คุณอยู่ที่

  • ทำไมต้อง CIMB Preferred
  • บริการเพื่อความมั่งคั่ง
  • มุมมองเศรษฐกิจ
  • วิธีการเข้าร่วมเป็น CIMB Preferred
  • บริการช่วยเหลือสำหรับคุณ
  • ลิงค์ด่วน
CIMB Rewards Program
โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษสำหรับคุณโดยเฉพาะ
ค้นหาระดับความเสี่ยงในการลงทุนของคุณ
บริการทางการเงินและการลงทุน
คำแนะนำการลงทุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญ
อัปเดตภาวะตลาด

01 May 2024

อัปเดตภาวะตลาดการเงิน และกลยุทธ์การลงทุนประจำเดือน

เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้มีการปรับการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 2024 และ 2025 ขึ้น โดยคาดว่าจะขยายตัว 3.2% ซึ่งการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2024 ถูกปรับเพิ่มขึ้น 30 bps เทียบกับคาดการณ์ในเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม การเติบโตดังกล่าวยังคงต่ำกว่าการเติบโตเฉลี่ย ปี 2000-2019 ที่ 3.8%  ตอกย้ำถึงผลกระทบจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดรวมถึงการเติบโตของ productivity เศรษฐกิจที่ต่ำ สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว คาดการณ์การเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 1.6% ในปี 2023 เป็น 1.7% ในปี 2024 และ 1.8% ในปี 2025 โดยคาดการณ์การเติบโตปี 2024 ถูกปรับเพิ่มขึ้น 20 bps สำหรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และกำลังพัฒนา คาดการณ์เศรษฐกิจเติบโตแบบทรงตัวที่ 4.2% ทั้งในปี 2024 และ 2025 และคาดว่าตลาดเกิดใหม่ในฝั่งเอเชียจะโตช้าลง โดยมีปัจจัย เช่น ประเด็นความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ และความสามารถของธนาคารทั่วโลกที่จะพาเศรษฐกิจ “soft landing” เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของ GDP โลกในปีนี้

 

เศรษฐกิจสหรัฐ ฯ ยังคงแข็งแกร่งอย่างน่าแปลกใจ รายงานยอดค้าปลีกในเดือนมีนาคมขยายตัว 0.7%MoM  แม้จะลดลงกว่าในเดือนกุมภาพันธ์ที่ขยายตัว 0.9%MoM นอกจากนี้ IMF ปรับคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐ ฯ เป็น 2.7% ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 60 bps เทียบกับคาดการณ์ครั้งก่อน ซึ่งอัตราเงินเฟ้อที่ยังค้างอยู่ในระดับสูงและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED อาจจะไม่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ด้านยุโรปยังคงดำเนินนโยบายการเงินเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อต่อเนื่อง ตามรายงานของ Eurostat อัตราเงินเฟ้อยุโรปในเดือนมีนาคมชะลอตัวลงจาก 2.6%YoY สู่ 2.4%YoY ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 4 เดือน คาดว่า ECB อาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน และจะดำเนินนโยบาย QT ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024  เช่นเดียวกันกับตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของอังกฤษที่เพิ่มขึ้นเพียง 3.2%YoY  ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2021  ด้านญี่ปุ่น GDP ไตรมาส 4 ปี 2023 ถูกปรับขึ้นเป็นการขยายตัว 0.4% จาก -0.4%  และ GDP ของจีน ขยายตัว 5.3%YoY ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2024 โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนเติบโต 6.1%YoY ไตรมาส 1 ปี 2024 จากการเติบโตที่แข็งแกร่งของการผลิตในอุตสาหกรรม High-Tech ในขณะที่ IMF คาดเศรษฐกิจอินเดียจะเติบโตแซงหน้าญี่ปุ่นได้ในปี 2025 ทำให้อินเดียกลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ขณะที่ธนาคารกลางอินเดียคาดการณ์ว่า real GDP จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 7% ในปี 2024

 

หุ้นโลก: ตลาดเติบโตจากหุ้น 7 นางฟ้าซึ่งคิดเป็น 40% ของผลตอบ S&P500 ตั้งแต่ต้นปี เทียบกับ 60% ในปีก่อน ฤดูประกาศผลประกอบการกำลังเริ่มต้นขึ้นและแม้มีบริษัทเพียง 14% เท่านั้นที่เริ่มประกาศรายงานผลประกอบการออกมา แต่ภาพก็ออกมค่อนข้างผสมผสาน ทุกสายตาจับจ้องไปที่ผลประกอบการของหุ้น Big Tech-AI  ล่าสุด คาดการณ์กำไร ปี 2024 ของ S&P 500 ปรับลดลงจาก 11% ณ สิ้นปี 2023 เป็น 9.2% โดย P/E ย้อนหลัง 12 เดือน ของ S&P500 อยู่ที่  24 เท่าซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 20.9 เท่า โดยธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐที่เน้น wholesale banking และ wealth management อย่างธนาคาร Goldman Sachs และ Morgan Stanley รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากการฟื้นตัวของตลาด  อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นแรงกดดันบน NIM (Net Interest Margin) ที่ชัดในกลุ่มธนาคารที่เกี่ยวข้องกับ consumer banking อย่าง Citigroup, J.P. Morgan และ Wells Fargo จากต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

 

การเติบโตของ EPS ที่รายงานออกมาแล้วรวมกับประมาณการ ไตรมาส 1 ปี 2024 สำหรับ S&P500 ตอนนี้ลดลงเหลือ 0.5%YoY ลดลงจาก 3.4%YoY ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2024 หากการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทที่เหลือเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดจะส่งผลให้ช่องว่างระหว่างผลประกอบการตามที่รายงานจริงในไตรมาสที่ 1 กับคาดการณ์ทั้งปี 2024 เดิมกว้างขึ้นอีกและอาจกระตุ้นให้ตลาดมีการปรับฐาน จากการปรับประมาณการของนักวิเคราะห์ แม้ว่ายังมีบริษัทจำนวนไม่มากที่รายงานผลประกอบการออกมา แต่ 74% มีการรายงาน EPS ออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 77%  แต่เทียบเท่ากับค่าเฉลี่ย 10 ปี  นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังได้ปรับการคาดการณ์กำไรต่อหุ้น YoY ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาสต่อ ๆ ไป เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐ ฯ มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง

 

ในด้านของ NIKKEI225 เจอแรงกดดันจากการถูกเทขายของบริษัทชิป อย่างเช่น Tokyo Electron, Renesas, Advantest เช่นเดียวกับคู่แข่งในสหรัฐ ฯ ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายหุ้นในอินเดียลดลงท่ามกลางการเลือกตั้งที่กำลังเกิดขึ้น โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนเกือบ 1 พันล้านคนและมีวันลงคะแนน 44 วัน โดยพรรค BJP จ่อคว้าชัยชนะ

 

หุ้นจีน:  ข่าวดีในภาคการผลิตส่วนใหญ่ของจีนมาจากอุตสาหกรรม “new three” หรือสามอุตสาหกรรมใหม่ ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ และแบตเตอรี่ อัตราดอกเบี้ยนโยบายทรงตัวและยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 4.7%YoY  ในไตรมาส 1 ปี 2024 อีกทั้ง ความคาดหวังของตลาดต่อหุ้นจีนที่ต่ำบวกกับ valuation ที่อยู่ในระดับน่าสนใจ อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนเห็นการกลับตัวขึ้นหรือเป็นม้ามืดในปี 2024  จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้น ปัจจุบันดัชนี HSI ซื้อขายที่ P/E 8.54 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี โดยมีการคาดการณ์เติบโตของกำไรต่อหุ้นที่ 6.51%YoY ในปี 2024 และ 7.92%YoY  ในปี 2025 ตามลำดับ สำหรับดัชนี CSI300 นักวิเคราะห์มีการปรับคาดการณ์เติบโตของกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 15.64%YoY ในปี 2024 และ 13.66%YOY ในปี 2025 อย่างไรก็ตาม ภาคอสังหา ฯ ยังคงฉุดรั้งเศรษฐกิจจีน ตามข้อมูลของ NBS การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในจีนลดลง 9.5%YoY ในไตรมาส 1 ปี 2024 ขณะที่ยอดขายอสังหา ฯ ใหม่ลดลง 27.6%YoY แม้รัฐบาลท้องถิ่นได้มีการยกเลิกข้อจำกัดบางประการในการขายที่ดิน

 

สินทรัพย์ทางเลือก: ราคาของสินทรัพย์ REITs อ่อนตัวลงเล็กน้อยในช่วงสามเดือนแรกของปี 2024 หลังจากทำผลงานได้ดีในไตรมาส 4 ปี 2023 เนื่องจากนักลงทุนมีการปรับประมาณการช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายใหม่อีกครั้งจากข้อมูล CPI สหรัฐ ฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง โดยกลุ่ม REITs จะได้รับประโยชน์จากการไหลเข้าของเงินจากกองทุนตลาดเงินที่มีอยู่ในปัจจุบันถึง 6 ล้านล้านเหรียญทั่วโลกซึ่งได้รับผลตอบแทนมากถึง 5% จากการถือหนี้รัฐบาลสหรัฐ ฯ ระยะสั้น หากตลาดเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปในทิศทางเดียวกัน สินทรัพย์ REITs และ สินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานจะได้รับประโยชน์ เนื่องจากนักลงทุนจะต้องแสวงหาโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทน

 

ตลาดเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล - ฮามาสมากขึ้น ซึ่งขยายไปถึง อิหร่าน ปากสถาน เลบานอน ซีเรีย และอิรัก   ซึ่งหากการขนส่งสินค้าและพลังงานในช่องแคบฮอร์มุซ ทะเลแดง และคลองสุเอซหยุดชะงักจากประเด็นดังกล่าว อาจทำให้เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะวิกฤต ในช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปกว่า 90 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากอิหร่านตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลในซีเรีย ยิ่งไปกว่านั้น การโจมตีของยูเครนได้ทำลายกำลังการกลั่นน้ำมันของรัสเซียถึง 16%  โดยราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นนี้ อาจส่งผลให้เงินเฟ้อพื้นฐาน CPI ปรับสูงขึ้นในไม่กี่เดือนข้างหน้า

           

เรายังคงแนะนําการเพิ่มน้ำหนักการถือครองตราสารหนี้เมื่อเทียบกับตราสารทุนในกรอบเวลา 6 ถึง 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากให้ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงในมุมมองของ Risk Premium ที่น่าสนใจกว่า โดยเราแนะนําให้นักลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนที่ผสมผสานกลยุทธ์ทั้ง Strategic Asset Allocation (SAA) และ Tactical Asset Allocation (TAA) เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีที่สุดในทุกสถานการณ์

 

อรุณ ปาวา

IP, FM, IA, ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ที่ปรึกษาทางการเงิน Investment Strategist

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)

 

 

รายละเอียดเพิ่มเติม
คำแนะนำการลงทุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเรา คลิก

คำสงวนสิทธิ์

ข้อมูลคำแนะนำบทวิเคราะห์ การคาดหมาย ความเห็นและ/หรือบทสรุป และการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้จัดทำโดยอาศัยข้อมูลมาจากแหล่งที่ธนาคารเชื่อหรือ ควรเชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือและ/หรือถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ธนาคารมิได้ให้คำยืนยันและไม่รับรองหรือรับประกันถึงความครบถ้วน สมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวและรายละเอียด ที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้แต่อย่างใด ธนาคารตลอดจนบริษัทในเครือและบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน หรือบุคลากรอื่นใด) จึงไม่รับผิดชอบ และไม่มีความรับผิดใด ๆ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมต่อการนำเอาข้อมูล คำแนะนำ บทวิเคราะห์ การคาดหมาย ความเห็นและ/หรือบทสรุปที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใด ๆ โดยที่ ผู้ที่ประสงค์จะนำข้อมูลและรายงานฉบับนี้ไปใช้ต้องยอมรับความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นโดยล าพังด้วยตนเองนอกจากนี้ทั้งนี้ธนาคารสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลง รายงานฉบับนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า แต่ธนาคารมิได้มีหน้าที่ใด ๆ ในการต้องแก้ไขเพิ่มเติมหรือปรับปรุงรายงานฉบับนี้ เมื่อข้อมูลหรือรายละเอียดใด ๆ ที่ ระบุในรายงานฉบับนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าด้วยเหตุใด ตลอดจนไม่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบว่าข้อมูลหรือรายละเอียดที่ปรากฏในรายฉบับนี้เป็นปัจจุบันหรือมีความถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ของข้อมูล คำแนะนำ บทวิเคราะห์การคาดหมาย ความเห็นและ/หรือบทสรุปใด ๆ ที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้โดยห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ตีพิมพ์ทำซ้ำ ลอกเลียนแบบ อ้างอิง แก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือใช้วิธีการใดๆ ก็ตาม เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากธนาคารก่อน ธนาคารตลอดจนบริษัทในเครือและบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง กรรมการ ผู้บริหาร รวมถึงพนักงาน ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบและไม่มีความรับผิดใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการด าเนินงานในอดีต/ ผลการด าเนินงานของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการด าเนินงานในอนาคต การลงทุนในหน่วยลงทุนไม่ใช่การฝากเงิน จึงมีความเสี่ยงจากการลงทุน ซึ่งผู้ลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนแรกเริ่มได้