เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกส2. 9/2563 เรื่อง การคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้และการตัดชำระหนี้ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) จึงขอเรียนให้ลูกค้าทราบดังต่อไปนี้
1. การคำนวณอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้
ก. สินเชื่อที่ผ่อนชำระเป็นงวด ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยผิดนัดเพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยปกติสูงสุดที่เรียกเก็บตามสัญญากู้อีกไม่เกิน 3% ต่อปี
โดยคิดจากเงินต้นในงวดที่ผิดนัดนั้นๆ
ข. สินเชื่อหมุนเวียน ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยผิดนัดเพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยปกติสูงสุดที่เรียกเก็บตามสัญญากู้อีกไม่เกิน 3% ต่อปี โดยคิด
จากเงินต้นที่ค้างชำระทั้งจำนวน
1.1 สินเชื่อรายย่อย
- ธนาคารจะเริ่มคำนวณอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564
โดยครอบคลุมสินเชื่อดังนี้
- สินเชื่อบุคคลทุกประเภท (เช่น สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช)
- สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (เช่น สินเชื่ออเนกประสงค์มอร์เกจพาวเวอร์)
- กรณีผิดนัดชำระหนี้ นอกจากธนาคารจะคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ตามแนวทางข้างต้นแล้ว สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย จะมีผลกับสินเชื่ออเนกประสงค์ที่เป็นวงเงินเบิกเกินบัญชีด้วย
1.2 สินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจ - พาณิชย์ธนกิจ (วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม*)
- ธนาคารจะเริ่มคำนวณอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564
โดยครอบคลุมสินเชื่อดังนี้
- สินเชื่อแบบผ่อนชำระเป็นงวดทุกประเภท
- สินเชื่อหมุนเวียนทุกประเภท
- กรณีผิดนัดชำระหนี้ ธนาคารจะคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดตามแนวทางข้างต้น
1.3 สินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจ – บรรษัทธุรกิจและวาณิชธนกิจ (วิสาหกิจขนาดใหญ่*)
- ธนาคารจะเริ่มคำนวณอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2564
โดยครอบคลุมสินเชื่อดังนี้
- สินเชื่อแบบผ่อนชำระเป็นงวดทุกประเภท
- สินเชื่อหมุนเวียนทุกประเภท
- กรณีผิดนัดชำระหนี้ ธนาคารจะคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ โดยธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดที่กำหนดภายใต้สัญญาสินเชื่อต่างๆ ของยอดเงินต้นของค่างวดที่ลูกค้าค้างชำระสำหรับสินเชื่อแบบผ่อนชำระเป็นงวด หรือของยอดเงินต้นที่ค้างชำระทั้งจำนวนสำหรับสินเชื่อหมุนเวียน
2. ลำดับการตัดชำระหนี้แบบแนวนอน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
ลำดับการตัดชำระหนี้แบบแนวนอน หมายถึง ธนาคารจะนำเงินที่ได้รับชำระจากลูกค้า ไปตัดชำระค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย และเงินต้นของยอดค้างชำระที่นานที่สุดก่อน จากนั้นจึงตัดยอดที่ค้างชำระลำดับถัดมา
โดยการตัดชำระหนี้แบบแนวนอนนี้ จะมีผลกับทั้งสินเชื่อรายย่อย และ สินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจ* (หมายรวมถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจขนาดใหญ่)
* หมายเหตุ ธนาคารได้จัดกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจซึ่งเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือวิสาหกิจขนาดใหญ่ ตามแนวทางการจัดกลุ่มลูกค้าภายในของธนาคาร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับลูกค้ารายย่อย ติดต่อ CIMB Thai Care Center โทร.02-626-7777 ทุกวัน เวลา 07:00 น. – 19:00 น. สำหรับลูกค้าพาณิชย์ธนกิจ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บรรษัทธุรกิจและวาณิชธนกิจ (วิสาหกิจขนาดใหญ่) ติดต่อเจ้าหน้าที่ขายที่ดูแล
หรือลูกค้าสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของการคำนวณอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ตามแนวทางใหม่และลำดับการตัดชำระหนี้แบบแนวนอนได้ที่ https://www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/2020/Pages/n7463.aspx