You Are In

  • Why Us
  • Wealth Solutions
  • Market Perspective
  • How to become CIMB Preferred
  • Help & Support
  • Quicklink
CIMB Rewards Program
Preferred Promotions
Events and Seminars
Know Your Risk Appetite
Wealth Solution Products
2025 Outlook
Monthly Investment
Highlighted Fund
Mutual Fund
Quarterly Outlook
Lifestyle
Structured Debenture
Financial Planning

พันธบัตรรัฐบาล vs หุ้นกู้ เลือกอย่างไร ให้ตอบโจทย์เป้าหมายการเงิน 

 

ตราสารหนี้ (Bond) คือ ตราสารทางการเงินที่ได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเงินกู้ โดยผู้ลงทุนจะมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ และผู้ออกตราสารหนี้จะมีสถานะเป็นลูกหนี้ โดยระหว่างสัญญาจะได้รับดอกเบี้ยเป็นงวด ๆ และเมื่อครบกำหนดจะได้รับเงินต้นคืน 

 

จุดเด่นของการลงทุนในตราสารหนี้ คือได้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากทั่วไป ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับการลงทุนในตราสารทุน

 

ตราสารหนี้สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ พันธบัตร และ หุ้นกู้  ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้ 

 

ผู้ออก

 

พันธบัตรรัฐบาล: ออกโดยรัฐบาลหรือหน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวงการคลัง หรือธนาคารแห่งประเทศไทย

หุ้นกู้: ออกโดยบริษัทเอกชน 

 

ความเสี่ยง 

 

พันธบัตรรัฐบาล: ต่ำกว่า เพราะค้ำประกันโดยรัฐบาล

หุ้นกู้: สูงกว่า เพราะมีความเสี่ยงเฉพาะกิจการ ส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้

 

ผลตอบแทน 

 

พันธบัตรรัฐบาล: น้อยกว่า เทียบกับหุ้นกู้ที่อายุคงเหลือเท่ากัน แต่สบายใจมากกว่าในการลงทุนพันธบัตรระยะยาว 

หุ้นกู้: สูงกว่าพันธบัตรและการฝากเงิน เพื่อชดเชยความเสี่ยง 

 

สภาพคล่อง

 

ทั้งพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้มีสภาพคล่องที่ดีขึ้นในปัจจุบันจากตลาดรอง ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือตราสารหนี้ผ่านตลาดรองได้

 

 

สรุปจุดเด่นสำคัญ และ ข้อควรรู้ 

 

จุดเด่นที่สำคัญของการลงทุนในพันธบัตร

 

  1. ความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากออกโดยรัฐบบาล หรือมีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ค้ำประกัน โอกาสผิดชำระหนี้ต่ำ ความปลอดภัยสูง
  2. ผลตอบแทนคงที่ สามารถวางแผงการเงินระยะยาวได้ และรักษาเงินต้นไว้ได้แม้ในสถานการณ์การลงทุนที่ความไม่แน่นอนสูง 
  3. เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำ นักลงทุนที่มีสัดส่วนหุ้นกู้บริษัทเอกชนในสัดส่วนที่สูง สามารถลงทุนในพันธบัตรเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ทการลงทุนได้ 

 

ข้อจำกัด/ความเสี่ยง ของการลงทุนในพันธบัตร 

 

  1. ผลตอบแทนคาดหวังต่ำกว่าเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ อย่างหุ้นกู้ กองทุนรวม หุ้น ทำให้ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติบโตของเงินต้นในระยะยาว อาจไม่เหมาะกับเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการผลตอบแทนสูง 
  2. ความเสี่ยงเงินเฟ้อกัดกินผลตอบแทน หากอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อในบางวัฏจักรเศรษฐกิจ
  3. ในกรณีที่มีการขายคืนในตลาดรอง นักลงทุนมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาตลาด

 

 

จุดเด่นที่สำคัญของการลงทุนในหุ้นกู้ 

 

  1. ผลตอบแทนคาดหวังชัดเจนต่างจากการลงทุนในหุ้น
  2. เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้ประจำ ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ
  3. เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อความผันผวนของการเปลี่ยนแปลงของราคา 

 

 

ข้อจำกัด/ความเสี่ยง ของการลงทุนในหุ้นกู้

 

  1. ในกรณีที่มีการขายคืนในตลาดรอง นักลงทุนมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาตลาด
  2. ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด มีความเสี่ยงที่บริษัทผิดชำระหนี้หรือล้มละลาย เสี่ยงต่อการสูญเสียเงินต้น 

 

 

เตรียมพร้อม!! พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่น 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.65% ต่อปี

 

เปิดจองซื้อ 13-15 พ.ค. นี้

 

 

ช่องทางการจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์

 

● ผ่านธนาคารธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา

● กดผ่าน CIMB THAI Application

 

นักลงทุนที่สนใจสามารถติดต่อเพื่อขอคำแนะนำการลงทุน หรือ ขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่

  • ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา
  • CIMB THAI Care Center โทร. 02 626 7777
  • LINE  Wealth & Preferred 

 

คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (พันธบัตรรัฐบาล) เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

 

เรียบเรียงโดย Wealth Advisory by CIMB THAI Bank

 

ตรวจสอบข้อมูลโดย คุณจิรไพบูลย์ รัตนภาณุรักษ์ (IP, FM, IA) ผู้อำนวยการที่ปรึกษาทางการเงิน Investment Strategist ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)