Update: ทาคาอิจิ ซานาเอะ “Iron Lady แห่งญี่ปุ่น” ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก
ญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่บทใหม่ทางการเมือง เมื่อพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) เลือก ทาคาอิจิ ซานาเอะ เป็นหัวหน้าพรรคและเตรียมขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ของประเทศในวันที่ 15 ตุลาคม ชัยชนะของเธอไม่เพียงสร้างประวัติศาสตร์ด้านเพศ แต่ยังสะท้อนแนวโน้มการหันขวาทางการเมืองในญี่ปุ่นยุคใหม่
ทาคาอิจิเติบโตในครอบครัวธรรมดาที่เมืองนารา ก่อนเข้าสู่วงการสื่อและการเมืองในปี 1993 เธอเคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสื่อสาร และ รัฐมนตรีด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดของอดีตนายกรัฐมนตรี Shinzo Abe และยึดแนวคิดแบบ Margaret Thatcher จึงได้รับฉายา “Iron Lady แห่งญี่ปุ่น” เธอสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจแบบ Abenomics การใช้จ่ายภาครัฐ ดอกเบี้ยต่ำ และการเสริมกำลังทหาร
แม้จะเป็นผู้นำหญิง ทาคาอิจิไม่เน้นประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ และมักถูกจับตามองเรื่องมุมมองทางประวัติศาสตร์ต่อสงครามโลกครั้งที่ 2 การขึ้นสู่อำนาจของเธอเกิดขึ้นท่ามกลางความไม่พอใจต่อค่าครองชีพสูง และความแตกแยกภายใน LDP การดึงพรรคไปทางขวาอาจสร้างความตึงเครียดกับพันธมิตร โคเมโตะ (Komeito) และกลุ่มขวาจัด Sanseito
ภารกิจสำคัญของทาคาอิจิคือ ฟื้นพรรคและฟื้นประเทศ ท่ามกลางเงินเฟ้อสูง อัตราดอกเบี้ยขึ้น และหนี้สาธารณะมหาศาล เธอต้องสร้างพันธมิตรใหม่และร่วมมือกับฝ่ายค้าน
ในสุนทรพจน์หลังชนะเลือกตั้ง เธอกล่าวว่า “ฉันจะละทิ้งแนวคิดเรื่อง work-life balance และจะทำงาน ทำงาน และทำงาน เพื่อฟื้นพรรคและประเทศนี้ขึ้นมาอีกครั้ง”
__________________________________________________________________________________________
‘Takaichi Trade’ สัญญาณฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่น
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้นอย่างคึกคักหลังทาคาอิจิชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP ดัชนี Nikkei 225 เพิ่ม 4.5% ขณะที่ค่าเยนอ่อนต่ำกว่า 150 เยนต่อดอลลาร์ สะท้อนความเชื่อมั่นว่าญี่ปุ่นกลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุนอีกครั้ง
ชัยชนะของเธอสร้าง “Takaichi trade” (การซื้อขายอย่างคึกคักในตลาดการเงินยุคทาเกอิจิ) ความเชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะอัดฉีดการใช้จ่ายภาครัฐ รักษานโยบายดอกเบี้ยต่ำ และผลักดันการฟื้นฟูอุตสาหกรรม หุ้นอุตสาหกรรมและป้องกันประเทศพุ่งสูง เช่น Yaskawa Electric +20%, Japan Steel Works +14%, Mitsubishi Heavy Industries +13%
นโยบายของทาคาอิจิเน้นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน อุตสาหกรรม, เทคโนโลยี, พลังงาน พร้อมสร้างความร่วมมือใกล้ชิดกับสหรัฐฯ การอ่อนค่าของเยนช่วยกระตุ้นการส่งออกและเพิ่มความสามารถแข่งขันของประเทศในภาคเทคโนโลยีขั้นสูง
หลังจากหลายปีเงินเฟ้อต่ำและการเติบโตช้า ญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ จุดเปลี่ยน หุ้นและตลาดเงินสะท้อนความเชื่อมั่นว่าประเทศพร้อม ที่จะใช้จ่าย, สร้างสรรค์, และแข่งขัน ‘Takaichi trade’ จึงเป็นสัญลักษณ์ของการกลับมาของญี่ปุ่นในฐานะกำลังสำคัญทั้งในตลาดและเศรษฐกิจโลก
__________________________________________________________________________________________
วิเคราะห์ผลกระทบต่อภาวะการลงทุนในญี่ปุ่น
แนวนโยบายเศรษฐกิจของทาคาอิจิ (“Takaichi Trade”) สืบทอด Abenomics โดยเน้น
กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายภาครัฐขนาดใหญ่และนโยบายการเงินผ่อนคลาย
ลงทุนในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ เช่น AI, เซมิคอนดักเตอร์, เทคโนโลยีชีวภาพ, ความมั่นคง
ลดภาษีเงินได้และแจกเงินสดให้ครัวเรือนเพื่อกระตุ้นการบริโภค
ด้านการลดหนี้ต่อ GDP ทาคาอิจิเลือกแนวทาง “โตให้ได้ก่อน” ใช้การลงทุนภาครัฐในภาคยุทธศาสตร์เพื่อเร่งการเติบโตของ GDP หวังให้สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ลดลงในระยะยาว
__________________________________________________________________________________________
ผลต่อการลงทุนและตลาดการเงิน