คุณอยู่ที่

  • ทำไมต้อง CIMB Preferred
  • บริการเพื่อความมั่งคั่ง
  • บทความ
  • วิธีการเข้าร่วมเป็น CIMB Preferred
  • บริการช่วยเหลือสำหรับคุณ
  • ลิงค์ด่วน
CIMB Rewards Program
โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษสำหรับคุณโดยเฉพาะ
กิจกรรมและสัมมนา
ค้นหาระดับความเสี่ยงในการลงทุนของคุณ
บริการทางการเงินและการลงทุน
2025 Outlook
มุมมองการลงทุนประจำเดือน
กองทุนแนะนำ
กองทุนรวม (Mutual Fund)
มุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนรายไตรมาส
Lifestyle
Structured Debenture
วางแผนทางการเงิน

อัพเดทล่าสุด! ปี 2568 ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีอะไรได้บ้าง?

 

 

ข้อควรระวังเมื่อลงทุนในกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี

 

แม้กองทุนที่ให้สิทธิลดหย่อนภาษีจะมีข้อดีด้านภาษี แต่การลงทุนมากเกินไปอาจมีข้อเสียที่ควรพิจารณาดังนี้

 

●       กระทบเป้าหมายทางการเงินอื่น
การนำเงินไปลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีมากเกินไป อาจทำให้คุณขาดสภาพคล่องสำหรับเป้าหมายระยะสั้นที่สำคัญกว่า เช่น ซื้อบ้าน แต่งงาน หรือเตรียมเงินสำรองยามฉุกเฉิน

●       ส่วนที่ซื้อเกินสิทธิลดหย่อนภาษีไม่ได้ อีกทั้งกำไรยังต้องเสียภาษี
สิ่งที่ต้องระวังจากการลงทุนเกินสิทธิลดหย่อนภาษี เพราะนอกจากวงเงินที่ซื้อเกินจะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้แล้ว  กำไรของส่วนที่ไม่ได้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ยังต้องเสียภาษีอีกด้วย ดังนั้น การซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีมากเกินสิทธิ อาจ ทำให้ยุ่งยากในการยื่นภาษีในอนาคต

 

●       สิทธิประโยชน์ทางภาษีอาจไม่คุ้มค่า
สำหรับผู้มีรายได้ไม่สูง หรืออยู่ในช่วงฐานภาษีต่ำ (5%–10%) การลงทุนเพื่อหวังลดหย่อนภาษีอาจช่วยประหยัดภาษีได้เพียงเล็กน้อย เช่น ลงทุน 100,000 บาท อาจลดภาษีได้แค่ 5,000–10,000 บาท แต่ต้องแลกกับการล็อกเงินไว้หลายปี

 

แนวทางการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ซ้ำซ้อน 

●       วางแผนล่วงหน้าอย่างรอบคอบ
พิจารณาจากฐานเงินเดือนและสิทธิลดหย่อนสูงสุดของกองทุนแต่ละประเภทเพื่อป้องกันการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีมากเกินไปและเกินสิทธิที่สามารถนำไปลดหย่อนได้ หากกองทุนประเภทไหนลงทุนเกินสิทธิแล้ว ควรพิจารณากระจายไปกองทุนลดหย่อนภาษีอีกประเภทหนึ่งแทนเพื่อรักษาสิทธิลดหย่อนภาษี

●       ตรวจสอบสิทธิ์ LTF เดิม
หากยังถือ LTF อย่าลืมตรวจสอบและพิจารณาย้ายมาลงทุนใน Thai ESGX ภายใน 30 มิ.ย. 2568 เพื่อรับสิทธิลดหย่อนต่อเนื่องโดยไม่พลาดโอกาส

●       ใช้สิทธิ Thai ESGX ก่อน Thai ESG
หากมีเงินลงทุนใหม่ในปี 2568 ควรใช้ Thai ESGX ก่อน เพราะเป็นสิทธิพิเศษเฉพาะปีนี้

●       ตรวจสอบนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และเงื่อนไข
เพื่อเลือกกองทุนที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืน ไม่ควรเลือกเพียงเพราะต้องการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเท่านั้น ควรตรวจสอบว่ากองทุนที่เราจะลงทุนมีนโยบายการลงทุนอย่างไร อยู่ในระดับความเสี่ยงที่เราสามารถรับได้หรือไม่ และอย่าลืมเงื่อนไขการถือครอง RMF ต้องถืออย่างน้อย 5 ปีเต็ม และจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ Thai ESG / Thai ESGX ต้องถือครบ 5 ปี นับแบบวันชนวันจากวันที่ลงทุน 

●       ทยอยลงทุนตลอดปี (DCA)
การลงทุนแบบสม่ำเสมอทุกเดือนช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด และสร้างวินัยในการออมมากกว่าการลงทุนก้อนใหญ่ช่วงปลายปี

ทั้งนี้ แนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อความมั่นใจ เพื่อให้ได้ทั้งสิทธิประโยชน์ทางภาษีและโอกาสเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว 

 

FAQ : สรุปคำถาม – คำตอบ การลงทุน Thai ESGX

 

 

 

คำเตือน

 

  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนด้วย
  • ข้อมูลนี้จัดทำโดยอาศัยแหล่งที่มาจากแหล่งข้อมูลสาธารณะซึ่งปรากฏขณะจัดทำ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละขณะ

 

 

นักลงทุนที่สนใจสามารถติดต่อเพื่อขอคำแนะนำการลงทุน หรือ ขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่

  • ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา
  • CIMB THAI Care Center โทร. 02 626 7777
  • LINE  Wealth & Preferred

 

 

เรียบเรียงโดย Wealth Advisory by CIMB THAI Bank

 

ตรวจสอบข้อมูลโดย คุณจิรไพบูลย์ รัตนภาณุรักษ์ (IP, FM, IA) ผู้อำนวยการที่ปรึกษาทางการเงิน Investment Strategist ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)