คุณอยู่ที่

  • บทความ
  • ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
  • ช่องทางบริการธนาคาร
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการช่วยเหลือ
  • ลิงก์ด่วน
ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
เกี่ยวกับเรา
Financial Guru
Business Maker
Lifestyle Tips
ลงทุน
บริการโอนเงินระหว่างประเทศ
CIMB THAI App
ข่าวและกิจกรรม

 

     วัยสูงอายุเรียกได้เป็นวัยที่มีความอ่อนไหวสูงทั้งทางร่างกายและจิตใจ การดูแลจึงต้องใช้ความใส่ใจเป็นพิเศษ วันนี้ CIMB Thai รวม 10 วิธีเอาใจผู้สูงอายุมาบอกต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทางด้านร่างกาย หรือเสริมภูมิคุ้มกันของจิตใจให้ท่านได้มีความสุขในวัยเกษียณมากที่สุด มาดูสิว่ามีข้อไหนที่เรากำลังทำอยู่ และข้อไหนที่เราต้องเสริมเข้าไปบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

 

 

หลักการดูแลผู้สูงอายุทางด้านร่างกาย

     พออายุมากขึ้นแน่นอนว่าร่างกายที่ใช้งานมาตลอดชีวิตย่อมมีการเสื่อมลงตามกาลเวลา การดูแลผู้สูงอายุเบื้องต้นจึงต้องเน้นเรื่องการดูแลสุขภาพร่างกายของท่านให้แข็งแรงเสียก่อน การวางแผนเกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพจะเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้ หากท่านมีสวัสดิการในการรักษาอยู่แล้วก็ดีไป แต่ถ้าไม่มีมองหาประกันชีวิตดี ๆ รองรับการรักษาไว้ดีกว่า 

 

หลักการดูแลผู้สูงอายุทางด้านจิตใจ

     พออายุมากยิ่งขึ้นผู้สูงอายุบางคนก็จะมีความวิตกกังวลสูง ไม่ว่าจะเป็นการกลัวถูกทอดทิ้ง การกลัวเป็นภาระ ความรู้สึกเหล่านี้ล้วนแต่เป็นความรู้สึกในด้านลบทั้งสิ้น วิธีดูแลผู้สูงอายุด้านจิตใจอาจจะต้องใช้ความสม่ำเสมอ และความเข้าใจให้มาก หลายความวิตกกังวลอาจจะมา ๆ หาย ๆ เราต้องทำใจไว้ว่าไม่สามารถที่จะกำจัดความรู้สึกเหล่านี้ได้ทั้งหมด แต่ก็สามารถทำให้ความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นน้อยที่สุดได้ การหากิจกรรม การพูดคุย จะเป็นการเติมเต็มให้ผู้สูงวัยมีความสุขมากยิ่งขึ้น

 

 

10 เคล็ดลับดูแลผู้สูงอายุ

     การดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวนั้น อย่างที่บอกว่าเราต้องมีการดูแลท่านให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ วันนี้จึงรวมเอา 10 เคล็ดลับที่คุณสามารถนำไปใช้เป็นการดูแลผู้สูงวัยใกล้ตัวได้เป็นอย่างดีเลย

 

1. อาหารการกินสำคัญที่สุด

     อย่างที่บอกไป ร่างกายของผู้สูงอายุจะเสื่อมถอยตามกาลเวลา จึงต้องเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและเหมาะสมกับช่วงอายุ  ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะรับประทานอาหารได้น้อยลง อวัยวะต่าง ๆ ทำงานลดน้อยลง โดยเฉพาะระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ง่าย และจะมีปัญหาเกี่ยวกับช่องปากทำให้เคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียดเท่าเดิม อาหารของผู้สูงอายุจึงควรเป็นอาหารที่ใช้การบดเคี้ยวน้อย อ่อนนุ่ม เช่นอาหารตุ๋นหรือต้ม 

 

     เกี่ยวกับรสชาติของอาหารไม่ควรจัดเมนูให้มีรสชาติจัดจ้านบ่อยนัก เลี่ยงอาหารที่มีความมัน ความหวาน ความเค็ม เพราะไม่มีต่อสุขภาพร่างกาย เสริมผักผลไม้ที่มีกากใยสูง เพิ่มโปรตีน เนื้อ นม ไข่ ดื่มน้ำเยอะ ๆ ต่อวันไม่ต่ำกว่า 1.5 ลิตร เพราะน้ำจะเป็นตัวช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายของผู้สูงวัยสมดุลมากขึ้น

 

2. อย่าให้น้ำหนักมากเกินไป

นอกจากการควบคุมอาหารแล้ว การควบคุมน้ำหนักก็เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึง ไม่ควรให้ผู้สูงอายุมีน้ำหนักมาก ด้วยสภาวะร่างกายที่เสื่อมลง ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อ กระดูก หากปล่อยให้น้ำหนักมากเกินไปจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และน้ำหนักเกินมาตรฐานยังเป็นบ่อเกิดโรคแทรกซ้อน อย่างเช่น เบาหวาน ความดัน ได้ง่ายอีกด้วย 

 

 

3. ออกกำลังกายวันละนิดจิตแจ่มใส

     การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัยสูงอายุนั้น ก็เป็นการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้กำลังมาก ที่เราเห็นกันมากจะเป็นเกี่ยวกับการเดินออกกำลังกาย การรำมวยไทเก็ก การแกว่งแขน เพื่อเป็นการยืดเส้นยืดสาย คลายกล้ามเนื้อให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นได้มากยิ่งขึ้น นอกจากจะช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายแล้ว ยังทำให้เลือดลมหมุนเวียนได้ดีขึ้นอีกด้วย

 

4. จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม

     ไม่ว่าช่วงอายุไหน สภาพแวดล้อมก็มีผลต่อการดำรงชีวิตทั้งนั้น เช่นเดียวกับการดูแลผู้สูงอายุ การจัดที่พักสำหรับผู้สูงอายุจำเป็นมากที่ต้องจัดให้มีอากาศถ่ายเท ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะไม่ค่อยออกจากบ้านดังนั้นสภาพแวดล้อมในบ้านดีก็ช่วยให้จิตใจของผู้สูงอายุผ่อนคลายได้มากกว่าพื้นที่อับชื้น อาจมีการปลูกต้นไม้ไว้ช่วยฟอกอากาศ นอกจากจะช่วยเรื่องนี้แล้ว ต้นไม้ยังสามารถกลายเป็นงานอดิเรกให้ท่านได้อีกด้วย 

 

     สภาพแวดล้อมที่พูดถึงไม่เพียงแต่การจัดที่พักอาศัยเท่านั้น การพาผู้สูงอายุไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ หรือถ้าไม่สะดวกเดินทางไปไหนไกลก็สามารถพาปอดของผู้สูงอายุไปยังสวนสาธารณะใกล้ ๆ ได้

 

5. หากิจกรรมพิเศษทำในบางเวลา

     เทคนิคของการดูแลผู้สูงอายุข้อต่อมาคือการคิดหากิจกรรมยามว่างทำร่วมกัน การทำกิจกรรมนั้นจะช่วยให้ความกังวลของผู้สูงอายุผ่อนคลายลง กิจกรรมเหล่านั้นอาจจะต้องดูจากความชอบของท่านเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้ ดูหนัง ร้องเพลง หรือการรังสรรค์ทุกวันสุดสัปดาห์ที่รวมเอาครอบครัวมารับประทานอาหารร่วมกัน

 

 

6. ระมัดระวังอย่าให้เกิดอุบัติเหตุ

     เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญอันดับ 1 เลย ด้วยร่างกายของผู้สูงอายุ มีการเสื่อมถอยลงไปมาก หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลื่นล้ม ตกบันได ตกเก้าอี้ หรืออุบัติเหตุด้านอื่น ๆ เมื่อมีการบาดเจ็บการฟื้นตัวจะล่าช้าและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมาก บางอาการไม่สามารถทำให้ร่างกายกลับมาเป็นอย่างเดิมได้ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนั้น ย่อมดีกว่าแนวทางในการรักษา สถานที่อยู่อาศัยควรมีความเหมาะสม ไม่เสี่ยงต่อการสะดุดล้ม ดูแลความเรียบร้อยของสิ่งของต่าง ๆ ในบ้านจัดให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุภายในบ้าน

 

7. ดูแลเรื่องการใช้ยารักษาโรค หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น

     ระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้ยาของผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว จัดสรรให้กินตรงตามเวลา ไม่ละเลยการรับประทานยาหรือทำการหยุดยาด้วยตัวเอง โรคบางโรคของผู้สูงอายุต้องรับประทานยาต่อเนื่อง หากมีโรคอื่นแทรกซ้อนเข้ามาต้องนำยาที่กินเป็นประจำติดไปทุกครั้งเมื่อไปพบแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำอย่างถูกต้อง เพราะยาบางตัวไม่สามารถกินร่วมกันได้ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง หากมีอาการป่วยต้องรีบพาไปพบแพทย์ก่อนที่จะสายเกินไป

 

 

8. ควรให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

     เมื่ออายุมากขึ้น ไม่ได้รับผิดชอบอะไรมากเท่าเมื่อก่อน ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าคุณค่าของตัวเองลดลง หากลูกหลานยิ่งละเลยอาจจะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกน้อยใจ ซึมเศร้า เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยต่าง ๆ ดังนั้นหากมีเรื่องที่จะต้องตัดสินใจควรสอบถามความคิดเห็นของท่านด้วย ยกตัวอย่างเช่น จะออกทริปครอบครัว ท่านอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษไหม อยากต่อเติมบ้านควรทำอย่างไรดี ให้ท่านได้ออกความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

 

9. อุปกรณ์ช่วยดูแลผู้สูงอายุเหมาะสม

     เทคโนโลยีปัจจุบันสร้างอุปกรณ์ และเครื่องมือมากมายที่จะช่วยในการดูแลผู้สูงอายุให้สะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การเดิน การนอน การนั่ง การขับถ่ายมีตัวช่วยที่คุณสามารถเลือกใช้ได้มากมาย แต่การเลือกตัวช่วยเหล่านั้นต้องคำนึงด้วยว่าเหมาะสมกับท่าน สะดวกกับท่านมากน้อยแค่ไหนด้วย

 

 

10. ตรวจสุขภาพประจำปีทั้งกายทั้งใจ

การตรวจสุขภาพประจำปีนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายเท่านั้น แต่ต้องตรวจสุขภาพจิตใจของท่านด้วย ว่าจะขนาดนั้นท่านมีเรื่องกังวลใจ สุข ทุกข์เรื่องไหนบ้าง  ตรวจร่างกายตามขั้นตอนของแพทย์เพื่อหาความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ สังเกตความผิดปกติของร่างกายท่าน หากพบเจอโรคจะได้รักษาได้ทันเวลา 

 

 

     ผู้สูงอายุนั้นเหมือนเป็นวัยที่กลับไปอ่อนไหวอีกครั้ง ต้องการการดูแลเอาใจใส่ ความรักความอบอุ่น ทั้งยังต้องดูแลเรื่องสุขภาพร่างกายให้มากขึ้นด้วย ลูกหลานควรให้ความใส่ใจ เห็นคุณค่าของท่านเสมอ การดูแลดีทางใจจะส่งผลให้ร่างกายของท่านสมบูรณ์แข็งแรงอยู่เป็นที่รักของคุณได้อีกนานแสนนาน