คุณอยู่ที่

  • ทำไมต้อง CIMB Preferred
  • บริการเพื่อความมั่งคั่ง
  • มุมมองเศรษฐกิจ
  • วิธีการเข้าร่วมเป็น CIMB Preferred
  • บริการช่วยเหลือสำหรับคุณ
  • ลิงค์ด่วน
CIMB Rewards Program
โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษสำหรับคุณโดยเฉพาะ
ค้นหาระดับความเสี่ยงในการลงทุนของคุณ
บริการทางการเงินและการลงทุน
คำแนะนำการลงทุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญ
อัปเดตภาวะตลาด

01 Apr 2024

อัปเดตภาวะตลาดการเงิน และกลยุทธ์การลงทุนประจำเดือน

วันที่ท้องฟ้าเริ่มสดใส

 

ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอยู่ในระดับปานกลาง การบริโภคในสหรัฐฯ ชะลอตัวลงตั้งแต่ต้นปี 2024 เช่นเดียวกับตลาดแรงงานที่เริ่มชะลอตัวในเดือนกุมภาพันธ์หลังการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมา 2 เดือนติดต่อกัน ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) สหรัฐฯ อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเวลา 15 เดือนติดต่อกัน  เป็นไปตามภาพของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เิร่มชะลอลงในลักษณะ Soft-Landing อันเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจจีนมีสัญญาณฟื้นตัวหลังจากการกระตุ้นเศรษฐกิจมาหลายครั้ง  ภาคการผลิตและการลงทุนของจีนมีการปรับตัวดีขึ้นในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2024  โดยเพิ่มขึ้น 7.0% YTD และ 4.2% YTD ตามลำดับและเป็นการปรับตัวที่สูงกว่าคาดการณ์ของตลาด  นอกจากนี้การค้าปลีกยังเพิ่มขึ้น 5.5% YTD สะท้อนความหวังการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงในปี 2024 ด้านเศรษฐกิจยุโรปกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในในเยอรมันปรับตัวสูงขึ้นในเดือนมีนาคมเป็น 87.8 จาก 85.7 ในเดือนกุมภาพันธ์แรงหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น อีกทั้ง CPI ที่ลดลงในยูโรโซน อาจเปิดช่องให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายน  สำหรับญี่ปุ่น ตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนกุมภาพันธ์นำโดยการสิ่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์เป็นความหวังว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะฟื้นตัวต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม แผนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ในช่วงกลางปีนี้ยังมีความเป็นไปได้ แม้สหรัฐฯ จะเจอกับเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดในช่วงสองเดือนแรก โดยคาดว่าจะเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้งในปีนี้และอาจเห็นมาตรการ QT ออกมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า   อีกด้านหนึ่ง ความคาดหวังต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ลดลง สะท้อนว่า ECB กำลังเปลี่ยนไปสู่จุดยืนที่ผ่อนคลายมากขึ้นหากเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงซึ่งจะเป็นการเปิดประตูสู่การลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน

 

หุ้นโลก:  ฤดูประกาศผลประกอบการกำลังสิ้นสุดลงและภาพออกมาผสมผสาน หุ้น NVIDIA ผู้ได้รับอานิสงค์จากกระแส AI เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของหุ้นกลุ่ม 7 นางฟ้า (รวมไปถึงหุ้น META และ Amazon.com) ที่รายงานผลประกอบการ Q4/2023 ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยรายได้เติบโต 265% YoY และกำไรต่อหุ้น (EPS) เติบโต 769% อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงจากคู่แข่งอย่าง AMD ที่มีชิป MI300X ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่า H100 ของ NVIDIA ในบางด้านรวมถึงผลกระทบที่ยังต้องจับตาจากการสั่งห้ามการขายเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ โดยจีนและบริษัท Cloud รายใหญ่ที่ต้องการพัฒนาชิป Data Center เอง อย่างไรก็ดี กำไรที่เติบโตสูงกว่าคาดการณ์ ทำให้ ณ ปัจจุบัน NASDAQ100 ซื้อขายกันที่ PEG 2.9 เท่า คาดการณ์รายได้ S&P500 ในไตรมาสแรกลดลงเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ ณ ต้นไตรมาส อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบรายปี คาดว่าจะเห็นการเติบโตของกำไรต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สาม คาดการณ์ EPS Growth Q1/2024 ที่  3.4%  น้อยกว่าประมาณการที่ 5.7% ณ ต้นไตรมาส ( 31 ธันวาคม) และน้อยกว่าการเติบโตของกำไรสุทธิไตรมาส 1 เฉลี่ย 5 ปี ที่ 9.5% YoY และ 10 ปีที่ 8.4% YoY

 

เมื่อมองไปข้างหน้า ตลาดคาดการณ์กำไร S&P500 ปี 2024 เติบโต 10.9% YoY หลังจากขึ้นไปแตะระดับสูงสุดใหม่อยู่หลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา โดย Valuation ของ S&P500 มี Forward P/E 12 เดือนที่ 20.9 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี และ 10 ปี ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ไม่แน่นอนและธนาคารกลางสหรัฐฯที่การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังไม่ชัดเจน วัดจาก Forward P/E  ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของทั้ง S&P500 และ NASDAQ100 เทียบกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 1 ปียังคงติดลบ เราแนะนำลงทุนในกองทุนหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ S&P500 ที่มีน้ำหนักหุ้นเท่ากันและกองทุนหุ้นที่มีการจัดการแบบเชิงรุก เนื่องจากให้ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับ S&P500 และ NASDAQ   ด้านอังกฤษ เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่ยูโรโซนรอดพ้นจากภาวะถดถอยมาได้อย่างหวุดหวิด อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับรู้เรื่องนี้แล้ว นอกจากนี้ อังกฤษและยูโรโซนยังมีการปรับเพิ่ม EPS 12 เดือนข้างหน้าที่ 10.99% และ 3.22% ตามลำดับ และในที่สุด NIKKEI225 ก็ขึ้นสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลนับตั้งแต่ภาวะฟองสบู่ปี 1989 ทั้งจากรายได้ของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโต การปรับโครงสร้างองค์กร และการอ่อนค่าของสกุลเงินเยน โดยล่าสุด  BOJ ยกเลิกนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ แต่ตลาดก็รับรู้เรื่องนี้ไปแล้ว ด้านอินเดีย เห็นการไหลเข้าของเงินจากต่างประเทศ ขณะที่นักลงทุนเดิมพันว่านายนเรนทระ โมที จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3 อย่างไรก็ตามการไต่ขึ้นมาของดัชนี NIFTY50 ผลักดัน Forward P/E ไปถึงระดับ 22.8 เท่า สูงกว่าหุ้นสหรัฐฯและจีนถึงสามเท่า  อย่างไรก็ตาม ตลาดเริ่มเห็นความเสี่ยงหลังจาก ก.ล.ต. ของอินเดีย (SEBI) ระบุว่ามีสัญญาณบ่งชี้ถึงถาวะฟองสบู่ในกองทุนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก จีนมีการการเดินทางภายในประเทศกลับมาเกินระดับก่อนเกิดโควิด โดยค่าใช้จ่ายในจีนเพิ่มขึ้น 7.7% และการเดินทางในจีนเพิ่มขึ้น 19% เทียบกับปี 2019 บริษัท Tencent รายงานรายได้ 4Q23 เติบโต 7% YoY และกำไรจากการดำเนินงานเติบโต 44% YoY โดย Dividend per Share เพิ่มขึ้น 43% YoY ในปี 2023 อีกทั้ง จะมีการเพิ่มการซื้อหุ้นคืนเป็น 2 เท่าจากประมาณ 4.9 หมื่นล้านฮ่องกงดอลลาร์ในปี 2023 เป็นมากกว่า  1 แสนล้านฮ่องกงดอลลาร์ในปี 2024

 

หุ้นจีน: นักลงทุนทั่วโลกยอมจำนนกับหุ้นจีนจากการที่กองทุนรวมมีการลดการถือครองหุ้นจีนเหลือเพียง 5% ของพอร์ต แต่ตามทฤษฎีแล้ว นี่เป็นจุดที่หุ้นมีราคาถูกซึ่งอาจสร้างผลตอบแทนที่สูงในระยะถัดไป จากทั้งความคาดหวังของตลาดที่อยู่ในระดับต่ำบวกกับ Valuation ที่อยู่ในสุดน่าสนใจ ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนอาจจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้งในปี 2024 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยปัจจุบัน ดัชนี HSI ซื้อขายที่ P/E 8.74x เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการคาดการณ์การเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ที่ 7.74% และ 8.2% ในปี 2024 และปี 2025 ตามลำดับ แม้ประมาณการกำไรต่อหุ้นของ ดัชนี CSI300 ในระยะสั้นทรงตัว แต่การเติบโตของกำไรต่อหุ้นสำหรับ CY25 และ CY26 นั้นแข็งแกร่งที่ 15.69% และ 13.34% ตามลำดับ  จีนอาจเป็นตลาดหลักที่ได้ประโยชน์หาก Fed ที่เริ่มมีการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ทั้งจาก Valuation ที่น่าสนใจ ขนาดของตลาดที่ใหญ่ และ น้ำหนักการลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำ เมื่อเดือนที่ผ่านมาธนาคารกลางจีน (PBOC) มีการลดอัตราดอกเบี้ย RRR 0.5% ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้เศรษฐกิจราว 1.4 แสนล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย LPR 5 ปี ซึ่งเป็นอัตราที่ใช้สำหรับ อ้างอิงสินเชื่อที่อยู่อาศัย ลง 0.25% จาก 4.2% เหลือ 3.95% ด้านรายได้ขายที่ดินของรัฐบาลในเดือน ม.ค. - ก.พ. ยังทรงตัว โดยรัฐบาลท้องถิ่นได้มีการยกเลิกข้อจำกัดบางประการในกรขายที่ดิน

 

อย่างไรก็ตาม ภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน โดยยอดขายบ้านลดลง 1.4% YoY ในเดือนที่ผ่านมา การที่ราคาอสังหาฯและและราคาหุ้นลดลงเป็นเวลานานเช่นนี้ บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงตามไปด้วย โดยขณะนี้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป ซึ่งตลาดต้องการให้รัฐบาลจีนเข้ามาช่วยผลักดันราคาสินทรัพย์เพื่อให้เงินเฟ้อให้ขยับขึ้น  ทั้งนี้ ผู้กำหนดนโยบายกำลังพิจารณากลไกรักษาเสถียรภาพตลาดหุ้นมูลค่า 2.79 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อหุ้นในประเทศผ่าน Hong Kong Exchange Link ชี้ว่ารัฐบาลจีนก็มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้เศรษฐกิจจีนผ่านเครื่องมือทั้งการเงินและการคลัง

 

สินทรัพย์ทางเลือก: ราคา REITs อ่อนตัวลงเล็กน้อยในช่วงสามเดือนแรกของปี 2024 หลังจา REITs ทำผลงานได้ดีในไตรมาส 4 ปี 2023 เนื่องจากนักลงทุนมีการประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายใหม่อีกครั้งจากข้อมูล CPI สหรัฐฯที่ออกมาแข็งแกร่ง  REIT จะได้รับประโยชน์จากการไหลเข้ามาของเงินจากกองทุนตลาดเงินที่มีอยู่ในปัจจุบันถึง 6 ล้านล้านเหรียญทั่วโลก ที่ได้รับผลตอบแทนมากถึง 5% จากการถือหนี้รัฐบาลสหรัฐฯระยะสั้น หากตลาดเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากนักลงทุนจะต้องแสวงหาโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทน ตลาดเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล - ฮามาสมากขึ้น ซึ่งขยายไปถึง อิหร่าน ปากสถาน เลบานอน ซีเรีย และอิรัก การขนส่งสินค้าและพลังงานในช่องแคบฮอร์มุซ ทะเลแดง และคลองสุเอซที่หากหยุดชะงัก อาจทำให้เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะวิกฤต ค่าใช้จ่ายในการจัดส่งตู้คอนเทนเนอร์ 40 ฟุตจากเอเชียไปยังยุโรปเพิ่มขึ้นจาก 1,500 เหรียญสหรัฐฯก่อนเกิดความขัดแย้งมาอยู่ที่ 3,000-4,000 เหรียญสหรัฐฯ อีกทั้ง ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงดำเนินต่อไปโดยร่างกฎหมายช่วยเหลือยูเครนมูลค่า 6 หมื่นล้านเหรียญยังคงอยู่ในสภาคองเกรส  ทำให้ทองคำยังคงเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่ดีต่อเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์แม้ว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะขยับตัวลงก็ตามเนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจเป็นผลมาจากเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ชะลอตัวลง

 

เรายังคงแนะนําการเพิ่มน้ำหนักการถือครองตราสารหนี้เนื่องจากให้ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงในมุมมองของ Risk Premium ที่น่าสนใจกว่าตราสารทุน โดยเราแนะนําให้นักลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนที่ผสมผสานกลยุทธ์ทั้ง Strategic Asset Allocation (SAA) และ Tactical Asset Allocation (TAA) เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีที่สุดในทุกสถานการณ์ 

 

อรุณ ปาวา

IP, FM, IA, ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ที่ปรึกษาทางการเงิน Investment Strategist

วรัท เนียมสอิ้ง

CISA, Investment Research

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)

 

 

รายละเอียดเพิ่มเติม
คำแนะนำการลงทุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเรา คลิก

คำสงวนสิทธิ์

ข้อมูลคำแนะนำบทวิเคราะห์ การคาดหมาย ความเห็นและ/หรือบทสรุป และการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้จัดทำโดยอาศัยข้อมูลมาจากแหล่งที่ธนาคารเชื่อหรือ ควรเชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือและ/หรือถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ธนาคารมิได้ให้คำยืนยันและไม่รับรองหรือรับประกันถึงความครบถ้วน สมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวและรายละเอียด ที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้แต่อย่างใด ธนาคารตลอดจนบริษัทในเครือและบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน หรือบุคลากรอื่นใด) จึงไม่รับผิดชอบ และไม่มีความรับผิดใด ๆ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมต่อการนำเอาข้อมูล คำแนะนำ บทวิเคราะห์ การคาดหมาย ความเห็นและ/หรือบทสรุปที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใด ๆ โดยที่ ผู้ที่ประสงค์จะนำข้อมูลและรายงานฉบับนี้ไปใช้ต้องยอมรับความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นโดยล าพังด้วยตนเองนอกจากนี้ทั้งนี้ธนาคารสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลง รายงานฉบับนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า แต่ธนาคารมิได้มีหน้าที่ใด ๆ ในการต้องแก้ไขเพิ่มเติมหรือปรับปรุงรายงานฉบับนี้ เมื่อข้อมูลหรือรายละเอียดใด ๆ ที่ ระบุในรายงานฉบับนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าด้วยเหตุใด ตลอดจนไม่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบว่าข้อมูลหรือรายละเอียดที่ปรากฏในรายฉบับนี้เป็นปัจจุบันหรือมีความถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ของข้อมูล คำแนะนำ บทวิเคราะห์การคาดหมาย ความเห็นและ/หรือบทสรุปใด ๆ ที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้โดยห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ตีพิมพ์ทำซ้ำ ลอกเลียนแบบ อ้างอิง แก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือใช้วิธีการใดๆ ก็ตาม เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากธนาคารก่อน ธนาคารตลอดจนบริษัทในเครือและบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง กรรมการ ผู้บริหาร รวมถึงพนักงาน ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบและไม่มีความรับผิดใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการด าเนินงานในอดีต/ ผลการด าเนินงานของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการด าเนินงานในอนาคต การลงทุนในหน่วยลงทุนไม่ใช่การฝากเงิน จึงมีความเสี่ยงจากการลงทุน ซึ่งผู้ลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนแรกเริ่มได้