Markets
ปรับตัวลงหลังแตะระดับ 6,300 จุด ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นจากข่าวแผนกลับมาขายชิปให้จีน
- พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ฯ (UST)
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงอย่างต่อเนื่องโดยพันธบัตรอายุ 10 ปีและ 30 ปี ปรับขึ้นไปที่ 4.5% และ 5% ตามลำดับ
ฟื้นตัวมาที่ราว 98.5 จุด หลังนักลงทุนปรับลดความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ครั้งหน้า
US/Europe
|
อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 0.3% MoM และ 2.7% YoY บ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านต้นทุนอาจกระทบผู้บริโภคเมื่อภาษีนำเข้าเริ่มซึมผ่านเข้าสู่ราคาสินค้า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯผ่านกฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ “Genius Act” “Anti-CBDC Surveillance State Act” และ “Digital Asset Market Clarity Act” เพื่อกำกับดูแลนวัตกรรมและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
สรุปรายการมาตรการตอบโต้ที่อาจใช้กับสินค้าสหรัฐ ฯ เพื่อตอบโต้มาตรการเก็บภาษีของสหรัฐ ฯ
GDP ของสหราชอาณาจักรลดลง 0.1% MoM ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 3.6% YoY ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งปี
Asia/Australia
GDP จีนในไตรมาส 2 ชะลอลงเหลือ 5.2% YoY โดยการส่งออกสินค้าเร่งตัวขึ้น ขณะที่ยอดขายปลีกชะลอตัวลง
GDP สิงคโปร์ไตรมาส 2 ขยายตัว 4.2% YoY สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากภาคการผลิตและภาคบริการที่แข็งแกร่งขึ้น
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมมาเลเซีย (IPI) เดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 0.3% YoY ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก
ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 5.25% พร้อมส่งสัญญาณว่ายังมีช่องทางผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมได้
______________________________________________________________________________
Insights from CIMB Thai Investment Strategists
ภาพรวมการลงทุนทั่วโลกในสัปดาห์นี้พลิกกลับมาสดใสอย่างมีนัยสำคัญ บรรยากาศการลงทุนเข้าสู่ภาวะตลาดกระทิงอย่างเต็มตัว โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกหลายด้านที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ตั้งแต่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ ฯ ที่ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ไปจนถึงความคาดหวังเชิงบวกต่อทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักทั่วโลกที่ชัดเจนขึ้น สิ่งเหล่านี้ได้ช่วยผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่เคยกดดันตลาดก่อนหน้านี้ และจุดประกายให้นักลงทุนกล้าที่จะกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้จึงเป็นการปรับพอร์ตเพื่อรับโอกาสจากแนวโน้มตลาดขาขึ้นที่จะยังคงดำเนินต่อไป โดยเน้นกระจายความเสี่ยงผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในตลาดหุ้นหลักทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ ฯ ยุโรป หรือตลาดในเอเชียที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น อินเดียและเวียดนาม
|
|