คุณอยู่ที่

  • ทำไมต้อง CIMB Preferred
  • บริการเพื่อความมั่งคั่ง
  • บทความ
  • วิธีการเข้าร่วมเป็น CIMB Preferred
  • บริการช่วยเหลือสำหรับคุณ
  • ลิงค์ด่วน
CIMB Rewards Program
โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษสำหรับคุณโดยเฉพาะ
กิจกรรมและสัมมนา
ค้นหาระดับความเสี่ยงในการลงทุนของคุณ
บริการทางการเงินและการลงทุน
2025 Outlook
มุมมองการลงทุนประจำเดือน
กองทุนแนะนำ
กองทุนรวม (Mutual Fund)
มุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนรายไตรมาส
Lifestyle
Structured Debenture
วางแผนทางการเงิน

CIMB Investment Outlook: Navigating Thailand's Economy and Financial Market in the Trump Era

 

CIMB Preferred จัดงานสัมมนา CIMB Investment Outlook: Navigating Thailand's Economy and Financial Market in the Trump Era ณ​ โรงแรม The St. Regis Bangkok เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญการลงทุนจาก ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และทาง CIMB Group อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญการลงทุนจากหลากหลาย บลจ. ทั้ง Eastspring,  SCBAM และ MFC เข้ามาร่วมให้มุมมองการลงทุนแก่ลูกค้า CIMB Preferred ในครั้งนี้

 

Global Economic Update Y2025

 

ดร. อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มองนโยบายการค้าของทรัมป์อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย โดย IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังเติบโตที่ 2% และจีนขยายตัวต่ำกว่า 5% ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีแนวโน้มขาดดุลการค้ามากขึ้น แม้การขาดดุลกับจีนจะลดลงจาก 40% เหลือ 20% แต่กลับเพิ่มขึ้นกับประเทศอื่น รวมถึงไทยที่มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน เนื่องจากประเทศไทยเองมีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ในอันดับที่ 11 ในด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวและเงินเฟ้ออยู่ที่ 3% ส่งผลให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเผชิญแรงกดดัน สำหรับเศรษฐกิจไทย แม้ในไตรมาสแรกของปี 2025 จะเติบโต 3% แต่คาดว่าครึ่งปีหลังจะชะลอลงเหลือ 2% โดยผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์อาจเห็นได้ชัดขึ้นในไตรมาสถัดไป และมีแนวโน้มว่าอัตราดอกเบี้ยไทยจะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แม้ด้านการส่งออกในช่วงต้นปี 2025 จะเร่งตัวขึ้นจากแรงผลักดันให้ส่งออกก่อนที่ความตึงเครียดทางการค้าจะรุนแรงขึ้น แต่ในระยะถัดไปอาจเผชิญความเสี่ยงจากสงครามค่าเงิน ทั้งนี้ ทรัมป์มีแนวโน้มใช้นโยบายที่ชะลอโลกาภิวัตน์ (pause globalization) ส่งเสริมการนำอุตสาหกรรมกลับประเทศ (reverse reshoring) ใช้นโยบายการคลังแบบเป็นกลาง (neutral fiscal spending) ซึ่งอาจทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น และผลักดันให้ค่าเงินอ่อนค่าลงเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางการค้า (drive for devaluation)

 

Investment Opportunity & Market Outlook

 

คุณ Patrick Chang, Regional CIO, CIO Office CIMB Group กล่าวถึงภาพรวมตลาดการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังการขึ้นดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี Donald Trump ที่ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "Trump 2.0" ซึ่งสร้างความผันผวนและความไม่แน่นอนในตลาดการลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ จีน และยุโรป คุณ Patrick เน้นย้ำว่าความสามารถในการปรับตัว และความคล่องตัว คือปัจจัยสำคัญสำหรับนักลงทุนในปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดพอร์ตการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงในตลาดพัฒนาแล้ว รวมถึงการลงทุนในตลาดตราสารหนี้และสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ และกลยุทธ์การใช้ Covered Call ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีท่ามกลางภาวะตลาดที่ผันผวน คุณ Patrick มองว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะตลาดหมี แต่เป็นเพียงช่วงของการปรับฐานจากปัจจัยเรื่องภาษีศุลกากร ซึ่งในอนาคตอาจมีการลดภาษีและการผ่อนคลายกฎระเบียบที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาด นอกจากนี้ การลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะ AI ก็ยังคงมีโอกาสเติบโตและเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดสหรัฐฯ ต่อไป  นอกจากนี้ คุณ Patrick ยังกล่าวถึงการฟื้นตัวอย่างน่าสนใจของตลาดจีนหลังจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน และเน้นว่าตลาดยุโรปและอาเซียนอาจมีโอกาสลงทุนที่น่าสนใจ แม้ว่าจะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ เช่น กลุ่ม REITs ในตลาดสิงคโปร์ที่ผลตอบแทนมีความน่าสนใจเป็นต้น โดยรวมแล้ว คุณ Patrick แนะนำให้นักลงทุนคงความหลากหลายและกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน เพื่อรับมือความผันผวนและโอกาสที่เกิดขึ้นในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Finding Opportunities Amid Market Uncertainty

 

คุณยิ่งยง เจียรวุฑฒิ, CFA รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) (Eastspring) กล่าวถึงหลายแง่มุมในชีวิตและแนวทางดำเนินธุรกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ช่วยสะท้อนลักษณะนิสัยของโดนัลล์ทรัมป์ ตั้งแต่ในวัยเยาว์จนถึงยุคที่เขากลายเป็นบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียงในระดับโลกและเมื่อประมาณ 40 ปีก่อน ทรัมป์ได้เขียนหนังสือ “The Art of the Deal” ซึ่งเผยแพร่ศิลปะการต่อรองในธุรกิจรับเหมาและโครงการสร้างคาสิโนที่แอตแลนติกซิตี้ แม้โครงการดังกล่าวจะประสบปัญหาด้านการเงินและการหาผู้ร่วมทุน แต่เขาก็สามารถดึง Holiday Inn มาเป็นผู้ร่วมทุนได้ด้วยการสร้างภาพลักษณ์ให้ไซต์ก่อสร้างดูคึกคักเพื่อสร้างความประทับใจแก่นักลงทุน ผลงานในหนังสือสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นนักเจรจาที่เฉียบแหลมและความสามารถในการดึงดูดความสนใจจากสาธารณชน ในช่วง 10 ปีที่แล้ว รายการเรียลลิตี้โชว์ “The Apprentice” ของทรัมป์ได้รับความนิยมสูงจากเรตติ้งทีวีและได้รับรางวัลเอมมี่ ทำให้เขากลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จในวงการสื่อ ด้านนโยบายการค้าในปัจจุบันของทรัมป์คาดว่าจะเป็นการ “ขู่” คู่ค้า ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าและตอบโต้แบบ “ถ้าคุณทำ ผมก็จะทำ” ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดโลก นโยบาย “Inflationary” เช่น การลดภาษี การเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐและการควบคุมคนเข้าเมืองอาจสร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจและนำไปสู่เงินเฟ้อในอนาคต แม้จะมีความผันผวน แต่ในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยแนวทางการลงทุนในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้าที่แนะนำแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ หุ้นเอเชีย หุ้นเติบโต ตราสารหนี้สหรัฐฯ และหุ้นกลุ่ม Defensive เช่น กลุ่มสุขภาพ “ทรัมป์ไม่เพียงแต่แสดงถึงความเป็นนักเจรจาที่ชาญฉลาด แต่ยังเป็นนักสร้างภาพลักษณ์ที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจและนโยบายการค้าระดับโลก ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัวและสร้างโอกาสในตลาดที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง” คุณยิ่งยงกล่าว

 

Panel Discussion: How to Invest in Market Volatility in Trump Era

 

คุณเชาวน์กร โชติบัณฑ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC): การกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์อาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนมากขึ้น นักลงทุนจึงควรเตรียมกลยุทธ์รับมือ เช่น buy on dip โดยประเมินจากปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนที่ยังแข็งแกร่งของสหรัฐฯ เช่น GDP ที่เติบโต 2% ตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาดี และการบริโภคที่ยังขยายตัว ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้เผชิญความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าและการเงิน แนะนำกองทุน MFC US Equity Premium Income Fund : MUSPIN-H/UH เป็นกองทุนลงทุนในกองทุนหลักที่บริหารโดย J.P. Morgan ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ โดยมีการกระจายความเสี่ยงและคัดเลือกด้วยสไตล์ Defensive พร้อมทั้งมีการใช้กลยุทธ์ Covered Call ควบคู่ เพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนของผลตอบแทนรวมไปพร้อม ๆ กันซึ่งช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม ในช่วงที่ภาวะการลงทุนมีความผันผวน

 

คุณยิ่งยง เจียรวุฑฒิ, CFA รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) (Eastspring): สงครามการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์คือ “very loud noise” สิ่งเหล่านี้คือการสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับสังคมอเมริกา เรากำลังเข้าสู่การ “Protectionism, Standalone and Unwind Globalization” แต่มุมมองของเราสหรัฐฯ ก็ยังคงต้องพึ่งพาภาคการผลิตของจีนอยู่และในช่วง 5 ปีต่อจากนี้สหรัฐฯก็จะยังคงเป็นประเทศผู้นำของโลก ด้าน EM มีมูลค่าหุ้นที่ถูกและมีความน่าสนใจ แนะนำกองทุน ES-GQG ซึ่งลงทุนในกองทุนหลักที่บริหารโดย Wellington เน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีคุณภาพและศักยภาพในการเติบโตระยะยาวจากกระแสเงินสดอิสระที่แข็งแกร่ง และกองทุน ES-USBLUECHIP ซึ่งลงทุนในกองทุนหลักที่บริหารโดย T. Rowe Price เน้นลงทุนในหุ้นสหรัฐฯขนาดใหญ่และขนาดกลาง ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี แบบ “High Conviction” โดยทั้งสองกลยุทธ์ที่แนะนำจะตอบโจทย์การเก็บเกี่ยวโอกาสการลงทุนในช่วงที่มีความผันผวน

 

คุณปิยะภัทร์ ภัทรภูวดล, FRM ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM): แนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ แต่ปีนี้คาดว่าจะเห็นการกระจายการลงทุนมากขึ้น นักลงทุนอาจลดสัดส่วนในหุ้น Mag7 และหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ไปสู่หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง รวมถึงนโยบายการปรับลดภาษีที่อาจจะเกิดขึ้น แนะนำกองทุน SCBRS2000(A) ลงทุนในหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ ผ่านดัชนี Russell 2000 ETF ทั้งนี้ แรงหนุนจากแนวโน้มการเติบโตของกำไรต่อหุ้นของกลุ่ม Russell2000 ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี สำหรับภาวะการลงทุนที่มีแนวโน้มที่มีความผันผวนสูงขึ้น กองทุนที่เน้นความผันผวนต่ำอย่าง SCBLEQA ซึ่งลงทุนในกองทุนหลักที่บริหารโดย Alliance Bernstein ที่เน้นกลยุทธ์ลงทุนหุ้นโดยมีเป้าหมายที่จะจำกัดความความผันผวน หรือ Low Volatility Strategy ซึ่งมีความสามารถในการจำกัดขาดทุนได้ดีในช่วงที่ภาวะการลงทุนมีความผันผวน

 

Q&A จาก กูรู

 

1.ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะฟื้นกลับมาไหม มีปัจจัยอะไร?

 

ตลาดหุ้นไทยยังมีสภาพคล่องสูง แม้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตช้า ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ได้สะท้อนเข้าสู่ตลาดไปแล้ว มุมมองขาลงเพิ่มเติมมีจำกัด เนื่องจากระดับราคาหุ้นปัจจุบันปรับตัวรับปัจจัยลบไปแล้วบางส่วน อย่างไรก็ตาม ทิศทางตลาดยังขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกและนโยบายเศรษฐกิจในประเทศเป็นสำคัญ

 

2.ระหว่าง MUSPIN-H กับ MUSPIN-UH ควรเลือกลงทุน class ไหนดี?

 

ปัจจุบันการลงทุนใน Class Unhedged น่าสนใจ เนื่องจากต้นทุนการทำ Currency Hedging อยู่ที่ 2-3% ต่อปี ขณะที่กองทุนหลักให้ผลตอบแทนคาดการณ์ที่ 7-9% ต่อปี หักค่าธรรมเนียมกองทุนไทย 1% จะเหลือ 6-8% หากเลือก Hedge ค่าเงิน จะทำให้ผลตอบแทนลดลงอีก 2-3% และปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในช่วง 33-34 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งยังไม่เสียเปรียบมากนัก แต่หากเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 35 บาทต่อดอลลาร์ การลงทุนแบบ Hedged อาจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยขึ้น

 

3.หุ้นโลกและหุ้น US แพงแล้วหรือยัง และควรเข้าลงทุนเลยไหม?

 

การกระจายการลงทุนไปในหลากหลายสินทรัพย์เป็นวิธีที่ดีในการลดความเสี่ยง โดยเฉพาะการทยอยเข้าลงทุนในหุ้นโลก ซึ่งจะช่วยให้สามารถจับจังหวะตลาดได้ดีกว่าและลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดในระยะสั้น

 

4.หุ้น Russell small cap ควรมีในสัดส่วนที่เท่าไร

 

เนื่องจากหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กมีความผันผวนสูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่ จึงควรกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ไม่เกิน 5-10% ของพอร์ตการลงทุน เพื่อให้สามารถรับมือกับความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม

 

5.การประชุมเฟดครั้งหน้าถ้าเฟดไม่ลดอัตราดอกเบี้ย กนง.มีโอกาสจะลดไหม

 

หากการประชุมของเฟดครั้งหน้าไม่ลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจสะท้อนถึงการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในขณะนี้ ก็ยังคงมีความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยอาจพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณการชะลอตัวหรือเผชิญกับปัจจัยกดดันจากภายนอก โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ กนง. มักจะตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศและการพิจารณาของตลาดโลก อย่างไรก็ตามการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงนั้น

Event Highlight

 

 

นักลงทุนที่สนใจสามารถติดต่อเพื่อขอคำแนะนำการลงทุน หรือ ขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่

  • ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา
  • CIMB THAI Care Center โทร. 02 626 7777
  • LINE Wealth & Preferred

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยงและขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน