คุณอยู่ที่

  • บทความ
  • ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
  • ช่องทางบริการธนาคาร
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการช่วยเหลือ
  • ลิงก์ด่วน
ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
เกี่ยวกับเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • การกำกับดูแล
  • ทีมผู้บริหาร
  • รางวัล
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • ความยั่งยืน
  • ข่าวและกิจกรรม
Financial Guru
Business Maker
Lifestyle Tips
ลงทุน
บริการโอนเงินระหว่างประเทศ
CIMB THAI Digital Banking
ข่าวและกิจกรรม

คุณลักษณะเด่นและสิทธิประโยชน์

เงินผลประโยชน์จ่ายคืน คุ้มครองระยะยาว สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
เงินผลประโยชน์จ่ายคืน
คุ้มครองระยะยาว
สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม

คุณสมบัติของผู้สมัครเอาประกัน

  • เพศชาย/หญิง อายุตั้งแต่ 1 เดือน – 70 ปี
  • การตรวจสุขภาพเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทฯ
  • การแถลงสุขภาพตามจริงเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณารับประกันภัย หรือ การพิจารณาจ่ายเงินตามสัญญาประกันภัย
  • การแถลงสุขภาพเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณารับประกันภัย ต้องตอบคำถามเป็นจริงทุกข้อ การแถลงเท็จหรือปกปิดข้อความจริงใดๆ อาจจะเป็นเหตุให้บริษัทฯ ปฏิเสธการรับประกัน และปฏิเสธสินไหมได้

 

คุณลักษณะเด่นเพิ่มเติม

  • คุ้มครองยาวถึงอายุ  99 ปี
  • เบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 18,000 บาท สูงสุดไม่จำกัด
  • สามารถเลือกจำนวนเงินเอาประกันได้สูงสุดถึง 120 เท่า (ขึ้นอยู่กับอายุและเพศ)
  • จัดพอร์ตการลงทุนได้เอง โดยเลือกลงทุนจากกองทุนรวมที่บริหารโดยผู้เชี่ยวชาญ
  • รับโบนัส 0.25% ต่อปี ของมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครองตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 6 เป็นต้นไป
  •  สามารถใช้สิทธิหยุดพักชำระเบี้ยประกันภัย (Premium Holiday) ได้อัตโนมัติโดยยังได้รับความคุ้มครองอยู่ เมื่อชำระเบี้ยประกันภัยครบ 2 ปี

 

 

สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี

ค่าการประกันภัย, ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการประกันภัย, ค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์ สามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 172 ได้ตามหลักเกณฑ์ของสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

 

 

สิทธิประโยชน์และความคุ้มครอง

กรณี เสียชีวิต

บริษัทฯ จะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยของเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง + จำนวนเงินเอาประกันภัยของเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อการออม + มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน

 

กรณี ครบกำหนดสัญญา

บริษัทฯ จะจ่ายมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้แก่ผู้เอาประกันภัย ณ วันครบกำหนดสัญญา

 

โบนัสสำหรับเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง (RPP)

  • จ่ายในอัตรา 0.25% ต่อปี* ของมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง
  • จ่ายทุกงวดการชำระเบี้ย ตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป

หมายเหตุ : การจ่ายโบนัสสำหรับกรมธรรม์ที่ไม่เคยใช้สิทธิลดเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง และไม่เคยถอนเงินจากการขายคืนหน่วยลงทุนสำหรับเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง และไม่เคยหยุดพักชำระเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง และหากมีดำเนินการตามที่แจ้งดังกล่าว การจ่ายโบนัสจะสิ้นสุดลง

*กรณี ชำระเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครองเป็นราย 6 เดือน ราย 3 เดือน หรือ รายเดือน อัตราโบนัสที่ใช้ในการคำนวนจะเท่ากับ 0.25% หารด้วย 2, 4 หรือ 12 ตามลำดับ

 

รายละเอียดแบบประกัน

 

จำนวนเงินเอาประกันภัย

 

เงื่อนไขการชำระเบี้ยประกันภัย

  • หมวดการชำระเบี้ยประกันภัย :

เบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง (RPP)

รายปี ราย 6 เดือน ราย 3 เดือน หรือ รายเดือน

(ต้องชำระล่วงหน้า 2 เดือน)

เบี้ยประกันภัยหลักเพื่อการออม (RSP)

รายปี ราย 6 เดือน ราย 3 เดือน หรือ รายเดือน

(ต้องชำระล่วงหน้า 2 เดือน)

เบี้ยประกันภัยเพิ่มพิเศษ (Top-Up Premium) ชำระได้ตลอดเวลา โดยจะหักค่าดำเนินการประกันภัยก่อนนำไปลงทุน
  • วิธีการชำระเบี้ยประกันปี

งวดแรก / ปีแรก

เงินสด และบัตรเครดิต (วีซ่า หรือมาสเตอร์ หรือ เจซีบีทุกธนาคาร)

งวดต่ออายุ / ปีต่ออายุ

เงินสด, เช็ค บัตรเครดิต (วีซ่า หรือมาสเตอร์ หรือ เจซีบีทุกธนาคาร)

และหักผ่านบัญชีธนาคาร

 

ค่าใช้จ่ายหลักของกรมธรรม์ 

 

ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของกรมธรรม์

 

การใช้สิทธิเกี่ยวกับมูลค่าบัญชีกรมธรรม์ประกันภัย

  • การเวนคืนกรมธรรม์
  • การถอนเงินจากบัญชีกรมธรรม์ประกันภัย
  • การหยุดพักชำระเบี้ย

 

การเวนคืนกรมธรรม์

        เมื่อกรมธรรม์มีมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ และผู้เอาประกันภัยยังมีชีวิตอยู่ ผู้เอาประกันภัยย่อมมีสิทธิที่จะบอกเลิกกรมธรรม์นี้ได้โดยการยื่นคำร้องเป็นหนังสือเพื่อขอเวนคืนกรมธรรม์ โดยจะได้รับมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์และค่าการประกันภัยตามจำนวนวันที่ยังมิได้ให้ความคุ้มครอง (ถ้ามี) และทำให้กรมธรรม์นี้สิ้นผลบังคับ

        การขอเวนคืนกรมธรรม์ บริษัทจะดำเนินการขายหน่วยลงทุนที่ราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุน ณ วันถัดจากวันที่บริษัทได้รับหนังสือแจ้งความประสงค์และอนุมัติ หรือวันที่ประเมินราคาวันแรกที่มีราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามเงื่อนไขระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวนของแต่ละกองทุน ทั้งนี้ หากวันที่ขายคืนหน่วยลงทุนเป็นวันหยุดของกองทุนใด บริษัทจะทำการขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุนนั้นในวันทำการถัดไปที่สามารถทำรายการได้โดยวันที่ขายคืนหน่วยลงทุนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

        หากมีหนี้สินใด ๆ คงค้างภายใต้กรมธรรม์นี้ จำนวนหนี้สินดังกล่าวจะถูกหักออกจากจำนวนเงินที่ได้รับ

 

 

การถอนเงินบางส่วน (ขั้นต่ำ) 

สามารถถอนเงินจากมูลค่าบัญชีกรมธรรม์ประกันภัยโดยการแจ้งให้บริษัทฯ ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรโดยการถอนแต่ละครั้งจำนวนเงินที่ได้รับจะต้องไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท ซึ่งจำนวนเงินที่ได้รับจากการถอนแต่ละครั้งจะเท่ากับจำนวนเงินที่ถอนหักด้วยค่าใช้จ่ายในการถอนมูลค่าบัญชีกรมธรรม์ประกันภัยตามที่ระบุไว้ในตารางค่าใช้จ่ายกรมธรรม์ประกันภัย และมูลค่าบัญชีกรมธรรม์ประกันภัยสุทธิภายหลังจากการถอนจะต้องเหลือไม่น้อยกว่า 8,000 บาท

 

การหยุดพักชำระเบี้ยประกันภัย

สามารถหยุดพักชำระเบี้ยประกันภัยได้ (อัตโนมัติ) ภายหลังการชำระเบี้ยประกันภัย ครบ 2 ปี (ชำระเบี้ยอย่างน้อย 24 เดือน และมูลค่าบัญชีกรมธรรม์ประกันภัยสุทธิมากกว่าศูนย์)

 

สิทธิการให้ความคุ้มครองชีวิตในกรณีมูลค่ากรมธรรม์เท่ากับ หรือน้อยกว่าศูนย์

(NLG = Non Lapse Guaranteed Benefit)

สิทธิการให้ความคุ้มครองชีวิตในกรณีมูลค่ากรมธรรม์เท่ากับ หรือน้อยกว่าศูนย์จะเกิดขึ้นเมื่อผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ยประกันภัยทุกงวดต่อเนื่องตลอดระยะการชำระเบี้ย 5 ปีกรมธรรม์แรกนับจากวันที่กรมธรรม์มีผลบังคับ แม้ว่ามูลค่ากรมธรรม์จะมีค่าติดลบ ผู้เอาประกันภัยจะได้รับสิทธิความคุ้มครองชีวิตตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เลือกไว้ โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้

1. ผู้เอาประกันภัยต้องชำระเบี้ยประกันภัยหลักอย่างต่อเนื่องและครบถ้วน ตามกำหนดชำระเบี้ยประกันภัย และ

2. ไม่เคยมีการถอนเงินจากกรมธรรม์จากการขายคืนหน่วยลงทุนของเบี้ยประกันภัยหลัก และ

3. ไม่เคยทำการลดเบี้ยประกันภัยหลัก

ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ยังชำระไม่ครบ (ถ้ามี) เป็นหนี้สินที่บริษัทฯ จะต้องหักออกจากผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต

 

สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา

ค่าการประกันภัย, ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการประกันภัย, ค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์ สามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 172 ได้ตามหลักเกณฑ์ของสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

 

 

สิ่งที่ผู้เอาประกันภัยควรรู้

1. เป็นประกันชีวิต

ไม่ใช่เงินฝาก ไม่ใช่กองทุนแถมประกัน ไม่ใช่ประกันแถมกองทุน

2. จำนวนเงินเอาประกันภัยมีผลต่อค่าใช้จ่าย

หากต้องการจำนวนเงินเอาประกันภัยสูงค่าการประกันภัยจะสูงตามไปด้วยและจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเมื่อผู้เอาประกันภัยมีอายุมากขึ้น

3. ค่าใช้จ่ายไม่คงที่แม้จ่ายเบี้ยคงที่

ค่าใช้จ่ายบางรายการจะแปรผันกับอายุผู้เอาประกันภัย และผลตอบแทนของกองทุน โปรดดูรายละเอียดในตารางค่าธรรมเนียมกรมธรรม์

4. ถอนเงินจากกรมธรรม์ได้

การถอนเงินจากกรมธรรม์หรือเวนคืนกรมธรรม์เร็วเกินไปจะมีค่าธรรมเนียมสูง โปรดดูรายละเอียดในตาราง

5. เงินลงทุนถูกหักไปชำระค่าธรรมเนียมกรมธรรม์ทุกเดือน

ค่าธรรมเนียมจะหักจากเบี้ยประกันภัยที่จ่ายและจากการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกเดือน และถ้าเบี้ยประกันภัยและเงินลงทุนไม่เพียงพอกับค่าธรรมเนียม กรมธรรม์จะสิ้นอายุทันที ดังนั้นผู้เอาประกันภัยควรศึกษาและดูแลการลงทุนให้เติบโต มิฉะนั้นต้อง Top-Up เพื่อให้กรมธรรม์ ไม่สิ้นอายุ

6. ลดหย่อนภาษีได้เพียงบางส่วน

ลดหย่อนภาษีได้เฉพาะค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมของกรมธรรม์ ส่วนที่นำไปลงทุนลดหย่อนไม่ได้

7. ไม่มีการรับประกันผลตอบแทน

ส่วนเงินลงทุนไม่มีการรับประกันผลตอบแทนตัวเลขที่แสดงในตารางคำนวณผลประโยชน์เป็นเพียงตัวอย่างเพื่อความเข้าใจ

 

 

ข้อควรระวังและพึงปฏิบัติ

  1. พิจารณาความพร้อมทางการเงินในการชำระเบี้ยประกันภัย ก่อนตัดสินใจทำประกัน เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความผูกพันทางการเงินในระยะยาว
  2. ทำความเข้าใจ ความคุ้มครอง เงื่อนไขทั้งส่วนประกันภัย และส่วนลงทุนก่อนตัดสินใจทำประกัน
  3. แม้ว่าข้อมูลและตัวเลขในเอกสารการขายมีความซับซ้อน ผู้เอาประกันภัยจะต้องศึกษาทำความเข้าใจ และสอบถามผู้ขายเมื่อมีข้อสงสัย
  4. ควรกรอกใบสมัครด้วยตนเอง ไม่ลงนามในเอกสารเปล่า และตรวจสอบรายละเอียดในใบสมัครก่อนลงนาม
  5. เรียกรับหลักฐานการรับเงินจากผู้ขายทุกครั้ง โดยต้องสังเกตว่าเป็นหลักฐานของบริษัทจริง
  6. ให้ความสำคัญในการตอบคำถามทางโทรศัพท์จากบริษัทประกันภัยภายหลังการซื้อกรมธรรม์
  7. ติดตามและให้ความสำคัญกับเอกสารที่ได้รับจากบริษัทประกันภัย เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของตนเอง
  8. การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้เอาประกันภัยอาจได้รับเงินคืนมากกว่าหรือน้อยกว่ามูลค่าเบี้ยประกันภัยทั้งสิ้นที่ถูกจัดสรรเข้ากองทุนรวม โดยหากผลการดำเนินงานของกองทุนรวมดี ผู้เอาประกันภัยก็จะได้ผลตอบแทนสูง แต่หากผลการดำเนินงานของกองทุนรวมไม่ดี ผู้เอาประกันภัยจะได้ผลตอบแทนต่ำหรืออาจขาดทุนได้

 

สิทธิของบริษัท

  1. บริษัทสามารถปฏิเสธคำขอเอาประกันภัย หากลูกค้าปฏิเสธการทำ Suitability test หรือ ให้ข้อมูลที่จำเป็นในใบคำขอเอาประกันภัย
  2. กรณีผู้เอาประกันภัยฆ่าตัวตายใน 1 ปี หรือถูกผู้รับผลประโยชน์ฆ่าตาย บริษัทมีสิทธิบอกล้างสัญญา
  3. กรณีผู้เอาประกันภัยเปิดเผยข้อมูลเท็จ ปกปิดความจริง บริษัทสามารถบอกล้างสัญญาได้
  4. กรณีผู้ขอเอาประกันภัยมีปัญหาทางสุขภาพ บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอเอาประกัน

 

ช่องทางการร้องเรียน

ผู้เอาประกันภัย สามารถร้องเรียนได้ที่หน่วยงานดังต่อไปนี้

  1. หน่วยรับเรื่องร้องเรียน ศูนย์ดูแลสิทธิผู้เอาประกันภัย ชั้น 6 อาคารไทยประกันชีวิต หรือ โทร. 1124
  2. สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สายด่วนประกันภัย โทร. 1186 หรือ www.oic.or.th
  3. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.) Help Center โทร 0-2263-6000 หรือ www.sec.or.th
  4. นาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0 2626 7777

 

ความคุ้มครองสัญญาเพิ่มเติม 3 หมวด 4 แบบ

หมวดที่ 1 สัญญาเพิ่มเติม การประกันภัยอุบัติเหตุ

 

1. สัญญาเพิ่มเติม การประกันภัยอุบัติเหตุ (อ.1)

(อายุรับประกัน อายุ 1 เดือน – 64 ปี คุ้มครอง ถึงอายุ 65 ปี)

2. สัญญาเพิ่มเติม คุ้มครองเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะและทุพพลภาพ (อ.2)

(อายุรับประกัน อายุ 5  – 64 ปี คุ้มครอง ถึงอายุ 65 ปี)

 

หมวดที่ 2 สัญญาเพิ่มเติม ค่ารักษาพยาบาลรายวัน (รพ.)

 

(อายุรับประกันอายุ 1 เดือน – 65 ปี คุ้มครองถึงอายุ 70 ปี)

หมวดที่ 3 สัญญาเพิ่มเติม คุ้มครองโรคร้ายแรง มัลติเพย์

 

(อายุรับประกันอายุ 1 เดือน – 65 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี)

หมวดที่ 1 สัญญาเพิ่มเติม การประกันภัยอุบัติเหตุ

 

จุดเด่น สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยอุบัติเหตุ

 

  1. รับความคุ้มครอง ครอบคลุมทั้งกรณีสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะและทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
  2. รับค่าชดเชยจากอุบัติเหตุ ในฐานะผู้ป่วยใน ผลประโยชน์รวมสูงสุด 20 สัปดาห์
  3. เบี้ยต่ำ ให้ความคุ้มครองที่ทุนประกัน สูงสุด 30 ล้านบาท
  4. รับเงินค่าชดเชย กรณีเข้ารับการผ่าตัดจากอุบัติเหตุ
  5. รับความคุ้มครอง 2 เท่า จากอุบัติเหตุพิเศษ

รายละเอียดเงื่อนไขรับประกัน

สัญญาเพิ่มเติม การประกันภัยอุบัติเหตุ (อ.1)

คุ้มครองเสียชีวิตการสูญเสียอวัยวะ

และทุพพลภาพ (อ.2)

อายุรับประกัน

อายุ 1 เดือน – 64 ปี

อายุ 5 – 64 ปี

ต่ออายุกรมธรรม์ได้ถึงอายุ

64 ปี (คุ้มครองถึงอายุ 65 ปี)

64 ปี (คุ้มครองถึงอายุ 65 ปี)

จำนวนเงินเอาประกันภัยขึ้นต่ำ

50,000 บาท

50,000 บาท

จำนวนเงินเอาประกันภัย

สูงสุดต่อราย

(จำนวนเงินเอาประกันภัยของ

กรมธรรม์หลัก)

อายุ 1 เดือน - 4 ปี จำนวนเงินเอาประกันภัยสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท

ไม่คุ้มครอง

อายุ 5 - 15 ปี จำนวนเงินเอาประกันภัยสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท

อายุ 5 - 15 ปี จำนวนเงินเอาประกันภัย สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท

(อ.1 และ/หรือ อ.2 รวมกันไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยหลัก สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท)

 อายุ 16 ปี ขึ้นไป

1. อาชีพนักเรียน / นักศึกษา / เยาวชน

- ไม่เกิน 2 เท่าของจำนวนเงิน

เอาประกันภัย สูงสุดไม่เกิน 4 ล้านบาท

อายุ 16 ปี ขึ้นไป

1. อาชีพนักเรียน / นักศึกษา / เยาวชน

- ไม่เกิน 2 เท่าของจำนวนเงิน

เอาประกันภัย สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท

(อ.1 และ/หรือ อ.2 รวมกันไม่เกิน 2 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัยหลัก สูงสุดไม่เกิน 4 ล้านบาท)

2. อาชีพแม่บ้าน / พ่อบ้าน

- ไม่เกิน 3 เท่าของจำนวนเงิน

เอาประกันภัย สูงสุดไม่เกิน 8 ล้านบาท

2. อาชีพแม่บ้าน / พ่อบ้าน

- ไม่เกิน 3 เท่าของจำนวนเงิน

เอาประกันภัย สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท

(อ.1 และ/หรือ อ.2 รวมกันไม่เกิน 3 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัยหลัก สูงสุดไม่เกิน 8 ล้านบาท)

3. ผู้มีอาชีพและรายได้

- ไม่เกิน 6 เท่าของจำนวนเงิน

เอาประกันภัย สูงสุดไม่เกิน 30 ล้านบาท

3. ผู้มีอาชีพและรายได้

- ไม่เกิน 6 เท่าของจำนวนเงิน

เอาประกันภัย สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท

(อ.1 และ/หรือ อ.2 รวมกันไม่เกิน 6 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัยหลัก สูงสุดไม่เกิน 30 ล้านบาท)

ลดหย่อนภาษี

30% ของเบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุ

53% ของเบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุ

วิธีการชำระเบี้ยประกันภัย

ตามวิธีการชำระเบี้ยประกันภัยของสัญญาประกันชีวิต

ช่วงเวลาในการซื้อ

ซื้อพร้อมสัญญาประกันชีวิตในครั้งแรก หรือซื้อเพิ่มภายหลังการออกกรมธรรม์ได้

ผลประโยชน์โดยย่อ

สัญญาเพิ่มเติม การประกันภัยอุบัติเหตุ (อ.1)

คุ้มครองเสียชีวิตการสูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพ (อ.2)

 

1. เสียชีวิต

100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยอุบัติเหตุ

2. การสูญเสียอวัยวะและสายตา

2.1 มือ 2 ข้างหรือเท้า 2 ข้างหรือสายตา 2 ข้าง

100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยอุบัติเหตุ

2.2 มือ 1 ข้างหรือเท้า 1 ข้าง

หรือมือ 1 ข้างและสายตา 1 ข้าง

หรือเท้า 1 ข้างและสายตา 1 ข้าง

100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยอุบัติเหตุ

2.3 มือ 1 ข้างหรือเท้า 1 ข้างหรือสายตา 1 ข้าง

60% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยอุบัติเหตุ

2.4 นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ของมือข้างเดียวกัน โดยต้องตัดออกไปที่หรือเหนือโคนนิ้ว

25% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยอุบัติเหตุ

3. ค่าชดเชยทุพพลภาพชั่วคราว

ไม่คุ้มครอง

 

(ก) ทุพพลภาพชั่วคราวสิ้นเชิง ชดเชยสัปดาห์ละ

จ่ายร้อยละ 0.6 ต่อสัปดาห์*

(ข) ทุพพลภาพชั่วคราวบางส่วน ชดเชยสัปดาห์ละ

จ่ายร้อยละ 0.2 ต่อสัปดาห์*

โดยมีเงื่อนไขว่าจะจ่ายค่าชดเชยตามข้อ (3) นี้ตลอดระยะเวลาที่ยังทุพพลภาพ อยู่รวมกันไม่เกิน 52 สัปดาห์

 

4. ค่าชดเชยการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ปีละ
โดยมีเงื่อนไขว่าได้จ่ายค่าชดเชยให้ภายใต้ข้อ 3เป็นเวลา 52 สัปดาห์แล้ว (สูงสุดไม่เกิน 10 ปี)

จ่ายร้อยละ 10 ต่อปี*

5. การเข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นคนไข้ในของโรงพยาบาลที่ได้รับอนุญาตโดยถูกต้องชดเชยสัปดาห์ละ (สูงสุดไม่เกิน 20 สัปดาห์)

จ่ายร้อยละ 0.3 ต่อสัปดาห์*

6. ค่าชดเชยการผ่าตัดหากผู้เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุ และต้องเข้ารับการรักษาการผ่าตัด

จ่ายตามผลประโยชน์

ตามตารางผลประโยชน์ค่าผ่าตัด

เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามรายละเอียดในกรมธรรม์

บริษัทจะจ่ายจำนวนเงินเป็น 2 เท่าของผลประโยชน์ในตารางข้างต้นกรณีที่ 1 ถ้าอุบัติเหตุเกิดขึ้นแก่ยานพาหนะหรือลิฟต์ทำให้เกิดการสูญเสียดังกล่าว

(ก) ในยานพาหนะสาธารณะที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องจักรกล ซึ่งผู้ทำการขนส่งสาธารณะเป็นผู้รับจ้างทำการขนส่งบนเส้นทางขนส่งทางบกที่ได้กำหนดไว้ หรือ

(ข) ขณะที่ผู้เอาประกันภัยอยู่ในลิฟต์ (ยกเว้นลิฟต์ที่ใช้ในเหมืองแร่หรือสถานที่ก่อสร้าง) หรือกรณีที่ 2 การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตที่เกิดขึ้น เนื่องจากไฟไหม้โรงมหรสพ โรงแรม หรืออาคารสาธารณะอื่นใด ซึ่งผู้เอาประกันภัยอยู่ ณ สถานที่นั้นในขณะที่เริ่มไฟไหม้

 

* ของจำนวนเงินเอาประกันภัยอุบัติเหตุ

 

 

ข้อยกเว้น สัญญาเพิ่มเติม อ.1 และ อ.2

   

  • ผู้เอาประกันถูกฆ่า หรือถูกทำร้ายร่างกายโดยเจตนา
  • ผู้เอาประกันฆ่าตัวตาย พยายามฆ่าตัวตาย
  • ผู้เอาประกันตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์ของสารเสพติด หรือยาเสพติดให้โทษ จนไม่สามารถครองสติได้
  • ผู้เอาประกันตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุรา โดยมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดตั้งแต่ 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป
  • การเข้าร่วมหรือมีส่วนยั่วยุให้เกิดการทะเลาะวิวาท
  • การก่ออาชญากรรม หรือถูกจับกุมเพราะการก่ออาชญากรรม
  • ผู้เอาประกันภัยปฎิบัติหน้าที่เป็นทหาร ตำรวจ หรืออาสาสมัคร การปฎิบัติการปราบปราม หรือสงคราม
  • การล่าสัตว์
  • การแข่งกีฬา
  • การโดยสารเครื่องบินที่มิใช่การพาณิชย์
  • การได้รับเชื้อโรค เว้นแต่การการติดเชื้อ หรือบาดทะยัก หรือโรคกลัวนํ้า ซึ่งเกิดขึ้นจากบาดแผลที่ได้รับอุบัติเหตุ

หมวดที่ 2 สัญญาเพิ่มเติม ค่ารักษาพยาบาลรายวัน (รพ.)

 

จุดเด่น สัญญาเพิ่มเติมค่ารักษาพยาบาลรายวัน (รพ.)

 

  1. รับเงินชดเชยแม้เจ็บป่วยตอนนอนโรงพยาบาลเพื่อแบ่งเบาภาระทางการเงินในวันที่ไม่สามารถทำงานได้
  2. รับผลประโยชน์ กรณีเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน สูงสุดถึง 1,250 วัน ต่อการบาดเจ็บหรือป่วยหนึ่งครั้ง
  3. รับเงินชดเชย 20 เท่า ของค่ารักษาพยาบาล กรณีป่วยด้วยโรคร้ายแรง
  4. รับเงินชดเชย 200 เท่า ของค่ารักษาพยาบาล กรณีเสียชีวิตด้วยโรคร้ายแรง
  5. รับเงินชดเชยรายวัน สูงสุดถึง 7,000 บาท
  6. เบิกรวมกับสวัสดิการอื่นๆ ได้

 

เงื่อนไขรับประกัน

อายุรับประกัน

อายุ 1 เดือน - 65 ปี

ต่ออายุกรมธรรม์ได้ถึงอายุ

69 ปี (คุ้มครองถึงอายุ 70 ปี)

ค่าชดเชยที่ซื้อได้

500 - 7,000 บาท (ขึ้นอยู่กับอายุและจำนวนเงินเอาประกันภัยหลัก)

วิธีการชำระเบี้ยประกันภัย

ตามวิธีการชำระเบี้ยประกันภัยของสัญญาประกันชีวิต

ช่วงเวลาในการซื้อ

ซื้อพร้อมสัญญาประกันชีวิตในครั้งแรก หรือซื้อเพิ่มภายหลังการออกกรมธรรม์ได้

ผลประโยชน์ 200 เท่า

ผลประโยชน์ 20 เท่า

ผลประโยชน์ 1เท่า ไม่เกิน 1,250 วัน

ต่อการบาดเจ็บ (อุบัติเหตุ)

หรือเจ็บป่วย 1 ครั้ง

ความคุ้มครอง

ความคุ้มครอง

ความคุ้มครอง

กรณีเสียชีวิต ด้วยโรคร้ายแรง ได้แก่

· เอดส์

· มะเร็ง

· ตับแข็ง

· โปลิโอ

· ถุงลมโป่งพอง

· กล้ามเนื้อเสื่อม

· การแข็งตัวของเนื้อเยื่อโดยทั่วไป

(เท่าของค่าชดเชยรายวัน)

กรณีป่วยและเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยในเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมงด้วยโรคร้ายแรง ได้แก่

· เอดส์

· มะเร็ง

· ตับแข็ง

· โปลิโอ

· ถุงลมโป่งพอง

· กล้ามเนื้อเสื่อม

· การแข็งตัวของเนื้อเยื่อโดยทั่วไป

(เท่าของค่าชดเชยรายวัน)

กรณีเข้ารับการรักษาตัว

ในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน

เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า

12 ชั่วโมง

หมายเหตุ ไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน 1 ปี และบริษัทฯ จะไม่จ่ายเงินชดเชยในระยะเวลา 2 ปีนับจากวันเริ่มสัญญา

ข้อยกเว้นทั่วไป สัญญาพิเศษเพิ่มเติมฉบับนี้ไม่คุ้มครองการบาดเจ็บหรือป่วยไข้อันมีสาเหตุมาจาก

 

  1. การพยายามฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายร่างกายตนเอง
  2. การรักษาพยาบาลเนื่องจากโรคจิต
  3. การมีครรภ์การคลอดบุตร
  4. โรคหรือความบกพร่องของร่างกายซึ่งเป็นมาแต่กำเนิด
  5. การติดยาเสพติด พิษสุราเรื้อรัง

หมวดที่ 3 สัญญาเพิ่มเติม คุ้มครองโรคร้ายแรง มัลติเพย์

 

จุดเด่น สัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง มัลติเพย์

ใช้เงินก้อนเล็ก เซฟเงินก้อนใหญ่

 

1. คุ้มครอง 110 โรคร้ายแรง

  • ครอบคลุม 8 กลุ่มโรค จ่ายทุกระยะ (กลุ่มโรคมะเร็ง กลุ่มอวัยวะและระบบต่างๆ ที่สำคัญ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • กลุ่มระบบประสาท กลุ่มโรคร้ายอื่นๆ กลุ่มโรคเด็กกลุ่มโรคผู้สูงอายุ กลุ่มโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน)

2. เจอ จ่าย ไม่จบ

  • รับสินไหมทดแทนครบ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย (นับรวมทุกระยะ ทุกกลุ่มโรค) ยังได้รับความคุ้มครองต่อ โดยไม่ต้องชำระเบี้ยของสัญญาเพิ่มเติมอีก

3. เบี้ยประกันภัยสามารถลดหย่อนภาษีได้ทั้งหมด ตามกฎเกณฑ์ที่สรรพากรกำหนด

4. คุ้มครองโรคร้ายแรงสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ

  • สำหรับเด็กอายุ 1 เดือน - 18 ปี เพิ่มความคุ้มครองโรคร้ายแรงในเด็ก 10 โรค
  • สำหรับผู้สูงอายุตั้งแต่ 51 ปีขึ้นไป เพิ่มความคุ้มครองกลุ่มโรคร้ายแรงในผู้สูงอายุ 3 โรค

5. เบี้ยเริ่มต้นหลักพันสร้างความคุ้มครองโรคร้ายแรง หลักแสน

เงื่อนไขรับประกัน สัญญาเพิ่มเติม คุ้มครองโรคร้ายแรง มัลติเพย์

ระยะเวลาเอาประกันภัย

อายุตั้งแต่ 1 เดือน – 65 ปี

(ขยายความคุ้มครอง ถึงอายุ 85 ปี)

ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย

1 ปี สามารถต่อสัญญาได้ตามระยะเวลาที่สั้นกว่าระหว่างระยะเวลาเอาประกันภัย

ของสัญญาประกันชีวิต หรือ ต่ออายุสัญญาได้จนถึงอายุ 85 ปี

จำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ

1 ปี สามารถต่อสัญญาได้ตามระยะเวลาที่สั้นกว่าระหว่างระยะเวลา

เอาประกันภัยของสัญญาประกันชีวิต หรือ ต่ออายุสัญญาได้จนถึงอายุ 84 ปี

จำนวนเงินเอาประกันภัยสูงสุด

500,000 บาท (จำนวนเงินเอาประกันภัยของสัญญาหลักขั้นต่ำ 100,000 บาท)

วิธีการชำระเบี้ยประกันภัย

จำนวนเงินเอาประกันภัยสัญญาเพิ่มเติมสูงสุด

อายุ 1 เดือน – 15 ปี หรือผู้ไม่มีอาชีพรายได้ : 3 ล้านบาท

(นับรวมทุกกรมธรรมเฉพาะสัญญาเพิ่มเติม คุ้มครองโรคร้ายแรง มัลติเพย์)

อายุ 16 ปี ขึ้นไป และมีอาชีพรายได้ : 5 ล้านบาท

(นับรวมทุกกรมธรรม์เฉพาะสัญญาเพิ่มเติม คุ้มครองโรคร้ายแรง มัลติเพย์)

ช่วงเวลาที่สามารถซื้อได้

ตามวิธีการชำระเบี้ยประกันภัยของสัญญาประกันชีวิต

ระยะเวลาเอาประกันภัย

ซื้อพร้อมสัญญาประกันชีวิตในครั้งแรกที่ขอเอาประกันภัยเท่านั้น

(ไม่สามารถซื้อเพิ่ม ภายหลังการออกกรมธรรม์ได้)

ระดับ

กลุ่มโรคที่ 1

กลุ่มโรคที่ 2

กลุ่มโรคที่ 3

กลุ่มโรคที่ 4

กลุ่มโรคที่ 5

ความรุนแรงของโรคร้ายแรง

กลุ่มโรคมะเร็ง

กลุ่มโรคร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะและระบบต่างๆ

ที่สำคัญ

กลุ่มโรคร้ายที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือด

กลุ่มโรคร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท

กลุ่มโรคร้ายแรงอื่นๆ

จำนวนโรคที่คุ้มครอง

3 ระยะ

29 โรค

15 โรค

31 โรค

13 โรค

ระยะเริ่มต้น*

25%

25%

25%

25%

25%

ระยะปานกลาง*

50%

50%

50%

50%

50%

ระยะรุนแรง*

100%

100%

100%

100%

100%

รวมผลประโยชน์สูงสุดต่อกลุ่มโรค*

100%

100%

100%

100%

100%

รวมผลประโยชน์โรคร้ายแรงสูงสุดของสัญญาเพิ่มเติม

500% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยสัญญาเพิ่มเติม

ผลประโยชน์สำหรับกลุ่มโรคร้ายแรง

กลุ่มโรคที่ 6

กลุ่มโรคที่ 7

กลุ่มโรคที่ 8

10 โรค

3 โรค

4 โรค

25% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ต่อโรคสูงสุดไม่เกิน 4 โรค

ที่แตกต่างจากโรคที่ได้จ่ายผลประโยชน์ไปแล้ว

ทั้งนี้รวมกันไม่เกิน 100%

ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

25% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อโรค

สูงสุดไม่เกิน 3 โรค

ที่แตกต่างจากโรคที่ได้จ่ายผลประโยชน์ไปแล้ว

ทั้งนี้รวมกันไม่เกิน 75%

ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

25% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อโรค

เมื่อจ่ายผลประโยชน์นี้แล้ว

ให้ความคุ้มครองข้อนี้สิ้นสุดลง

 

*ของจำนวนเงินเอาประกันภัยสัญญาเพิ่มเติม คุ้มครองโรคร้ายแรง มัลติเพย์

หมายเหตุ

 
  • ภายใต้สัญญาเพิ่มเติมนี้จะไม่คุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้นภายใน 90 วัน นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ หรือหากมีการต่ออายุสัญญาเมื่อสัญญาเพิ่มเติมนี้สิ้นผลบังคับ (Reinstatement) ให้นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามการต่ออายุครั้งสุดท้าย
  • บริษัทฯ จะจ่ายผลประโยชน์ของโรคร้ายแรงระยะรุนแรง ก็ต่อเมื่ออความผิดปกติ การปรากฏ หรือการทราบอาการของโรคจากการวินิจฉัยของแพทย์เป็นครั้งแรกนั้นได้พ้นระยะเวลารอคอย ตามการเรียกร้องสินไหมดังต่อไปนี้

 

1) กรณีมีการเรียกร้องสินไหมในกลุ่มโรคที่2 (กลุ่มโรคร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะและระบบต่างๆ ที่สำคัญ) ภายหลังจากการเรียกร้องสินไหมในกลุ่มโรคที่1 (โรคมะเร็ง) การเรียกร้องสินไหมในกลุ่มโรคที่ 2 นั้นจะต้องเกิดขึ้นภายหลังจากวันที่รักษาหายขาดของโรคมะเร็ง และมีระยะเวลาการปลอดการรักษาโรคมะเร็งอย่างน้อย 1 ปี

2) กรณีที่มีการเรียกร้องสินไหมโรคร้ายแรงระยะรุนแรง นอกเหนือจากข้อ 1) การเรียกร้องสินไหมในกลุ่มโรคร้ายแรงระยะรุนแรงครั้งถัดไป จะต้องเกิดขึ้นภายหลังการวินิจฉัยโรคร้ายแรงระยะรุนแรงครั้งล่าสุดอย่างน้อย 1 ปี สำหรับการเรียกร้อง

 

หมายเหตุ

 
  • ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเพื่อประกอบการเสนอขายเท่านั้น มิใช่ส่วนหนึ่งส่วนใดของสัญญาประกันภัย เพื่อประโยชน์สูงสุดผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษา อ่าน และทำความเข้าใจข้อมูลเพิ่มเติมในกรมธรรม์
  • ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันทุกครั้ง
  • ผลิตภัณฑ์นี้เป็นการประกันชีวิต มิใช่การฝากเงิน เพื่อสิทธิประโยชน์สูงสุดจากกรมธรรม์ ผู้ขอเอาประกันภัยควรชำระเบี้ยประกันภัยจนครบระยะเวลาชำระเบี้ย และถือครองกรมธรรม์จนครบกำหนดสัญญา หากกรมธรรม์ยุติความคุ้มครองก่อนครบกำหนดสัญญา ผู้ขอเอาประกันภัยอาจไม่ได้รับเงินต้นหรือได้รับเงินคืนไม่เต็มจำนวน
  • ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิต ให้บริการและรับผิดชอบในฐานะนายหน้าประกันชีวิตเท่านั้น หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับการรับประกันชีวิต กรุณาติดต่อบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โทร. 0 2247 0247
  • ช่องทางติดต่อธนาคาร : ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา, CIMB Thai Care Center 0 2626 7777, CIMB Thai website www.cimbthai.com
  • รับประกันชีวิตโดย บมจ.ไทยประกันชีวิต ซึ่งการรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไข และหลักเกณฑ์ของบมจ.ไทยประกันชีวิต