พลิกเกมยุคผันผวน! เปลี่ยนความเสี่ยงเป็นกระแสเงินสด
สายตาของนักลงทุนทั่วโลกกำลังจับจ้องไปที่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในปี 2025 เมื่อการกลับมาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจไม่เพียงสร้างความไม่แน่นอนทางนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ แต่ยังส่งสัญญาณถึงความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการคลังที่อาจส่งแรงสั่นสะเทือนไปยังตลาดทุนทั่วโลก
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เองก็กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างภาวะเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังไม่คลี่คลาย ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ความผันผวนของตลาดมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
คำถามสำคัญสำหรับนักลงทุนชาวไทยคือ เราจะรับมือกับความไม่แน่นอนและเปลี่ยนความผันผวนให้เป็นโอกาสได้อย่างไร?
ในบทความก่อนหน้า รู้จัก JEPI นวัตกรรมการลงทุนระดับโลกจาก J.P. Morgan เราได้ทำความรู้จักกับ JEPI กันไปแล้ว โดยได้เห็นถึงกลยุทธ์หลักที่ใช้ในการสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกหุ้นคุณภาพสูง และการใช้เครื่องมือ Options ในรูปแบบ Covered Call เพื่อเก็บค่า Premium เพิ่มเติมเป็นกระแสเงินสดสำหรับจ่ายปันผล ทั้งยังได้กล่าวถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
หนึ่งในสิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบก็คือ ยิ่งตลาดผันผวนมากเท่าไร ราคาของ Options ที่กองทุนขายออกมาก็ยิ่งสูงขึ้นตามความผันผวน นี้จึงกลายเป็นเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ของ JEPI
หลักการนี้เปรียบได้กับการขายประกันความเสี่ยง เมื่อตลาดมีความผันผวนสูง ผู้ลงทุนส่วนใหญ่มักต้องการซื้อ Options เพื่อป้องกันความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้ความต้องการซื้อ Options เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคา Options ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย JEPI จึงสามารถขาย Options ได้ในราคาที่สูงขึ้น และนำรายได้ส่วนนี้มาจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุน
โดยทั่วไป กลยุทธ์การขาย Options ในรูปแบบ Covered Call ที่ JEPI ใช้ สามารถสร้างรายได้ให้กองทุนประมาณ 5-8% ต่อปี และนำมาจ่ายปันผลแบบรายเดือน เมื่อรวมกับเงินปันผลจากหุ้นที่กองทุนถืออยู่อีกประมาณ 1-2% ต่อปี ทำให้สามารถจ่ายปันผลได้ประมาณ 7-9% ต่อปี ในสกุลเงินดอลลาร์
แต่ในภาวะที่ตลาดผันผวนอย่างเช่นปี 2022 ความผันผวนที่สูงขึ้นทำให้ราคาของ Options ปรับตัวสูงยิ่งกว่าเดิม กองทุนจึงสามารถสร้างรายได้มากขึ้น ส่งผลทำให้กองทุนสามารถจ่ายปันผลให้นักลงทุนได้สูงถึงประมาณ 10 - 11% ต่อปี สะท้อนถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์ที่สามารถเปลี่ยนความผันผวนให้กลายเป็นโอกาสสร้างรายได้ที่มากขึ้นในช่วงที่ตลาดเผชิญความผันผวนที่สูงขึ้น
นอกเหนือจากรายได้จากการขาย Options แล้ว JEPI ยังโดดเด่นด้วยการมุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงที่คัดเลือกโดยทีมผู้จัดการกองทุนของ J.P. Morgan พร้อมทั้งมีรูปแบบการจัดพอร์ตการลงทุนในรูปแบบ Defensive ซึ่งช่วยรับมือกับความผันผวนได้ดีขึ้น
ประสิทธิภาพของกลยุทธ์นี้ได้รับการพิสูจน์ในปี 2022 เมื่อดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงถึง -18.11% แต่ JEPI กลับขาดทุนเพียง -3.53% และยังคงรักษาการจ่ายเงินปันผลรายเดือนได้อย่างต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนแม้ในช่วงที่ตลาดผันผวน
JEPI คือทางเลือกการลงทุนที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้มองหารายได้สม่ำเสมอ พร้อมความเสี่ยงที่บริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม กองทุนนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการรับเงินปันผลประจำ หรือผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่รับความเสี่ยงได้ไม่สูง อีกทั้งยังเป็นทางเลือกที่มอบผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าเงินฝาก
ในยุคที่ความไม่แน่นอนกลายเป็นความแน่นอน การมีเครื่องมือที่ช่วยเปลี่ยนความผันผวนให้เป็นโอกาสอย่าง JEPI จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยกลยุทธ์ที่ผสมผสานระหว่างการลงทุนในหุ้นคุณภาพและการใช้ Options อย่างชาญฉลาด JEPI จึงไม่เพียงช่วยสร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอ แต่ยังช่วยปกป้องพอร์ตจากความผันผวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าพิจารณาสำหรับการลงทุนระยะยาว
ข่าวดีสำหรับนักลงทุนไทย! ขณะนี้มีกองทุน MUSPIN-H และ MUSPIN-UH เป็น IPO เปิดใหม่ ที่มี JPM US Equity Premium Income Active UCTITS ETF (JEPI UCITS) เป็นกองแม่ซึ่งมีกลยุทธ์การลงทุนแบบเดียวกับ JEPI สำหรับ Non-US investors ถือเป็นโอกาสที่นักลงทุนไทยจะสามารถเข้าถึงกลยุทธ์การลงทุนระดับโลกนี้ได้อย่างสะดวก
