ๆ ที่ประกันมีให้ก็จะเป็นตัวช่วยให้ใช้ชีวิตในยามคับขันหรือในยามแก่เฒ่าต่อไปได้ แต่การใช้สิทธิประกันสังคมก็มีข้อจำกัดที่ควรศึกษาให้เข้าใจ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่เกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดจนส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงิน

 

แต่กรณีที่อยากใช้สิทธิประกันสังคมมาตรา 33 รักษาอาการเจ็บป่วยอาจต้องรอคิวนานเพราะมีผู้ป่วยจำนวนมาก และค่าใช้จ่ายในการรักษาในแต่ละครั้งก็ไม่ครอบคลุมทั้งหมด ทำให้ต้องจ่ายเงินส่วนต่างออกไป ถ้าอยากเลี่ยงปัญหานี้แนะนำซื้อประกันสุขภาพติดไว้ เพราะสามารถรักษาในโรงพยาบาลตามเครือได้เลย ไม่ต้องรอคิวเยอะ และให้ค่ารักษาครอบคลุมมากกว่า ถ้าสนใจประกันสุขภาพที่ไหนดี มาทำประกันชีวิตกับ CIMB THAI Bank ที่ให้ลูกค้าสามารถใช้สิทธิรักษาแบบไม่ต้องกังวล

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CIMB THAI Care Center โทร 02 626 7777 พร้อมติดตามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางออนไลน์ของธนาคารได้ดังต่อไปนี