คุณอยู่ที่

  • ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
  • ช่องทางบริการธนาคาร
  • บริการช่วยเหลือ
  • ลิงก์ด่วน
ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
  • เงินฝาก
  • บริการธุรกรรมต่างประเทศ
  • บริหารเงินสด
ช่องทางบริการธนาคาร
บริการช่วยเหลือ
ลิงก์ด่วน

 

 

 

ประกาศความเป็นส่วนตัว

 

 

วันที่ 21 มกราคม 2564

 

เรียน ท่านลูกค้าที่ใช้บริการ

 

        ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (“ธนาคาร”) ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว และพยายามมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ฃ

หรือข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่าน (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ตามกฎหมายไทย 

 

 

ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อธิบายถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

 

  • ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดบ้างที่ธนาคารเก็บรวบรวม โดยที่ข้อมูลดังกล่าวรวมถึงข้อมูลที่ท่านมอบให้แก่ธนาคารเกี่ยวกับตัวท่านเอง หรือบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่าน (“ท่าน”) ซึ่งรวมถึงพนักงาน ลูกจ้าง กรรมการ ผู้แทน ผู้ถือหุ้น หรือผู้รับประโยชน์จากการทําธุรกรรมในทอดสุดท้าย (Ultimate Beneficial Owner) ของท่านในกรณีที่ท่านเป็นนิติบุคคล และข้อมูลที่ธนาคารรับทราบจากการที่ท่านเป็นลูกค้าของธนาคาร และข้อมูลทางการตลาดที่ท่านประสงค์ที่จะให้ธนาคารส่งให้แก่ท่าน
  • ธนาคารใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
  • ธนาคารเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลใดบ้าง
  • ทางเลือกที่ธนาคารนำเสนอให้แก่ท่าน รวมถึงวิธีการเข้าถึง และดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นปัจจุบัน
  • สิทธิที่ท่านมีต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้แก่อะไรบ้าง และกฎหมายนั้นปกป้องคุ้มครองท่านอย่างไร 

 

1.    การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

 

    ธนาคารเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหลากหลายประเภท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารเก็บรวบรวมนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์

และสภาพของผลิตภัณฑ์ บริการ และ/หรือธุรกรรมที่ท่านร้องขอ

 

    ธนาคารเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายดังต่อไปนี้ แต่ไม่จำกัดเพียง

 

  • เมื่อท่านสมัครใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของธนาคาร
  • บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างท่านกับธนาคาร หรือสำนักงานสาขา รวมถึงการบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ อีเมล์ บันทึกข้อความ หรือวิธีการอื่นใด
  • เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือใช้แอพพลิเคชั่นของธนาคารผ่านทางมือถือ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ และซอฟต์แวร์ทางอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางนโยบายสำหรับคุกกี้ของธนาคาร
  • ข้อมูลที่ได้จากเอกสารเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนกรมธรรม์ประกันภัย หรือเอกสารอื่น ๆ
  • การตรวจสอบ และคำชี้แจงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการเงิน
  • แบบสำรวจลูกค้า
  • เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายกับธนาคาร
  • เมื่อท่านทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฎแก่สาธารณะอย่างชัดแจ้ง รวมถึงเปิดเผยข้อมูลผ่านทางโซเชียลมีเดีย (social media) ในกรณีดังกล่าว ธนาคารจะเลือกเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านเลือกให้ปรากฎต่อสาธารณะเท่านั้น
  • เมื่อธนาคารได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่น นายจ้างของท่าน ลูกค้าของธนาคาร หน่วยงานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเครดิต เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจ หรือหน่วยงานของรัฐอื่นใด เป็นต้น

 

    ในบางกรณี ธนาคารอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ และออฟไลน์เพิ่มเติม รวมถึงการเก็บรวบรวมในเชิงพาณิชย์จากแหล่งข้อมูลของบุคคลที่สาม เช่น ข้อมูลจากหน่วยงานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเครดิต (รวมถึง บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ) ธนาคารอาจรวมข้อมูลนี้เข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ธนาคารเก็บรวบรวมภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

 

    ในบางกรณี ธนาคารอาจว่าจ้างบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่บริษัทในกลุ่มเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับกิจกรรมทางออนไลน์ของท่านเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมแหล่งข้อมูลออนไลน์ของธนาคาร นอกจากนี้ ธนาคารยังอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากเว็บไซต์ที่ไม่ใช่ของบริษัทในกลุ่มเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการเข้าชมของท่าน ทั้งนี้ หากธนาคารได้ดำเนินการดังกล่าวนี้ ธนาคารจะแจ้งเตือน และเสนอทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อให้ท่านสามารถปฏิเสธการเก็บรวบรวมดังกล่าวได้

 

 

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารเก็บรวบรวมภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้ แต่ไม่จำกัดเพียง

 

  • ข้อมูลส่วนตัว:  ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด สถานภาพการสมรส หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขอื่น ๆ รวมถึงข้อมูลส่วนตัวที่ปรากฏอยู่บนเอกสารที่รัฐออกให้เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี สัญชาติ รูปปรากฎในหนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ ลายมือชื่อ ข้อมูลการยืนยันตัวตน ข้อมูลที่ธนาคารได้รับจากท่านจากคำถามยืนยันตัวตนของธนาคาร (เช่น รหัสผ่าน คำตอบในกรณีที่ท่านลืมรหัสผ่าน PINs ข้อมูลการจดจำใบหน้าและเสียง เป็นต้น) ภาพถ่าย และภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV)
  • ข้อมูลครอบครัว: ชื่อ และข้อมูลการติดต่อของสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งคู่สมรส และบุตร
  • ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์ และรายละเอียดโปรไฟล์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย (social media)
  • ข้อมูลการศึกษา: รายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษา และคุณสมบัติของท่าน
  • ข้อมูลทางการเงิน:  ที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต ชื่อผู้ถือบัตรหรือรายละเอียดบัญชี บันทึกคำสั่ง รายละเอียดธุรกรรม และรายละเอียดคู่สัญญา
  • ข้อมูลการทำธุรกรรม: ชื่อนามสกุลของผู้รับประโยชน์ ที่อยู่ และรายละเอียดอื่น ๆ รวมถึงการติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับการโอนเงินผ่านธนาคารของธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
  • ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์: ที่อยู่ IP คุกกี้ บันทึกกิจกรรม ข้อมูลระบุตัวตน ตัวระบุออนไลน์ ค่าเอกลักษณ์ประจำอุปกรณ์ (unique device identifiers) และข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์
  • ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด (CCTV) และข้อมูลทางภูมิศาสตร์: ข้อมูลที่แสดงถึงตำแหน่งการถอนเงิน หรือการชำระเงินเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย หรือเพื่อระบุตำแหน่งของสาขาธนาคาร หรือผู้ให้บริการที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive personal data): ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ ซึ่งรวมถึงข้อมูลของท่านเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

2.    การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

 

    ธนาคารอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะในกรณีที่ธนาคารมีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการเช่นว่านั้น ทั้งนี้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอกด้วย

 

ธนาคารจะใช้ฐานทางกฎหมายอย่างน้อยหนึ่งฐานต่อไปนี้ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

 

  • เมื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาที่ธนาคารทำไว้กับท่าน (ฐานการปฏิบัติตามสัญญา) - กล่าวคือ เมื่อธนาคารต้องการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อที่จะให้บริการแก่ท่านตามสัญญา หรือก่อนที่ธนาคารจะเข้าทำสัญญากับท่าน
  • เมื่อเป็นหน้าที่ตามกฎหมายของธนาคาร (ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย) - กล่าวคือ เมื่อธนาคารมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือภาระข้อผูกพันตามกฎหมาย
  • เมื่อเป็นผลประโยชน์อันชอบธรรมของธนาคาร  (ฐานผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย) - กล่าวคือ เมื่อธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อผลประโยชน์อันชอบธรรมของธนาคารตามที่กฎหมายอนุญาต เว้นแต่ผลประโยชน์อันชอบธรรมของธนาคารนั้นมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน และ/หรือ
  • เมื่อท่านให้ความยินยอม (ฐานความยินยอม) - กล่าวคือ เมื่อท่านให้ความยินยอมแก่ธนาคารในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง

 

วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายที่ธนาคารใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ฐานในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ผลิตภัณฑ์ และบริการ

  • เพื่อสอบทาน ยืนยันตัวตน และตรวจสอบข้อมูลเครดิตของท่าน
  • เพื่อให้บริการ และ/หรือส่งมอบผลิตภัณฑ์ของธนาคาร
  • เพื่อบริหารความสัมพันธ์ระหว่างธนาคาร และท่าน หรือธุรกิจของท่าน
  • เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านทางอีเมล์ โทรศัพท์ ข้อความ โซเชียลมีเดีย (social media) ไปรษณีย์ หรือติดต่อสื่อสารกันซึ่งหน้าเกี่ยวกับสินค้า และ/หรือบริการของธนาคาร ข้อมูล ข่าวสารใด ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการตลาด เช่น การแจ้งปิดสาขา เป็นต้น
  • เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการที่เกี่ยวกับประกัน และผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
  • เพื่อให้เจ้าหน้าที่ด้านความสัมพันธ์ติดต่อท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นสิทธิประโยชน์/เพื่อความมั่งคั่ง หรือบริการที่ท่านสามารถใช้ประโยชน์ได้ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของบริการเพื่อสิทธิประโยชน์ หรือความมั่งคั่ง
  • เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเครดิต และพฤติกรรมการชำระหนี้ของท่านอันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการให้สินเชื่อ

 

  • เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนที่เป็นข้อมูลศาสนา ข้อมูลสุขภาพ หรือข้อมูลชีวภาพ (biometric) เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลจำลองม่านตา ข้อมูลอัตลักษณ์เสียง เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ และยืนยันตัวตนของท่าน และ/หรือทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล สาขา เว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นใด
  • ฐานการปฏิบัติตามสัญญา

 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
  • ฐานความยินยอม
  • ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย

การดำเนินการตามหน้าที่ตามกฎหมาย
  • เพื่อนำส่งรายงานตามระเบียบข้อบังคับแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • เพื่อป้องกัน และตรวจจับการฟอกเงิน หรือการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยผ่านกระบวนการรู้จักลูกค้า (Know Your Customer - KYC) (เพื่อระบุ และพิสูจน์ตัวตนของท่าน ตรวจสอบรายละเอียดของท่านกับรายการบทลงโทษ และตรวจสอบประวัติของท่าน) และตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Client Due Diligence - CDD) ตามกฎหมายป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับ
  • ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย
การให้ความสนับสนุนลูกค้า
  • เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ท่าน และให้การสนับสนุนท่านอย่างมืออาชีพ
  • เพื่อติดต่อท่านผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ
  • เพื่อตอบคำถาม และบันทึกการติดต่อ ความคิดเห็น และ/หรือข้อร้องเรียน
  • เพื่อดำเนินการตามคำสั่ง หรือคำร้องของท่าน เช่น การขอแก้ไขข้อมูล การร้องขอเอกสาร เป็นต้น
  • ฐานการปฏิบัติตามสัญญา
การปฏิบัติการทางธุรกรรม
  • เพื่อระบุประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการ
  • เพื่อดำเนินธุรกิจและปรับปรุงกิจกรรมทางธุรกิจ
  • เพื่อจัดทำรายงานทางสถิติ การวิจัยทางการตลาด รายงานวิเคราะห์ที่ไม่เกี่ยวกับการตลาด หรือการส่งเสริมการขาย
  • เพื่อวางแผนการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
  • เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับ และปรับปรุงผลประกอบการ
  • ฐานการปฏิบัติตามสัญญา
  • ฐานผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย
ความปลอดภัย และการบริหารความเสี่ยง
  • เพื่อป้องกันอาชญากรรม และจัดการความปลอดภัย (เช่น การใช้กล้องวงจรปิด ซึ่งจะทำการบันทึกภาพ ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียงของท่าน เป็นต้น)
  • เพื่อสืบสวน รายงาน และป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน
  • เพื่อบริหารความเสี่ยง
  • เพื่อตรวจสอบภายใน
  • เพื่อขอคำแนะนำ และ/หรือให้คำแนะนำด้านกฎหมายภายในธนาคาร
  • ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย
  • ฐานผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย
  • ฐานการปฏิบัติตามสัญญา
การตลาด
  • เพื่อพัฒนา และดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการตลาด
  • เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านทางอีเมล์ โทรศัพท์ ข้อความ โซเชียลมีเดีย (social media) หรือติดต่อสื่อสารซึ่งหน้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการของธนาคาร และ/หรือกลุ่มของธนาคาร และ/หรือหุ้นส่วนธุรกิจ  ซึ่งท่านอาจสนใจ
  • เพื่อส่งข้อความทางการตลาดเฉพาะบุคคลแก่ท่าน
  • เพื่อให้หุ้นส่วนธุรกิจของธนาคารส่งข้อมูลแก่ท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการที่ท่านอาจสนใจ
  • เพื่อศึกษาวิเคราะห์การใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของท่าน และต่อยอดการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์/บริการ
  • เพื่อทดสอบ วิจัย วิเคราะห์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่/รูปแบบใหม่ของผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ
  • ฐานความยินยอม
  • ฐานผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย

    ในกรณีที่ธนาคารอาศัยฐานผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ธนาคารจะพิจารณาว่า

ประโยชน์ดังกล่าวของธนาคารนั้น มีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือไม่ และจะต้องสามารถสรุปได้ว่าประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน

 

กรณีที่ท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ธนาคารได้

    ในกรณีที่ธนาคารจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมาย หรือภายใต้ข้อกำหนดในสัญญาระหว่างธนาคารและท่าน และท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ธนาคาร ธนาคารอาจไม่สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันที่ธนาคารมีต่อท่าน หรือตามที่ธนาคารวางแผนว่าจะเข้าทำสัญญากับท่านได้ (เช่น เพื่อให้บริการเปิดบัญชี) ในกรณีดังกล่าว ธนาคารอาจปฏิเสธการให้บริการที่เกี่ยวข้อง แต่ธนาคารจะแจ้งให้ท่านทราบถึงกรณีเช่นว่านั้นในขณะที่ธนาคารเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

3.     การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

 

ธนาคารอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่นในกรณีที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย รวมถึงกรณีดังต่อไปนี้ที่ธนาคาร หรือบุคคลอื่นดังกล่าว

 

  • จำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ หรือบริการ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามคำขอชำระเงิน เป็นต้น)
  • มีหน้าที่ตามกฎหมายในการกระทำการดังกล่าว (เช่น เพื่อสืบหา และป้องกันการทุจริต การหลบหลีกภาษี อาชญากรรมทางการเงิน ป้องกันการฟอกเงิน)
  • จำเป็นต้องรายงานตามกฎหมาย ดำเนินคดี ใช้สิทธิตามกฎหมาย หรือปกป้องสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • กระทำไปเพื่อผลประโยชน์อันชอบธรรมของธนาคาร (เช่น เพื่อบริหารความเสี่ยง ยืนยันตัวตน ให้บริษัทอื่นสามารถให้บริการตามที่ท่านร้องขอได้ หรือประเมินความเหมาะสมของท่านต่อผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ) และ/หรือ
  • ขอความยินยอมจากท่านในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว และท่านให้ความยินยอม

ธนาคารอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ที่กล่าวข้างต้นให้กับบุคคลอื่นดังต่อไปนี้

  • บริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มของธนาคาร และผู้รับเหมาช่วง ตัวแทน หรือผู้ให้บริการที่ทำงานให้ธนาคาร หรือให้บริการแก่ธนาคาร หรือแก่บริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มของธนาคาร รวมถึงพนักงาน ผู้รับเหมาช่วง ผู้ให้บริการ กรรมการ และเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการดังกล่าวนี้ด้วย
  • ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการดูแลทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์ใด ๆ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หรือเจ้าพนักงานบังคับคดี
  • บุคคลที่ค้ำประกัน หรือวางหลักทรัพย์อื่น ๆ ตามจำนวนที่ท่านมีภาระต้องชำระให้กับธนาคาร
  • บุคคลใด ๆ ที่ท่านได้ชำระเงินให้ และ/หรือได้รับการชำระเงิน
  • ตัวแทน ตัวแทนของธนาคาร แผนกการเงิน ระบบการชำระเงิน คู่ค้า และบริษัทอื่น ๆ ที่ท่านลงทุนผ่านธนาคาร
  • สถาบันการเงินอื่น ผู้ให้กู้ และผู้ถือหลักประกัน เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร สมาคมการค้า หน่วยงานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเครดิต ผู้ให้บริการการชำระเงิน และตัวแทนเรียกชำระหนี้
  • ผู้จัดการกองทุนใด ๆ ที่ให้บริการด้านการจัดการสินทรัพย์ให้กับท่าน และโบรกเกอร์ใด ๆ ที่แนะนำท่านให้กับธนาคาร
  • บุคคล หรือบริษัทใด ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างบริษัท การควบรวม หรือเข้าถือครองกิจการที่เกิดขึ้น หรืออาจเกิดขึ้น โดยรวมถึงการโอนสิทธิ หรือหน้าที่ใด ๆ ซึ่งธนาคาร มีอยู่ภายใต้สัญญาระหว่างธนาคาร และท่าน
  • หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย รัฐบาล ศาล กระบวนการทางศาล หน่วยงานระงับข้อพิพาท ผู้กำกับดูแลธนาคาร ผู้ตรวจสอบบัญชี และบุคคลใด ๆ ซึ่งแต่งตั้ง หรือร้องขอโดยผู้กำกับดูแลธนาคารให้ทำการตรวจสอบกิจกรรมการดำเนินงานของธนาคาร
  • บุคคลอื่นใดซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม
  • หน่วยงานป้องกันการทุจริตซึ่งใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อสืบหา และป้องกันการทุจริต และอาชญากรรมทางการเงินอื่น ๆ และเพื่อยืนยันตัวตนของท่าน
  • บุคคลใด ๆ ที่ออกคำสั่ง หรือบริหารจัดการบัญชีของท่าน ผลิตภัณฑ์ หรือบริการในนามของท่าน (เช่น ผู้รับมอบอำนาจ ทนายความ เป็นต้น)
  • บุคคลใด ๆ ที่ธนาคาร ได้รับคำสั่งจากท่านให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลดังกล่าว และ/หรือ
  • ฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดใด ๆ

 

    ในบางกรณี ธนาคารอาจเปิดเผยข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลของท่านให้กับบุคคลที่สาม เช่น ข้อมูลการยืนยันตัวตน หรือข้อมูลการเข้ารหัสแบบทางเดียว (cryptographic hash) ข้อมูลการยืนยันตัวตนของบัญชีทั่วไป เช่น หมายเลขติดต่อ หรืออีเมล์เพื่อการโฆษณาตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

 

    เว้นแต่ได้กำหนดไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ ธนาคารจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ หากธนาคารจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ ธนาคารจะแจ้งให้ท่านทราบ และขอความยินยอมจากท่านก่อนการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้ธนาคารดำเนินการดังกล่าวได้โดยไม่ต้องอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิให้ความยินยอม หรือปฏิเสธการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

    ธนาคารจะปฏิบัติต่อข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองของธนาคารซึ่งเกี่ยวข้องกับลูกค้า และนักลงทุนในอนาคต ปัจจุบัน และในอดีตตามประกาศความเป็นส่วนตัวนี้อย่างเคร่งครัด

 

การส่ง หรือโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ

 

    ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนไปยังต่างประเทศ และถูกเก็บรวบรวม และ/หรือใช้ในต่างประเทศ รวมทั้งประเทศมาเลเซีย

ทั้งนี้ ประเทศเช่นว่านั้นอาจไม่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะได้ประกาศกำหนด ในกรณีดังกล่าว ธนาคารจะทำให้มั่นใจว่าการส่งหรือโอนดังกล่าวมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับที่เหมาะสม และการส่ง หรือโอนข้อมูลดังกล่าวเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ตัวอย่างเช่น ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเปิดเผยให้กับบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มของธนาคารตามนโยบายหรือกฎเกณฑ์การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในองค์กร (Binding Corporate Rules - BCRs) หรือสัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำหนดให้บริษัทในกลุ่มของธนาคารทุกบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์หรือข้อกำหนดที่เหมือนกันในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านต้องการขอรับสำเนา BCRs ท่านสามารถติดต่อธนาคารได้ที่ dpo@cimbthai.com

 

    ธนาคารอาจต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างท่านและธนาคารเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย ปกป้องคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และ/หรือ เพื่อผลประโยชน์อันชอบธรรมของธนาคาร อย่างไรก็ตามกฎหมายของบางประเทศอาจกำหนดให้ธนาคาร ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภท (เช่น เปิดเผยให้กับหน่วยงานทางภาษี) ในกรณีเช่นว่านั้น ธนาคาร จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลที่มีสิทธิเห็น หรือเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น

4.       การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

 

    ธนาคารจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น กล่าวคือ เพื่อวัตถุประสงค์ในการรายงานตามกฎหมาย เพื่อให้บริการตามที่ท่านร้องขอ หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

    ธนาคารจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นเวลา 10 ปีภายหลังจากที่ท่านไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคาร แล้ว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของธนาคารในการดำเนินข้อพิพาททางสัญญาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นนั้นในระยะเวลาดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่มีเหตุผลทางกฎหมาย หรือเหตุผลทางเทคนิครองรับ ธนาคารอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่า 10 ปีได้ หากธนาคารไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลของท่านแล้ว ธนาคารจะทำลาย ลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ (เพื่อที่ข้อมูลดังกล่าวจะไม่มีความเชื่อมโยงถึงท่านอีกต่อไป)

 

    ในกรณีที่ท่านได้ใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการจากบุคคลที่สาม เช่น บริษัทประกันภัยที่ธนาคารแนะนำให้ท่าน บุคคลที่สามดังกล่าว อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามข้อกำหนด และเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบุคคลสามเหล่านั้น

5.       ความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล

 

    ท่านจะต้องทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของธนาคารมีความเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และถูกต้อง โดยจะต้องแจ้งธนาคารเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ โดย

 

  • ติดต่อตัวแทนของธนาคารที่ สาขาของธนาคาร หรือ CIMB Thai Care Center โทร. 0 2626 7777
  • ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่/ผ่านทาง สาขาของธนาคาร หรือ CIMB Thai Care Center โทร. 0 2626 7777

 

ธนาคารจะขอให้ท่านปรับปรุงแก้ไขข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเป็นครั้งคราว เพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง และสมบูรณ์

6.       สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

 

    ภายใต้สถานการณ์บางประการ ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยธนาคารจะเคารพสิทธิของท่าน และจะดำเนินการตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ หรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านอย่างทันท่วงที

 

รายละเอียดของสิทธิของท่านเป็นไปตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้

 

  • สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ในกรณีที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมที่จะให้ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ธนาคารอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหากธนาคารมีฐานอื่นในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงและขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากธนาคาร
  • สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์ ทั้งนี้ โปรดอ่านรายละเอียดการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลในข้อ 5. (ความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล)
  • สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิร้องขอให้ธนาคารลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ในกรณีที่ไม่มีเหตุผลอันสมควรให้ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป โดยท่านสามารถใช้สิทธิในการขอให้ธนาคารลบข้อมูลส่วนบุคคลนี้ควบคู่ไปกับสิทธิในการคัดค้านในข้อถัดไป อย่างไรก็ตาม สิทธินี้มิใช่การให้สิทธิที่จะขอให้ธนาคารลบข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ก็ได้ทั้งหมด โดยธนาคารจะพิจารณาแต่ละคำขออย่างระมัดระวังตามข้อกำหนดในกฎหมายใด ๆ อันเกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • สิทธิในการขอให้มีการจำกัดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย: ท่านมีสิทธิขอให้ธนาคารระงับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว เช่น เมื่อท่านต้องการให้ธนาคารแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หรือเมื่อท่านร้องขอให้ธนาคารพิสูจน์เหตุผล หรือฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • สิทธิในการเคลื่อนย้ายข้อมูล: ในบางกรณี ท่านสามารถขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สามารถใช้งานโดยทั่วไปได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ สิทธิดังกล่าวนี้จะใช้ได้เฉพาะในกรณีของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านส่งมอบให้แก่ธนาคาร และการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้กระทำโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันภายใต้สัญญาได้
  • สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยภายใต้ฐานผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของธนาคาร นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหากธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด และเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ (Profiling)

ท่านสามารถยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านเห็นว่า ธนาคาร พนักงานของธนาคาร หรือผู้ให้บริการของธนาคารฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ.ฯ”) หรือประกาศอื่น ๆ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจพ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว

 

    ท่านอาจใช้สิทธิใด ๆ ของท่านได้ตลอดเวลาโดยติดต่อธนาคารผ่านทางช่องทางการติดต่อตามที่ระบุไว้ในข้อ 10. (ช่องทางการติดต่อธนาคาร) ด้านล่าง ธนาคารอาจคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมตามสมควรหากคำขอของท่านไม่มีมูล ซ้ำซ้อน หรือมีมากเกินความจำเป็นอย่างชัดเจน ในอีกทางหนึ่ง ธนาคารอาจปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำขอของท่านในสถานการณ์เหล่านั้นได้

 

    ธนาคารอาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการพิสูจน์ตัวตนของท่าน และรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) โดยเป็นมาตรการความปลอดภัยที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ ธนาคารอาจติดต่อท่านเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำขอของท่าน เพื่อที่ธนาคารจะได้สามารถดำเนินการตอบกลับได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

 

    ธนาคารจะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายใน 30 วัน ในบางกรณี ธนาคารอาจใช้เวลามากกว่า 30 วันหากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าว ธนาคารจะแจ้งให้ท่านทราบ และจะแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ

 

การจัดการกับเรื่องร้องเรียน

 

    ท่านสามารถติดต่อธนาคารเพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีการที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ที่ สาขาของธนาคาร หรือ CIMB Thai Care Center โทร. 0 2626 7777 และธนาคารจะพิจารณาคำขอของท่านโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ การร้องเรียนต่อธนาคารนี้ไม่มีผลกระทบต่อสิทธิของท่านในการร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ หรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

7.       ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

    ข้อมูลถือเป็นทรัพย์สินของธนาคาร ดังนั้น ธนาคารจึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง โดยธนาคารจะตรวจสอบ และใช้มาตรการคุ้มครองความปลอดภัยขององค์กรทั้งทางกายภาพ เชิงเทคนิค และเชิงบริหารที่ทันสมัยอยู่เสมอเมื่อเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ธนาคารได้วางนโยบาย และมาตรการควบคุมภายในเพื่อให้ท่านมั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ถูกเปิดเผย และถูกเข้าถึงโดยบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ของธนาคาร โดยพนักงานของธนาคารนั้น ได้รับการอบรม และฝึกฝนให้จัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย หากพนักงานไม่ปฏิบัติตามที่ได้รับการอบรมฝึกฝนดังกล่าว พนักงานจะได้รับโทษทางวินัย

 

8.       หน้าที่ของท่าน

 

    ท่านมีหน้าที่ตรวจสอบว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยตัวของท่านเอง หรือในนามของท่าน มีความถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน และมีหน้าที่ต้องแจ้งให้ธนาคารทราบโดยเร็วที่สุดหากข้อมูลดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง

เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับธนาคารแล้ว ท่านจะมีหน้าที่ตามสัญญาในการส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ธนาคาร เพื่อให้ท่านสามารถใช้สิทธิทางกฎหมายได้ การไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียสิทธิทางกฎหมาย

ท่านมีความจำเป็นที่จะต้องส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลการติดต่อ และข้อมูลการจ่ายเงินให้กับธนาคาร เพื่อให้ธนาคารสามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ หากท่านไม่ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว อาจทำให้ธนาคารไม่สามารถใช้สิทธิ และปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันที่เกิดขึ้นจากสัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

9.       การแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัว

 

    ธนาคารจะตรวจสอบประกาศความเป็นส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ จึงอาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง สำหรับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดนั้น สามารถดูได้จากวันที่ด้านบนของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

 

10.       ช่องทางการติดต่อธนาคาร

 

    ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือต้องการใช้สิทธิใด ๆ โปรดติดต่อธนาคาร ที่

 

  • เจ้าหน้าที่บริการลูกค้าที่สาขาของธนาคาร หรือ
  • CIMB Thai Care Center โทร. 0 2626 7777 หรือ
  • เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อีเมล dpo@cimbthai.com หรือ
  • สำนักงานใหญ่ของธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จํากัด (มหาชน) เลขที่44 ถนนหลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

 

 

หมายเหตุ ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับบนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564